"บิ๊กหมู" พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. พบสื่อมวลชน ยืนยันในส่วนกองทัพไม่พบการทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์ และยังไม่พบว่ามีทหารรายใดเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ถ้าเกิดมีก็พร้อมดำเนินคดีถึงที่สุด ส่วนกระแสข่าว "หักหัวคิว" ในการก่อสร้างรูปหล่อต่าง ๆ นั้นโยนให้ไปถาม "บิ๊กโด่ง" พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร อดีต ผบ.ทบ.
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 ที่กองบัญชาการกองทัพบก มีรายงานว่า พล.อ. ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เปิดแถลงข่าวครั้งแรก ในประเด็นผลสอบการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่มี พล.อ. วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ประธานคณะที่ปรึกษา ทบ. ทำหน้าที่เป็นประธานการตรวจสอบ ทั้งนี้ ก่อนการแถลงข่าว ทางเจ้าหน้าที่ห้ามไม่ให้สื่อโทรทัศน์ทุกช่องออกอากาศถ่ายทอดสด พร้อมกับย้ำว่า วันนี้ ทาง ผบ.ทบ. ไม่ได้แถลงเป็นทางการ แค่มาตอบข้อสงสัยของสื่อ
ต่อมา เวลาประมาณ 11.45 น. พล.อ. ธีรชัย ผบ.ทบ. หรือ "บิ๊กหมู" เดินทางมาถึงห้องแถลงแล้ว พร้อมชี้แจงความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์
พล.อ. ธีรชัย กล่าวว่า ในส่วนของกองทัพบก จากการสอบสวนใน 7 วันที่ผ่านมาของโครงการอุทยานราชภักดิ์ไม่พบทุจริต ดำเนินการโปร่งใส แต่ถ้าแอบแฝงผลประโยชน์จะดำเนินการเด็ดขาด ขณะที่ผลจากการตรวจสอบการเงิน ไม่พบทุจริตและมีหลักฐานแสดงต่อสาธารณะได้ นอกจากนั้น ที่ดินอุทยานฯ ก็เป็นของกองทัพบก ฉะนั้นการรับงานอุทยานฯ มาสานต่อต้องตรวจสอบความคืบหน้าว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง
"อุทยานราชภักดิ์อยู่ในที่กองทัพบก กองทัพก็ต้องดูแลต่อไป" พล.อ. ธีรชัย ระบุ และกล่าวด้วยว่า ในบัญชีการบริจาคก็ไม่พบการทุจริตเช่นกัน ปัจจุบันเหลือเงินอยู่ 33 ล้านบาท ไม่รวมเงินที่อยู่ในมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ อีก 120 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว เส้นทางการเงินเป็นไปอย่างถูกต้อง ยอดก่อสร้างทั้งหมดอยู่ที่ราวพันล้านบาท
สำหรับกรณีมีกระแสข่าวพบการเรียกค่าหัวคิวจากโรงหล่อ พล.อ. ธีรชัย กล่าวว่า ให้ไปถาม พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร (อดีต ผบ.ทบ. และประธานมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์) ซึ่งขณะนี้ได้เกษียณไปแล้ว พร้อมยํ้าว่า ยังไม่พบนายทหารเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกรณีทุจริตอุทยานราชภักดิ์ แต่ถ้าพบจะดำเนินการถึงที่สุด โครงการนี้ไม่ต้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มาตรวจสอบ เพราะไม่เกี่ยวข้องกัน
พล.อ.ธีรชัย ระบุด้วยว่า โดยตำแหน่งตนต้องเข้าไปสานงานต่อจาก พล.อ.อุดมเดช ซึ่งจากการตรวจสอบบัญชี พบว่าการเบิกจ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างถูกต้องตามระเบียบขั้นตอน ไม่มีการทุจริต พร้อมยืนยันว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี โปร่งใส แต่หากพบมีบุคคลกระทำความผิดจริง ก็จะไม่ละเว้นโดยเด็ดขาด ขอยืนยันว่า งบประมาณที่ดำเนินการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ เป็นเงินบริจาคทั้งหมด ส่วนกิจกรรม ไบค์ ฟอร์ราชภักดิ์ แอนด์ คอนเสิร์ต เมื่อวันที่ 12 ก.ย. มีการจำหน่ายโต๊ะจีน ในราคา 1 ล้านบาท และต้นไม้ในอุทยานราชภักดิ์ ในราคาต้นละ 3 แสนบาท จริง เพื่อนำเงินเป็นเงินบริจาคเข้ากองทุนการจัดสร้างอุทยานฯ
ผบ.ทบ. เผยว่า ในการก่อสร้างได้ใช้โรงหล่อทั้งหมด 6 โรง ในแต่ละโรง มีราคาตั้งแต่หล่อพระรูปองค์ละประมาณ 41 - 45 ล้านบาท ถูกแบ่งจ่าย เป็น 5 งวด ซึ่งงวดสุดท้ายยังไม่ได้จ่าย จะต้องดูประกันคุณภาพ ขณะที่มีโรงหล่อที่บริจาคเงินให้แก่มูลนิธิ จำนวน 20 ล้าน และมีใบเสร็จเรียบร้อย
วันเดียวกัน เพจบีบีซีไทย ของสำนักข่าวบีบีซี รายงานการแถลงข่าวดังกล่าวเช่นกัน โดยระบุว่า พล.อ.ธีรชัย ผบ.ทบ. ชี้แจงกับสื่อมวลชนที่กองทัพบก กล่าวถึงเรื่องผลการสอบสวนการทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่า ไม่ปรากฎว่ามีการทุจริต การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้องตามระเบียบ ไม่มีความจำเป็นที่องค์กรตรวจสอบต่าง ๆ จะต้องเข้าไปตรวจสอบ พร้อมกับย้ำว่ากองทัพไม่ได้ทำอะไรผิด สำหรับนายทหารที่หนีไปต่างประเทศหรือที่ลาออกจากราชการก็ไม่เกี่ยวข้องกับโครงการ เป็นคนละเรื่องกัน แต่หลังจากนี้หากพบว่ามีผู้หาประโยชน์จากโครงการก็จะลงโทษโดยไม่ละเว้น
สำหรับเรื่องของการหักค่าหัวคิว ผบ.ทบ. กล่าวกับสื่อมวลชนว่า "เรื่องนี้ต้องไปถาม พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร อดีต ผบ.ทบ. และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม" เพจบีบีซีไทย รายงาน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
pptvthailand.com