โชเฟอร์รถทัวร์ร้อยเอ็ด-บุรีรัมย์
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ได้รับแจ้งว่า ช่วงเย็นวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา พบรถโดยสารปรับอากาศ ป.2 สายร้อยเอ็ด-บุรีรัมย์ พลิกคว่ำอยู่ถนนกลางทุ่งนาระหว่างบ้านดงบากหนองตาเต็น-บ้านเหล่าน้อย ต.นาสีนวล อ.พยัคฆภูมิพิสัย จึงรุดไปตรวจสอบ ภายในรถพบคราบเลือดที่เบาะนั่งผู้โดยสารและค้อนปอนด์เปื้อนเลือดตกอยู่บนรถ
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า เห็นรถคันดังกล่าวขับเข้ามาจากปากทางบ้านหนองผือ ผ่านบ้านดงบาก มุ่งหน้าบ้านผ่านเหล่าน้อย ต.นาสีนวล อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ซึ่งเส้นทางดังกล่าวไม่เคยมีรถโดยสารสัญจรผ่านมาเลย เพราะเป็นทางแคบ รถไม่สามารถสวนทางกันได้ จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะทำร้ายผู้โดยสารมาจากที่อื่น แล้วเห็นว่าผู้บาดเจ็บน่าจะเสียชีวิตแล้ว จึงนำศพมาทิ้ง แต่ปรากฏว่ารถมาติดหล่มเสียก่อน เมื่อวัยรุ่นในหมู่บ้านมาพบเข้าจึงได้หลอกล่อให้ไปซื้อของให้ ก่อนจะรีบลากร่างผู้เสียชีวิตไปทิ้งไว้ในทุ่งนาและหลบหนีไป
จากการสอบญาติของผู้เสียชีวิต ทราบว่า มีทรัพย์สินหายไป ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และสร้อยข้อมือหนัก 1 บาท ส่วนแหวนทองคำและเงินสดอีก 27,000 บาทที่ถูกซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้ายังอยู่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำบัตรประชาชนคนขับรถโดยสารให้ผู้เห็นเหตุการณ์ดู ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน จึงคาดว่าคนขับรถอาจจะเห็นผู้เสียชีวิตแต่งตัวดี ใส่เครื่องประดับทองคำ จึงวางแผนชิงทรัพย์ เนื่องจากบนรถมีผู้โดยสารเพียงคนเดียว ทั้งนี้ เตรียมขอหมายจับผู้ต้องหามาดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต และคาดว่าจะได้ตัวเร็ว ๆ นี้
ด้านนายสุพล บุญเกิด เจ้าของรถ เปิดเผยว่า นายวัชรินทร์ แจ้งกับตนว่าได้ส่งผู้โดยสารลงรถหมดที่ จ.ร้อยเอ็ด จึงให้ตีรถเปล่ามาที่ อ.พยัคฆภูมิพิสัย เพื่อที่จะเอารถเข้าคิววิ่งรถในวันรุ่งขึ้น แต่ไม่รู้ว่ามีผู้โดยสารมาได้อย่างไร มารู้ข่าวอีกทีตอนมีคนโทรมาบอกว่ารถเกิดอุบัติเหตุตกถนน ตอนแรกคิดว่าตกถนนสายหลัก ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ซึ่งนายวัชรินทร์ก็เป็นเด็กรถมาก่อน จึงไม่คิดว่าจะมาทำเรื่องแบบนี้ เมื่อคืนนี้ตนโทรศัพท์ไปหานายวัชรินทร์ ก็โทรติดแต่ไม่รับโทรศัพท์ และขณะนี้ก็ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว
ขณะที่ลูกสาวของผู้เสียชีวิตเล่าว่า แม่ขึ้นรถที่บริเวณศาลาปากทางบ้านนาฝาย เพื่อเดินทางกลับบ้านที่ จ.สุรินทร์ แต่เวลาผ่านไปนานยังไม่ถึงบ้าน ตนจึงโทรศัพท์สอบถาม เมื่อแม่รับโทรศัพท์ กลับได้ยินเสียงแม่ร้องว่า ช่วยแม่ด้วย เขาตีแม่ มัดแม่ไว้ มืดไปหมด แม่จะตายแล้ว จึงแจ้งตำรวจเพื่อออกติดตาม แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน
ส่วนน้องชายของผู้เสียชีวิต บอกเช่นเดียวกันว่า หลังโทรศัพท์หาพี่สาวก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ และเสียงร้อง โอ๊ย อย่างเจ็บปวด ก่อนสายตัดไป
ทั้งนี้ ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากขอให้ตำรวจตามจับผู้ต้องหาให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีที่อันตรายต่อผู้โดยสาร
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สุชาติ ศรีสังข์, ช่อง 8
ข้อมูลจาก
รายการเรื่องเล่าเช้านี้, ช่อง 8