ในยุคโซเชียลแบบนี้ ข่าวไหนมาไว ก็ไปไว ถึงจะมาช้า ก็ไปเร็วเช่นกัน เพราะอย่างนี้นี่เองในโลกออนไลน์เราจึงมักจะเห็นศัพท์แปลก ๆ ใหม่ ๆ มากมาย มีทั้งที่คุ้นหูและไม่คุ้นหู และก็ต้องขอชื่นชมในความสร้างสรรค์ของชาวโซเชียลจริง ๆ ที่มักจะสรรหาคำแปลก ๆ เด็ด ๆ โดน ๆ มากระแทกใจเหล่าวัยสะรุ่นยุคที่ก้มหน้ารูดมือถือแป๊บเดียว ก็เปลี่ยนวาระข่าวสาร จากอ่านข่าวขำ ๆ ก็เปลี่ยนมาดราม่าได้ปุบปับทันทีทันใด... เอาล่ะ ก่อนจะนอกเรื่องมากไปกว่านี้ ขอวกกลับมาที่คำศัพท์ต่าง ๆ ที่หนุ่มสาวยุคโซเชียลชอบใช้กัน เชื่อเลยว่าหลาย ๆ คนต้องเคยใช้แน่ ๆ
เอ้า ว่าแล้วก็ลองมาดูกัน ว่าคำฮิตที่เหล่าหนุ่มสาวโซเชียลเมืองไทย ที่ชอบใช้กันในปี 2016 จะมีคำว่าอะไรกันบ้าง
คำนี้ยังเป็นที่กังขาอยู่ว่าที่มามันคืออะไร แต่ก็มักจะเห็นเหล่าวัยรุ่นใช้กัน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เฮฮาปาร์ตี้ หรือแม้กระทั่งสเตตัสหม่น ๆ ก็ได้หมด ถ้าสดชื่น ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีคนอ้างอิงถึงที่มาของคำนี้ว่า มาจากกลุ่มวัยรุ่นอัพยา ซึ่งภายหลังมีคนนำไปทำเพลง นั่นเอง
2. มีความ...
มีความอยากรู้ความหมายของคำนี้... หลายคนก็งง ๆ ว่าไอ้คำว่า มีความ... มันคืออะไร เพราะเห็นเพื่อน ๆ ใช้กันบ่อยเหลือเกิน ไม่ว่าจะ มีความอยากกินไก่ทอด, มีความลำไย, มีความโดนเท ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของภาษาที่เหล่าชาวโซเชียลนำมาใช้ สรุปแล้วคือ "มีความ+คำอะไรก็ได้ที่อยากบอก"
3. เสียงสูง/กูปันปัน
หูยยยยย อันนี้แซ่บ !! เมื่อนักแสดงสาวทีนควีน (TeenQueen) อย่างสาวปันปัน สุทัตตา ออกอาการฉุนปรี๊ดดดด อัพโหลดรูปนักแสดงสาวรุ่นพี่ลงอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมแคปชั่น แรว้งงงงง "อีกะXรี่ เสียงสูง" เล่นเอากระแสเสียงสูงมาแรงแซงทางโค้ง คนแห่ใช้กันทั้งบ้านทั้งเมือง แถมยังตอกย้ำความเผ็ดแซ่บของดราม่าเสียงสูงอีกด้วยคำว่า กูปันปัน !! แหม่..แซ่บแรง แซ่บจริง แบบนี้ชาวเผือกไม่ปล่อยผ่านแน่นอนล่ะตัวเธอ
4. กราบรถกู
มาแรงส่งท้ายปลายปี สำหรับวลีเด็ด "กราบรถกู !!" เมื่อหนุ่มน็อต อัครณัฐ มีความโมโหหนักมาก เพราะถูกรถมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวรถมินิ คูเปอร์ สีเหลืองสุดรัก ซึ่งเจ้าตัวถึงกับทนไม่ไหว ประเคนหมัดใส่คู่กรณีรัว ๆ แถมยังบังคับให้กราบรถอีกต่างหาก เรียกได้ว่าพอคลิปออกมา หนุ่มน็อตก็เจอถล่มเละ โดนแบนจากโซเชียล แถมโดนงดงาน จนได้ฉายา "กราบรถ หมดงาน" เลยทีเดียว
5. น้ำรอการระบาย
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่ท่วม น้ำแค่รอการระบาย" // ถอดรองเท้าเดินเขย่งข้ามน้ำรอการระบายเบา ๆ // ... วลีเด็ดนี้ไม่ได้มาจากใครอื่น แต่ออกมาจากปาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นั่นเอง ที่เคยกล่าวไว้เมื่อนานมาแล้ว แต่เมื่อไรที่กรุงเทพฯ เจอฝนตกหนักจนน้ำเอ่อล้นถนน วลี "น้ำรอการระบาย" ก็ถูกนำมาใช้มากมาย
6. ดีต่อใจ
อุ๊ย ๆ น้องคนนี้น่ารัก ช่างดีต่อใจป้าจริง ๆ ลูกเอ๊ยยย, ขนมอันนี้อร่อย ดีต่อใจจริง ๆ... ดีต่อใจ ดีต่อใจ ดีต่อใจ เต็มไปหมดเลยยย คำว่า "ดีต่อใจ" ก็คงจะเป็นคำที่เวลาเราเห็นอะไรน่ารัก ตะมุตะมิ น่าหยิบจับ น่าชมเชย ก็จะบอกว่าสิ่งเหล่านี้ช่างดีต่อใจ ช่วยเสริมกำลังใจให้อยู่ได้ด้วยรอยยิ้มและความสุข
7. ช่วยน้องด้วยนะคะ
ใครที่ติดตามเพจ น้องง ก็คงจะรู้กันอยู่ว่า เพจนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการอ่านภาษาไทยแบบถูกต้อง !! กับสำนวนการเขียนที่ไม่แคร์สระและวรรณยุกต์ นึกอยากจะพิมพ์อะไรก็พิมพ์ เช่น ก้บับวาท่าอ่านแร้วม่เขาใก้คือม่มีบุน (ก็แบบว่าอ่านแล้วถ้าไม่เข้าใจคือไม่มีบุญ)
ส่วนคำว่า "ช่วยน้องด้วยนะคะ" มาจากเพจเดิม ที่ชื่อเพจน้อง ถูกรีพอร์ตจนปลิวหาย จนแอดมินต้องมาตั้งเพจใหม่คือเพจ น้องง และผุดแฮชแท็ก #ช่วยน้องด้วยนะคะ ร่วมแสดงความเห็นอกเห็นใจ (บ้างก็ทับถม) และทวงคืนความยุติธรรมให้เพจน้อง เพราะไม่อยากให้เพจคุณภาพคับจอแบบนี้สลายตามลมไปง่าย ๆ
8. ขับวนไปค่ะ (อื่น ๆ วนไปค่ะ)
ขับวนไปค่ะ !! คำฮิตจากซีรีส์ขวัญใจสาวแท้ สาวเทียม เก้ง กวาง บ่าง ชะนี "ไดอารี่ ตุ๊ดซี่ส์" ที่มีอยู่ตอนหนึ่ง "คิม" ตัวละครในเรื่อง ต้องนั่งรถแท็กซี่ แต่พอถึงที่หมายจ่ายเงินแล้ว แท็กซี่กลับเล่นแง่บอกไม่มีเงินทอน งานนี้ใครมันจะไปยอม เงินทอนแค่ไม่กี่บาท แต่ยอมให้แท็กซี่ทำแบบนี้กับลูกค้าทุกคนไม่ได้ !! ขับวนไปค่ะ !! จนกว่าจะครบจำนวนเงิน โถ..... พ่อแท็กซี่น้อย ทอนเงินแต่แรกก็จบ มาเจอองค์แม่ลงแบบนี้ถึงกับเงิบ
9. ชุดใหญ่ไฟกะพริบ
จัดไป ! สำหรับคำนี้คงจะถูกใจชาวโซเชียลไม่น้อย เพราะเวลาจะทำอะไรแบบยิ่งใหญ่ ก็ต้องจัดไปชุดใหญ่ไฟกะพริบ แล้วไอ้ชุดใหญ่ไฟกะพริบนี่มันมาได้ยังไง เคยมีคนตั้งข้อสงสัย และก็มีคนโพสต์คลายข้อสงสัยว่า คำว่าชุดใหญ่ไฟกะพริบ แท้จริงแล้ว มาจากการที่เหล่าเด็กแว้นรวมกลุ่มกันแข่งรถ แต่กลับมาเจอตำรวจตั้งด่านกันเพียบ แถมมีป้ายไฟอีกด้วย เลยเป็นที่มาของคำว่าชุดใหญ่ไฟกะพริบนั่นเอง
10. อย่ามาเชษฐ์/ไม่เผือกสิเชษฐ์
ด้วยความเข้มข้นของละครพิษสวาท ที่มีตัวละครจอมเผือกอย่าง เชษฐ์ รับบทโดย เจษ เจษฎ์พิพัฒ ที่ดู ๆ แล้วไม่ค่อยจะมีความเชื่อมโยงอะไรกับตัวเอกเลย แต่จะขาดไปก็คงไม่ได้ เพราะเชษฐ์นี่แหละคือคนคลายปมของทุกอย่าง แต่เชษฐ์จะไม่โดนถล่มเลย ถ้าเชษฐ์ไม่ตามไปเผือกจนถึงนรก ทำเอาคนดูรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านกับท่าทีของเชษฐาซะจนผุดแฮชแท็ก #ไม่เผือกสิเชษฐ์
โลกใบนี้มันช่างโหดร้ายเหลือเกิน ไม่มีที่ว่างให้สำหรับคนอ่อนแอ จึงเป็นที่มาของ "อ่อนแอก็แพ้ไป" สำหรับใครที่ท้อแท้ อ่อนล้าโรยแรง.. อ่อนแอก็แพ้ไป น่าจะเป็นคำที่โดนใจ วลีนี้เห็นชาวโซเชียลใช้กันทุกเรื่องไม่ว่าจะอกหักรักคุด, เรื่องอาชีพการงาน ใครที่อ่อนแอก็แพ้ไป อย่าหวังว่าจะมีชัยเหนือคนที่แข็งแกร่ง !! แต่อย่าตัดพ้อตัวเองมากนักเลย อ่อนแอ แม้จะแพ้ใคร แต่ถ้ายังไหวก็ลุกขึ้นสู้นะจ๊ะเธอว์
12. อรรถรสมะ
อีกหนึ่งคำฮิตจากซีรีส์ ไดอารี่ ตุ๊ดซี่ส์ อรรถรสมะ ! ที่เหล่านักแสดงในเรื่องใช้สื่อว่า สนุก ๆ ล้อเล่นไหมล่ะ ตัวอย่างเช่น
A : วันนี้หน้าหมอง ๆ เหมือนโดนของว่ะ
B : เหยยย จริงเหรอออ // หน้าเสีย
A : อู๊ยยยยยส์ อรรถรสมะ // กรูล้อเล่นเหวยยย
13. อะไรเบอร์นั้น
จะอะไรขนาดนั้นก็คงไม่ได้อรรถรส แต่ถ้าเป็นอะไรเบอร์นั้น ที่ยังมีกิมมิกเล็ก ๆ ให้เล่น อะไรเบอร์ 089xxxxxxx เพื่อเป็นการทอดสะพาน ว่าอะไรเบอร์นี้แหละจ้า หรืออะไรเบอร์ 032 (เบอร์ห้อง) ที่ชาวโซเชียลโพสต์กันเล่น ๆ ขำ ๆ หรือจะเป็นการชมคนสวยหล่อ หรือคนที่ทำอะไรสุดโต่งว่า เฮ้ย !!! แกจะบ้าอะไรเบอร์นั้น เก็ตมั้ยเอ่ย
14. คนดีคนเดิม เพิ่มเติมคือ...
เราเองคนเขียน คนดีคนเดิม เพิ่มเติมคือรักทุกคนที่อ่าน อิอิ... เข้าใจกันแล้วล่ะสิ ว่าประโยคนี้มีไว้ทำอะไร หลายคนก็มักจะนำมาใช้แซวเพื่อน ๆ หรือแซวตัวเองแบบขำ ๆ เพื่อสร้างเสียงหัวเราะ และสร้างความหมายแสดงตัวตนอย่างชัดเจน คล้องจอง
15. อ้าวเฮ้ย...ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา
แหมมม อันนี้ มีที่มีอย่างชัดเจน ไม่ต้องหากันให้วุ่นวาย เพราะประโยคนี้มาจากเพลง อ้าว ของศิลปินหนุ่ม อะตอม ชนกันต์ นั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นเพลงที่โดนใจหนุ่มสาวทั้งหลายที่อยู่ในสถานการณ์ที่กลับตาลปัตร ทำไมไม่เหมือนที่คุยกันไว้ ในกรณีนี้อาจจะใช้ควบคู่กับคำว่า "เท" ก็ได้ ถ้าสอดคล้องกัน
16. ถามใจดู
ยังไหวมั้ย...ถามใจดู... ไม่ว่าจะทำอะไร ใจ คือที่ตั้ง หากท้อแท้สิ้นหวัง หรือขี้เกียจอยากจะมุดผ้าห่มตัดขาดจากโลกภายนอก แต่มีภาระที่ต้องทำ ก็ต้องถามตัวเองว่า ไหวไหม...ถามใจดู หรือหลายคนอาจจะใช้ในบริบทแวดล้อมที่แตกต่างกัน โดยใช้ ประธาน, กริยา, กรรม ไหวมั้ยถามใจดู... เช่น อุ๊ย ของเซล !!! มีเงินไหม ถามใจดู
17. นาจา
นาจา คือ เทพจอมอิทธิฤทธิ์ในตำนานจีน ไม่ช่ายยยยย !!! เอ่อ.. จริง ๆ ก็ใช่อะแหละ แต่ในบริบทของสังคมโซเชียลไทย "นาจา" ไม่ใช่เทพแน่นอน นาจา คือคำที่แผลงมาจาก นะจ๊ะ นั่นเอง
18. เท, นก (แปลว่า แห้ว)
แก...ฉันคิดว่าฉันจะทำงานเสร็จไม่ทัน ฉันเทเลยดีมะ... อิอิ คำว่า เท มักจะถูกใช้ในหลายบริบท ไม่ว่าจะใช้ในเชิงว่า "โดนทิ้ง" หรือ "ไม่สนใจ" ก็สามารถใช้คำว่า เท ได้ทั้งนั้น คาดว่ามาจากกิริยาคำว่า เท คือการเททุกสิ่งทุกอย่างออกจากตัว ไม่สนใจ แล้วแต่บุญแต่กรรมที่ทำกันมา
ส่วนคำว่า นก เป็นคำที่หลายคนถกเถียงกันมากว่านกเนี่ย มันจะหมายความว่าแห้วได้ยังไง เราก็เลยขอหยิบยกจากคุณช่า แอดมินเพจ บันทึกของตุ๊ด ที่เคยออกมาชี้แจงแถลงไข ถึงคำว่า "นก" อย่างแจ่มแจ้งว่า... "นก เป็นคำกริยา แปลว่า แห้ว ผู้ชายหลุดมือ อดแดก อดบัว นก มีรากศัพท์ที่ตรงตัวคือสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีปีก เหตุผลที่ต้องใช้คำว่า นก แทนอาการอดแดกของกะเทยนั้น สืบเนื่องมาจาก
1. นกเป็นสัตว์ที่ปรากฏตัวเป็นเวลา ยามเช้าออกหาอาหาร พอพลบค่ำก็โบยบินกลับรัง นัยแฝงสำหรับความหมายนี้แบ่งออกเป็น
1.1 จิกผู้ไม่ได้ ผู้หนีกลับบ้าน เสมือนนกกลับรัง
1.2 มึงเองที่ต้องบินกลับรังแต่เพียงผู้เดียว
2. นกเป็นสัตว์ที่เมื่อมีเหตุตกใจ จะบินจากไปแล้วมักไม่บินกลับมาที่เดิมอีก นัยคือ เมื่อเหยื่อบินหนีมึงจะไม่มีวันได้แดกอีกตลอดกาล
ข้อบ่งใช้ : นก...มักถูกใช้ได้ในหลายกรณี...ดังนี้
นก 1. ไว้ใช้เรียกอาการเมื่อตุ๊ดหรือนีพบเป้าหมาย (มักเป็นในสถานที่อโคจรยามราตรี) และตัดสินใจที่จะลงพื้นที่กระชับมิตรหวังจะเคลมยามค่ำคืน แต่แล้วปรากฏว่ามีเหตุการณ์บางอย่าง ที่ทำให้ต้องสูญเสียชายผู้นั้นไป
นก 2. ใช้เมื่อผู้ติดเบ็ดแล้ว หรืออยู่ในขั้นตอนการสนทนาคบหาดูใจ แต่ในที่สุดก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เป้าหมายตกใจหายไป เช่น การเปลือยหน้าสด การพบคราบแป้งที่เสื้อ หรือการพบคราบอุทัยทิพย์ที่หลอดสตาร์บั๊คเป็นต้น หรือแม้กระทั่งใช้ในกรณีที่ผู้เข้ามาถึงในห้องนอนแล้ว แต่ปราศจากวิทยายุทธในการดึงรั้งให้ผู้ปฏิบัติการต่อ จนท้ายที่สุดเป้าหมายหนีกลับบ้าน หรือต่างคนต่างนอนหลับอย่างน่าเศร้า
โดยปกติ "นก" มีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง แต่กระนั้นในบางสถานการณ์ ผู้ใช้ก็สามารถเติม Adjective ข้างหลังคำเพื่อความสมบูรณ์ในตัวประโยคได้ เช่น "กูว่านี่ไม่ใช่นกธรรมดาแล้วค่ะ...นี่มันนกกระจอกเทศ !!!!" เพื่อแสดงถึงการนกอย่างโจ่งแจ้งชัดเจน หรือ "อี_อก นกแบบนี้ไม่นกเปล่าค่ะ เรียกนกกระยาง" เพื่อแสดงถึงการนกเพราะจับได้ว่าอีกฝ่ายสาวกว่าตน
เอ....ดูแล้วข้อนี้ท่าทางมีสาระที่สุด
19. สายย่อ, สายเปย์, สายแข็ง
สาย ฯลฯ มาจากกลุ่มคนที่ทำกิจกรรมนั้น ๆ เป็นกิจวัตร อย่างสายย่อ ก็อาจจะเป็นแก๊งที่ชอบแดนซ์ ชอบเต้นเป็นชีวิตจิตใจ ส่วนสายเปย์ ก็คือคนที่ชอบจ่ายไม่อั้น มีจ่าย เปย์ไหว ไม่แคร์เวิลด์ เรียกได้ว่า สาย + คำนาม, กริยา, กรรม ล้วนแล้วแต่แสดงตัวตนว่า ฉันเป็นคนแบบนี้ และมักทำกิจวัตรแบบนี้บ่อย ๆ นะเธอ
20. เอาที่สบายใจ
คำฮิตเหล่านี้ก็ถือเป็นสีสันในปี 2559 ที่ชาวโซเชียลหยิบยกมาใช้ แต่หากใครมองว่าจะเป็นภาษาวิบัติหรือไม่นั้น ก็ต้องคงวิเคราะห์กันให้ตกผลึกอีกครั้งว่า ที่ผ่านมาเราก็มีการใช้คำศัพท์แสงมามากมาย และภาษาที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้นจะหมายถึงภาษาวิบัติหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ก็คงต้องพยายามใช้กันให้ถูกต้อง อย่าใช้จนชินและผิดกาลเทศะ และใช้แค่พองาม เอาที่สบายใจ แค่นี้ก็สนุกกับภาษา ไม่สร้างความวิบัติจนเกินขอบเขต ก็ดีแล้วนาจาาาาาาาา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Movies Addict, ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์, น้องง, บันทึกของตุ๊ด, ทวิตเตอร์ @sunterry, @ppopond, @YPonpituk, @wang_varie