IS ประกาศอยู่เบื้องหลังเหตุกราดยิงในบาร์เกย์ ด้าน FBI ยังไม่พบความเชื่อมโยง แต่เป็นไปได้ว่าเหตุจูงใจมาจากทั้งความเกลียดชังกลุ่มรักร่วมเพศและคลั่งศาสนา
กลายเป็นข่าวสลดที่ช็อกไปทั่วโลกจริง ๆ สำหรับกรณีนายโอมาร์ มาทีน หนุ่มวัย 29 ปี ได้ก่อเหตุอุกอาจเปิดฉากกราดยิงคนบริสุทธิ์ในบาร์เกย์ "พอลส์ ไนต์คลับ" เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุด IS กลุ่มก่อการร้ายสุดเหี้ยมโหดของโลกก็ได้ออกมาอ้างตัวว่าอยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายครั้งนี้ แต่ FBI ยังไม่พบความเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า หลังจากเกิดเหตุกราดยิงครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ดังกล่าว กลุ่มก่อการร้าย IS ก็ได้ประกาศอ้างตัวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุก่อการร้ายนี้ โดยระบุว่า "การก่อการร้ายติดอาวุธที่โจมตีบาร์เกย์ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บรวมแล้วนับร้อยคนนั้น เป็นฝีมือของนักรบ IS"
โอมาร์ มาทีน มือปืนผู้ก่อเหตุ
ภาพจาก myspace.com / AFP
ขณะที่ทางด้านนายเซดดิก มาทีน พ่อของโอมาร์ผู้ก่อเหตุ ได้เผยว่า
สิ่งที่ลูกทำลงไปไม่เกี่ยวกับความเชื่อใด
คิดว่าน่าจะเป็นเพราะลูกชายไม่ชอบการเปิดเผยรสนิยมของกลุ่มคนรักร่วมเพศในที่สาธารณะ
พร้อมเล่าว่าโอมาร์เคยออกอาการโมโหมากเมื่อได้เห็นผู้ชายจูบกันเองเมื่อหลายเดือนก่อนภาพจาก myspace.com / AFP
แต่ถึงอย่างนั้นหน่วยสืบสวนพบว่าระหว่างก่อเหตุโอมาร์ได้ประกาศตนยกย่อง IS และมีการอ้างถึงสองพี่น้องซาร์นาเยฟ ผู้ก่อเหตุวางระเบิดบอสตันมาราธอนเมื่อ 3 ปีก่อน และจากข้อมูล FBI ระบุว่า เขาเคยถูกสืบสวนในปี 2556-2557 หลังจากมีการขู่ก่อเหตุร้ายบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก และติดต่อกับมือระเบิดฆ่าตัวตาย แต่ก็ไม่ได้มีการจับกุมเขาแต่อย่างใด เพราะไม่มีหลักฐานว่าเขาทำอะไรผิด
จากการเปิดเผยของ FBI และพ่อของโอมาร์ ทำให้ตำรวจฟลอริดาบางคนเชื่อว่า การก่อการร้ายครั้งนี้มีมูลเหตุจากทั้งความเกลียดชังในกลุ่มรักร่วมเพศ ทั้งคลั่งอุดมการณ์ IS
ภาพจาก JOE RAEDLE / AFP
ทั้งนี้ โอมาร์ มาทีน
ได้ถือปืนไรเฟิล AR-15, ปืนพก
และติดระเบิดไม่ระบุชนิดบางอย่างเข้าไปในพอลส์ ไนต์คลับ
ซึ่งมีผู้คนอยู่ในนั้นราว 350 คน เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 12
มิถุนายนที่ผ่านมา จากนั้นก็เปิดฉากกราดยิงผู้คน
มีการจับคนนับร้อยเป็นตัวประกันภายในนั้น
และลงเอยด้วยการจบชีวิตของคนบริสุทธิ์ไม่ต่ำกว่า 50 คน บาดเจ็บอีก 53 คน
ก่อนที่เขาจะถูกตำรวจยิงเสียชีวิตในเวลาต่อมา ติดตามข่าว กราดยิงบาร์เกย์ สหรัฐฯ ทั้งหมด คลิกเลย