อธิการบดีสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีนักศึกษาปี 1 พ่อโทร. ลาตาย ล่าสุดเจ้าตัวยืนยัน รุ่นพี่ไม่ได้ห้ามกลับบ้าน บอกตอนพูดกำลังเสียใจ เลยอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด
จากกรณีที่มีข่าวออกไปว่า นักศึกษาหญิงปี 1 ร่ำไห้ พ่อผูกคอกับขื่อบ้านเสียชีวิต โดยก่อนจะเกิดเหตุนั้นผู้เป็นพ่อได้โทรศัพท์ไปหาลูกสาวคล้ายกับจะสั่งลา แต่น้องนักศึกษาไม่สามารถกลับบ้านไปหาพ่อได้ในทันที เพราะติดกิจกรรมซ้อมเชียร์ รุ่นพี่ยังไม่อนุญาตให้กลับ ตามที่ได้มีการรายงานข่าวออกไปก่อนหน้านี้นั้น [อ่านข่าว : สลด นักศึกษาร่ำไห้ พ่อโทร. มาลา แต่รุ่นพี่ไม่ให้กลับ สุดท้ายพ่อผูกคอเสียชีวิต]
จากกรณีที่มีข่าวออกไปว่า นักศึกษาหญิงปี 1 ร่ำไห้ พ่อผูกคอกับขื่อบ้านเสียชีวิต โดยก่อนจะเกิดเหตุนั้นผู้เป็นพ่อได้โทรศัพท์ไปหาลูกสาวคล้ายกับจะสั่งลา แต่น้องนักศึกษาไม่สามารถกลับบ้านไปหาพ่อได้ในทันที เพราะติดกิจกรรมซ้อมเชียร์ รุ่นพี่ยังไม่อนุญาตให้กลับ ตามที่ได้มีการรายงานข่าวออกไปก่อนหน้านี้นั้น [อ่านข่าว : สลด นักศึกษาร่ำไห้ พ่อโทร. มาลา แต่รุ่นพี่ไม่ให้กลับ สุดท้ายพ่อผูกคอเสียชีวิต]
เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุด (28 กันยายน 2559) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง AMARIN TVHD รายงานว่า ผศ.นิวัต กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี เปิดเผยว่า ได้มีการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วทราบว่า เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา นักศึกษามีซ้อมเชียร์ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. ซึ่งเป็นเวลาซ้อมปกติอยู่แล้ว หากนักศึกษาต้องการกลับบ้านจริง ๆ ก็สามารถกลับได้ อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ถ้าหากพบว่ารุ่นพี่ไม่ให้กลับบ้านจริง แบบนี้ถือว่าละเมิดสิทธิของรุ่นน้อง
ส่วนเรื่องที่พ่อของนักศึกษาผูกคอตาย เพราะลูกไม่รับโทรศัพท์ หรือติดซ้อมเชียร์ ตนมองว่า ไม่น่าจะเป็นเหตุจูงใจที่เพียงพอในการผูกคอตาย น่าจะมีเหตุอื่นร่วมด้วย
ด้าน น้องมุก นางสาวกาญจนา กล่าวยืนยันว่า รุ่นพี่ไม่ได้ห้ามไม่ให้กลับบ้าน อาจจะเกิดจากความเข้าใจผิด เพราะบางประโยคที่ตัวเองพูดไปตอนนั้นกำลังเสียใจ แล้วไม่ได้สื่อสารกับพี่ ๆ สื่อมวลชนอย่างละเอียด ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกิดขึ้น โดยในวันที่ไปดูศพพ่อ ตนก็บอกเลยว่าติดการแข่งขันเชียร์ที่มหาวิทยาลัย แล้วรุ่นพี่ก็ได้พูดเรื่องเกี่ยวกับว่า ใครไม่ติดธุระอะไรขออย่ากลับบ้านก่อน เพราะเดี๋ยวจะมีการแข่งขัน ตนต้องการบอกประโยคนี้ แต่เพราะกำลังเสียใจ ประโยคมันเลยสื่อสารออกไปไม่ครบ คนเลยเข้าใจผิดว่า รุ่นพี่ไม่ให้กลับบ้าน
น้องมุก บอกด้วยว่า คุณพ่อเคยฆ่าตัวตายมาแล้ว 2 ครั้ง แต่เป็นช่วงตนปิดเทอมเลยสามารถช่วยได้ทัน แต่เมื่อวานนี้ก่อนที่พ่อจะผูกคอตาย ตอนนั้นตนกำลังซ้อมเชียร์ พ่อก็โทรศัพท์มาบอกว่าคิดถึงลูกมาก เมื่อไหร่จะกลับมาหาพ่อ พ่อรักลูกมากนะ ซึ่งตนก็พยายามบอกพ่อไปว่ากำลังซ้อมเชียร์อยู่ และก่อนจะวางสายพ่อก็พูดมาประโยคหนึ่งว่า ลาก่อน ตนก็เริ่มเอะใจ แต่ก็คิดว่าไม่มีอะไร ก็ซ้อมเชียร์ต่อ พอซ้อมเสร็จก็โทร. หา แต่โทร. ไม่ติด และมาทราบข่าวร้ายดังกล่าว
ส่วนเรื่องที่พ่อของนักศึกษาผูกคอตาย เพราะลูกไม่รับโทรศัพท์ หรือติดซ้อมเชียร์ ตนมองว่า ไม่น่าจะเป็นเหตุจูงใจที่เพียงพอในการผูกคอตาย น่าจะมีเหตุอื่นร่วมด้วย
ด้าน น้องมุก นางสาวกาญจนา กล่าวยืนยันว่า รุ่นพี่ไม่ได้ห้ามไม่ให้กลับบ้าน อาจจะเกิดจากความเข้าใจผิด เพราะบางประโยคที่ตัวเองพูดไปตอนนั้นกำลังเสียใจ แล้วไม่ได้สื่อสารกับพี่ ๆ สื่อมวลชนอย่างละเอียด ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกิดขึ้น โดยในวันที่ไปดูศพพ่อ ตนก็บอกเลยว่าติดการแข่งขันเชียร์ที่มหาวิทยาลัย แล้วรุ่นพี่ก็ได้พูดเรื่องเกี่ยวกับว่า ใครไม่ติดธุระอะไรขออย่ากลับบ้านก่อน เพราะเดี๋ยวจะมีการแข่งขัน ตนต้องการบอกประโยคนี้ แต่เพราะกำลังเสียใจ ประโยคมันเลยสื่อสารออกไปไม่ครบ คนเลยเข้าใจผิดว่า รุ่นพี่ไม่ให้กลับบ้าน
น้องมุก บอกด้วยว่า คุณพ่อเคยฆ่าตัวตายมาแล้ว 2 ครั้ง แต่เป็นช่วงตนปิดเทอมเลยสามารถช่วยได้ทัน แต่เมื่อวานนี้ก่อนที่พ่อจะผูกคอตาย ตอนนั้นตนกำลังซ้อมเชียร์ พ่อก็โทรศัพท์มาบอกว่าคิดถึงลูกมาก เมื่อไหร่จะกลับมาหาพ่อ พ่อรักลูกมากนะ ซึ่งตนก็พยายามบอกพ่อไปว่ากำลังซ้อมเชียร์อยู่ และก่อนจะวางสายพ่อก็พูดมาประโยคหนึ่งว่า ลาก่อน ตนก็เริ่มเอะใจ แต่ก็คิดว่าไม่มีอะไร ก็ซ้อมเชียร์ต่อ พอซ้อมเสร็จก็โทร. หา แต่โทร. ไม่ติด และมาทราบข่าวร้ายดังกล่าว
ภาพและข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว