เรื่องเอเลี่ยนหรือสิ่งมีชีวิตนอกโลก ยังคงเป็นเรื่องที่คาใจคนทั่วโลกและนักวิทยาศาสตร์มาเนิ่นนาน นับตั้งแต่ได้เรียนรู้ว่าโลกไม่ได้เป็นแค่ดาวดวงเดียวในจักรวาล เมื่อแหงนมองดูบนฟ้า ดวงดาวเท่าที่เห็นด้วยตาก็มีตั้งมากมาย หนึ่งในนั้นอาจสักดวงที่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ก็เป็นได้ แต่ทำไมเราจึงไม่เคยเห็นพวกเขาจัง ๆ แบบตัวเป็น ๆ เลยสักครั้ง ?
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 เว็บไซต์เดลี่เมล ได้รายงานการนำเสนอทฤษฎีใหม่ชวนคิดชื่อ "เฟอร์มี่ พาราด็อกซ์" (Fermi Paradox) ฉบับ ดิมิตาร์ ซัสเซลอฟ นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุว่า เหตุที่มนุษย์เรายังไม่เคยได้พบเจอสิ่งมีชีวิตนอกโลกจากดาวอื่นเสียทีนั้น ไม่ใช่เพราะว่ามนุษย์ต่างดาวไม่มีอยู่จริง แต่เป็นเพราะสิ่งมีชีวิตต่างดาวยังไม่ทันจะได้เริ่มการวิวัฒนาการต่างหาก หากเทียบแล้วก็ไม่ต่างจากโลกสมัยบรรพกาล ที่กว่าจะมีมนุษย์ขึ้นมาได้ ก็เริ่มต้นมาจากสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและผ่านการวิวัฒนาการมาอย่างยาวนาน
ดิมิตาร์ ระบุว่า กาแล็กซีกว่า 2 แสนล้านกาแล็กซีเท่าที่สำรวจพบในจักรวาลนี้ ยังสามารถเพิ่มจำนวนขึ้นได้อีกเรื่อย ๆ และเพราะดาวเคราะห์และสิ่งชีวิตที่มีอยู่ถือว่ายังอ่อนเยาว์นักในจักรวาล มนุษย์เราจึงไม่ใช่พวกที่เกิดมาช้า แต่อาจเป็นสิ่งมีชีวิตพวกแรก ๆ ของจักรวาลด้วยซ้ำ
นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์รายนี้ ได้เขียนไว้ในหนังสือ The Life of Super-Earth ของตนเอง ว่า กาแล็กซีทั้งหลายเพิ่งจะเสถียรมากพอที่ก่อเกิดดาวเคราะห์ได้เมื่อราว 9 พันล้านปีก่อน ส่วนดาวเคราะห์อย่างโลกหรือที่ใหญ่กว่าโลก (Super-Earths) เริ่มก่อตัวเมื่อ 7-8 พันล้านปีที่ผ่านมา ก่อนที่องค์ประกอบจำเป็นที่เอื้อต่อการกำเนิดสิ่งมีชีวิตจะเกิดขึ้นตามมา ฉะนั้น ในหลาย ๆ ระบบดาวที่ยังไม่เสถียร ก็ต้องรอเวลาให้ผ่านไปอีกสักหน่อยกว่าที่จะมีสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ก่อกำเนิดขึ้นมาได้
นอกจากนี้ ทฤษฎีของดิมิตาร์ยังสอดคล้องไปกับ NASA ที่ได้เผยในงานสัมมนาที่กรุงวอชิงตัน ในปี 2558 ที่แสดงความมั่นใจว่า อีกไม่เกิน 100 ปี มนุษยชาติมีแนวโน้มอย่างมากที่จะได้พบสิ่งมีชีวิตนอกโลก อย่างน้อยก็จะได้พบหลักฐานที่ชี้บ่งอย่างชัดเจนว่ามีสิ่งมีชีวิตบนต่างดาวภายใน 20 ปีข้างหน้านี้ แม้อาจจะอยู่ในรูปของ "จุลชีพ" ก็ตาม
"มันไม่ใช่เรื่องความเป็นไปได้อีกแล้ว แต่เป็นเรื่องของมันจะเป็นไปได้เมื่อไร เราไม่ได้พูดถึงเอเลี่ยนตัวสีเขียว แต่เรากำลังพูดถึงสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอย่างจุลชีพแล้วในตอนนี้" เจฟฟรีย์ นิวมาร์ก นักสุริยะฟิสิกส์ของ NASA กล่าว
ทั้งนี้ NASA ได้ประกาศความมั่นใจที่จะค้นพบสิ่งมีชีวิตต่างดาว หลังจากมีการศึกษาพบว่าพื้นที่กว่า 50% ทางตอนเหนือของดาวยูเรนัสเคยเป็นมหาสมุทรที่มีความลึกถึง 1 ไมล์ (ประมาณ 1.6 กิโลเมตร) ต่อเนื่องด้วยการค้นพบอันน่าตื่นเต้นในเดือนกันยายน 2558 ว่า มีทางน้ำบนพื้นผิวดาวอังคาร อันอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ของการมีสิ่งมีชีวิตใด ๆ อยู่ก็เป็นได้ (อ่านข่าว NASA ค้นพบน้ำบนดาวอังคาร-เดินหน้าค้นหาสิ่งมีชีวิต )
