ทนายรณณรงค์ เผยเร็วไปหลังแม่แตงโมจัดการเรื่องมรดก ยันจะเรียก 100
ล้านก็ได้ แต่น่าจะรอให้คดีคลี่คลายก่อน ชี้จะรอดเลยไหมหลังแม่ให้อภัย
ด้านนายสันธนะ มั่นใจเรื่องนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ
ภาพจาก รายการเป็นเรื่องใหญ่
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 รายการเป็นเรื่องใหญ่ ทางช่อง JKN 18
รายงานถึงกรณีการเสียชีวิตของนักแสดงสาว แตงโม นิดา
กับประเด็นที่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังคุณแม่ของแตงโม
เผยว่าให้อภัยปอและโรเบิร์ต ซึ่งเป็นคนที่อยู่บนเรือกับลูกสาวตอนเสียชีวิต
ทั้งที่คดียังมีเงื่อนงำอยู่และยังไม่สิ้นสุดด้วยซ้ำ
แถมพูดถึงเรื่องตัวเลขว่าจะเรียกเงินจากทั้ง 2 คน คนละ 30 ล้านบาทด้วยนั้น
โดยผู้ดำเนินรายการคือ อั๋น ภูวนาท คุนผลิน ได้มีการเชิญ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตดำรวจสันติบาล พร้อมด้วยทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร และทนายความบัญชา หรือ ทนายอู๋ มาพูดคุยถึงเรื่องนี้
โดยผู้ดำเนินรายการคือ อั๋น ภูวนาท คุนผลิน ได้มีการเชิญ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตดำรวจสันติบาล พร้อมด้วยทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร และทนายความบัญชา หรือ ทนายอู๋ มาพูดคุยถึงเรื่องนี้
รณณรงค์ : มันมีเข้าหูมาเหมือนกันว่าตอนแรกขอ 30 แล้วเขาให้ 20 แต่มันเช็กจากใครไม่ได้ แต่วันนี้เราได้ยินกันแล้วว่าตัวเลขมันคือ 30 ถ้าอย่างนั้นข้อมูลที่เราได้มาน่าจะตรงกัน แต่กลับไปที่ 30 แล้วมั้ง
นอกเหนือจากการที่เขาพูดมาลอยๆ แบบนี้หรือมีการตกลงกันภายนอก ?
รณณรงค์ : อันนี้เขาประกาศชัดแล้วนะว่าเขาเอา 30 เพราะฉะนั้นต้องเอาตัวเลขแม่เป็นตัวตั้งเลยว่า 30 ล้าน
คือในความเป็นจริงแบบนี้ถ้าอีกฝั่งนึงเขายอม 30 คดีจบจริงเหรอ ?
รณณรงค์ : คืออย่างแรกเลยนะครับถ้าผมฟังไม่ผิด คุณแม่เอา 30 ล้านจากโรเบิร์ตกับไฮโซปอ คนละ 30 ล้าน เป็น 60 ล้านนะถ้าผมฟังไม่ผิด ดูจากที่คุณแม่ให้สัมภาษณ์นะ สิทธิของผู้เสียหายที่จะเรียกค่าเสียหายจะเรียกเท่าไหร่ก็ได้แต่มันต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ซึ่งแม่คำนวณให้ชัด ๆ แล้วว่าน้องแตงโมเล่นละครปีนึงประมาณ 2 เรื่อง เรื่องละประมาณ 8 แสน - 1 ล้าน เพราะฉะนั้นก็เรียกไป 30 ปี ก็ 30 ล้านไม่ได้เอาเยอะ นี่ถือว่าคุณแม่ยังเรียกถูกนะ เพราะแม่ยังไม่ได้เรียกสปอนเซอร์ตัวอื่นอีก ถ้าเราถามว่าคนที่เป็นระดับนางเอกเรียกขนาดนี้ผมว่ามันไม่ได้แพงเกินไป
ในความเป็นจริงความคิดของคุณแม่สมเหตุสมผลในทางกฎหมายมั้ย ?
ภาพจาก รายการโหนกระแส
รณณรงค์ : คือถ้าคุณแม่เขาสามารถพิสูจน์ได้ และผมเชื่อว่าสามารถพิสูจน์ได้ด้วยนะ เพราะการจ่ายละครมันจะมีใบเสร็จ ใบเสียภาษีอยู่แล้ว มันสามารถนำมาบวกลบคูณหารแล้วก็เฉลี่ยได้ ผมเชื่อด้วยว่ามันสามารถเรียกได้มากกว่านั้นด้วยซ้ำแต่เขาเอาแค่นี้
คุณแม่พูดแบบนี้เหมือนเป็นการตกลงกันเองมั้ย ?
รณณรงค์ : ถ้าอีกฝั่งนึงเขายอมจ่ายก็คือจบ พอจบแล้วเขาจะมีเงื่อนไขหรือไม่มีก็ได้นะ อย่างเช่น แม่ต้องดูแลลูกอีก 2 คนด้วยนะครับ ที่เป็นลูกใหม่ของคุณแม่
คำว่าดูแลในที่นี้แปลว่าอะไร ไม่เอาเรื่อง ?
รณณรงค์ : ก็เป็นอย่างนั้น เพราะวันนี้เนี่ยคุณแม่ให้อภัยแล้ว เพราะฉะนั้นเราเป็นคนนอกที่เราบอกว่าหอน ผมก็เป็นส่วนนึงที่หอนด้วย อยากจะเห่าให้ฟังด้วยซ้ำ
การที่คุณแม่บอกว่าไม่เอาเรื่องแล้วจบ 2 คนนี้ รอดเลยเหรอ ?
รณณรงค์ : ไม่รอดสิ คือในคดีส่วนค่าเสียหายเขามีสิทธิเยียวยา แต่ว่าในคดีอาญาต้องเดินหน้าต่อไป แต่ว่าพอผู้เสียหายเขาไม่ติดใจแบบนี้ เราไม่แน่ใจว่าตำรวจเขาจะเดินเกียร์ 10 ต่อมั้ยหรือจะถอย
ที่ผ่านมาคุณแตงโมจะทำงานมา เล่นละครจะกี่เรื่องก็แล้วแต่ เขาให้คุณแม่หรือเปล่า จริง ๆ แล้วมันต้องคิดจากตรงนั้นอีกทีมั้ยครับ ?
รณณรงค์ : เห็นที่คุณแม่พูดแล้วก็ที่ผู้จัดการส่วนตัวพูด ประมาณเดือนละ 3 หมื่นบาท แต่ว่าต้องเข้าใจอย่างนึง ตอนนี้มันเป็นเรื่องที่คนทั้งประเทศสนใจคุณแตงโมมาก ตัวเลขมันดีดขึ้นดีดลงได้ครับ เหมือนหุ้น
สมมติแบบนี้ถ้าเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย ศาลเขาจะคิดมั้ยครับว่าได้เดือนละ 3 หมื่น ก็คิดไป 30 ปี ?
รณณรงค์ : อันนั้นเป็นเรื่องที่กระบวนการศาลจะวินิจฉัยว่าให้เท่าไหร่ แต่เราก็มีสิทธิเรียก เราจะเรียกเป็น 100 ล้านก็ได้ แต่ศาลจะให้เท่าไหร่นั่นอีกเรื่องนึง แต่วันนี้ตัวเลข 30 ล้าน ก็ถือว่าเยอะถ้ามันได้วันนี้นะ
คุณสันธนะมองว่ายังไงบ้างครับกับประเด็นนี้ ?
ภาพจาก รายการเป็นเรื่องใหญ่
สันธนะ : คือการชดเชยเยียวยาเป็นสิทธิของคุณแม่คุณแตงโมอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้น่าจะรออีกสักระยะนึงให้ความจริงปรากฏก่อนดีมั้ย ทำไมรีบเอาตัวเลขนี้ออกมา เพราะเนื่องจากว่า สำนวนคดีนี้พนักงานสอบสวนเขายังไม่ได้สรุปประเด็นที่เราเข้าใจกันว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุ แม้จะมีผู้ต้องหาแต่มันก็เป็นข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แล้วขณะที่การแจ้งข้อหาก็ไม่ได้ชัดด้วยว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำผิด เพราะเหตุเกิดเนี่ย เรือสปีดโบ๊ทขับได้คนเดียว แล้วคุณไปแจ้งผู้กระทำผิด 2 คน มันยังมีความพิรุธในคดีอีกมาก
คือผมมองว่าถ้าคุณแม่พูดไป 30 ล้าน แล้วมีการเยียวยา 30 ล้านตรงนี้เกิดขึ้น มันจะปิดสำนวนได้เลยไง มันจะเปลี่ยนเกม เพราะเขาเป็นผู้เสียหายจริง ๆ ตามกฎหมาย ในเมื่อผู้เสียหายไม่ติดใจก็จบแล้ว ในเมื่อเรามาอยู่ที่นี่เพราะคลางแคลงใจแล้วจะปล่อยให้มันจบด้วยเงิน 30 ล้าน ผมไม่ทราบนะว่าเงินจำนวนนี้ใครเป็นคนเสนอ
รณณรงค์ : ฝั่งแม่น้องแตงโมนี่แหละครับเป็นคนเสนอ เพราะฝั่งโน้นเขาบอกว่าให้เสนอมาเลย ผมคูณให้ ใช้คำนี้เลยนะ
สิ่งที่คุณสันธนะได้รับข้อมูลมาว่า ผมพูดตรง ๆ เลยนะคุณแตงโมรับงานเอ็น ?
แปลว่ามันเป็นเรื่องของการรับงานบางอย่างหรือเปล่าครับ ?
สันธนะ : ข้อตกลงเงื่อนไขผมไม่ทราบ และผมก็คิดว่าที่มีเหตุเพราะคุณแตงโมไม่ทราบมาก่อน
แปลว่าต้องมีบางคนบนเรือมีจุดประสงค์นี้อยู่แล้วอย่างชัดเจน ?
สันธนะ : คือถ้าใช่ก็ต้องเป็นผู้ชาย 3 คนบนเรือ แต่ที่ผมทราบมันไม่ใช่ผู้ชาย 3 คนนี้ไง
แปลว่าต้องมีตัวละครอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ?
สันธนะ : ใช่เพราะมันเป็นเรื่องที่ผมติดตามมาตั้งแต่ตอนเกิดเหตุ เพราะประเด็นการเสียชีวิตของคุณแตงโมมันเป็นคดีอาญา และเหตุที่เสียชีวิตแต่แรกผมก็ไม่เชื่อไงไม่ใช่เพิ่งมาไม่เชื่อ
ผมถามเลยว่าที่ไม่เชื่อ ไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุเหรอ ?
สันธนะ : ก็เขาตกท้ายเรือสปีดโบ๊ทขณะไปทำธุระตรงนี้ คนเขียนสคริปต์เขาก็เขียนแบบคนที่ไม่เคยใช้ชีวิตหรือเคยใช้เรือสปีดโบ๊ท ผมพูดตรง ๆ ผมก็คิดเอานะ ถ้าอยู่แค่ 5 - 6 คน รวมคุณแตงโมมันจะเป็นอีกประเด็นนึง แต่มันมีอีกบุคคลนึงซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุที่ทำให้มีเรื่องรุนแรงถึงเสียชีวิตกัน
แปลว่ากำลังมองว่าเป็นการเสียชีวิตอย่างจงใจเหรอ ?
สันธนะ : มันไม่ใช่อุบัติเหตุไง ความเห็นผมมันแน่นอนนะ ผมถึงบอกว่าในการสอบสวนนำตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดลงเรือไป คำตอบก็ยังไม่มีถูกมั้ย ว่าเป็นไปได้มั้ย เกิดขึ้นได้จริงมั้ย แต่ผมเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจด้วยนะว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเหตุนี้ตามที่เขาให้การกัน
มีคนอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคนที่เกี่ยวข้องนั้นคือคนที่คาดหวังว่าจะได้เจอกับคุณแตงโมหลังจากการล่องเรือจบลง ?
ภาพจาก รายการเป็นเรื่องใหญ่
สันธนะ : ใช่ เขาเป็นบุคคลที่ให้ใครเห็นไม่ได้เพราะนี่มันเป็นเรื่องส่วนตัว
รณณรงค์ : แล้วปกติเวลาเขาไปส่ง เขาไปส่งกันยังไงพี่
สันธนะ : ก็จอดที่ท่าเรือ เรือสปีดโบ๊ทมาจอดที่ท่าเรือโรงแรมเป็นเรื่องปกติ แล้วการขึ้นไปก็ไม่ได้ขึ้นไปทั้งลำนะ การขึ้นไปต้องมีสุภาพสตรีขึ้นไปด้วยถ้าเป็นในกรณีอื่นแล้วกัน
รณณรงค์ : แล้วพวกอย่างนี้เขาจ่ายมัดจำกันยังไงพี่
สันธนะ : เรื่องนี้ไม่ต้องมัดจำ เขาจ่ายกันจบแล้ว
พี่เชื่อว่าหรือพี่มั่นใจว่าคุณแตงโมไม่เต็มใจ ?
สันธนะ : ไม่เต็มใจแน่นอนครับ ผมก็ตรวจสอบจาก 3 คนผู้ชาย ว่าการใช้ชีวิตเขา หรืออุปนิสัยใจคอเขาเป็นคนนิสัยยังไง ซึ่งมันทำให้เกิดเหตุรุนแรงถึงขั้นนี้ได้มั้ย เพื่อนเขาในกลุ่มก็บอกได้ เพราะเขาก็เคยมีลักษณะความรุนแรงแบบนี้มาก่อน
พี่มีข้อมูลที่สามารถยืนยันหรือเป็นหลักฐานได้มั้ยครับ ?
สันธนะ : คำว่าหลักฐานวันนี้อย่าเพิ่งพูด ผมมีข้อมูลที่ยืนยันได้ เพียงแต่เราไม่สามารถจะนำเข้าไปในสำนวน ขณะนี้การสอบสวนก็ยังไม่เสร็จสิ้น ถ้าพนักงานสอบสวนเขามีความเห็นแล้วว่าคดีนี้เป็นเรื่องของอุบัติเหตุหรือกระทำโดยประมาท ให้เขาสรุปอย่างนี้ก่อน ข้อมูลที่อยากทราบก็ค่อยขยายกันต่อหลังจากนี้แล้วกัน
เห็นบอกว่าคนที่นั่งรอที่โรงแรม ในมุมของพี่เป็นคนมีสีด้วย ?
สันธนะ : ก็เขาเป็นผู้ใหญ่พอสมควร เขาก็อยู่ในห้องเปิดห้องไว้แล้ว เขาคงไม่ได้มานั่งล็อบบี้ให้ใครเห็น ในเรื่องอื่นเคสปกติมันเป็นเรื่องของความพึงพอใจนะ แต่นี้ไม่ใช่ไง
รณณรงค์ : แล้วเขาจ่ายเงินยังไงครับพี่ เงินน่าจะต้องเยอะมากเลยนะ
สันธนะ : แน่นอน เพราะว่าการตกลงเขาต้องตกลงแล้วว่าใคร ไม่ใช่ใครก็ได้นะ ถ้าใครก็ได้ไม่ต้องมาส่งทางเรือก็ได้ เรียกรถมาส่งข้างหน้าก็ได้แล้วค่อยขึ้นไป
ซึ่งพี่คิดว่าคุณกระติกรู้เรื่องนี้มั้ย ?
สันธนะ : เขาใกล้ชิดกันขนาดนี้ ไปด้วยกันมาด้วยกัน แล้วก็ทิ้งกันแบบนี้ก็เห็นได้
ในความคิดพี่คิดว่าเกิดเหตุทะเลาะกันทำให้ดีลนี้ไม่สำเร็จจนกระทั่งเกิดเหตุนี้ แบบที่ไม่ได้เป็นอุบัติเหตุ ?
สันธนะ : ผมเชื่อว่าไม่ใช่นะจากการที่พูดคุย แล้วเรือลำเท่านั้นมันจะตกน้ำตกได้ทันที แล้วมันไม่ใช่อุบัติเหตุด้วย มันไม่ง่ายนะที่จะตกน้ำจากเรือสปีดโบ๊ทโดยอุบัติเหตุ ลองไปคิดดูสถานการณ์ เพราะฉะนั้นการอยู่บนเรือเนี่ยใครอยู่บนเรือบ่อยจะเข้าใจ แต่ถ้าให้ตกน้ำโดยเจตนานะ ได้เลยทันที
ถามทั้งสองท่านเลยนะว่า ถ้าดีลนี้หากแม้มันมีอยู่จริง แล้วการที่ทำให้ตกน้ำไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนา มันทำให้เรื่องนี้มันดีขึ้นยังไง ?
สันธนะ : เราเชื่อว่ามันไม่มีเหตุใช่มั้ยพูดแบบนี้แต่ผมเชื่อว่ามันมีเหตุ พอมันมีการพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วเป็นเรื่องที่เขาไม่ทราบมาก่อน
รณณรงค์ : ผมอยากรู้ว่าเที่ยวก่อน ๆ หน้านี้มีไปส่งที่โรงแรมไหนหรือเปล่า ถ้ามี GPS อยู่กับตำรวจแล้วนี่
สันธนะ : อ๋อ ไม่ใช่หมายถึงพูดถึงพฤติกรรมของคนกลุ่มหนึ่ง แต่วันนั้นจะแวะที่ไหนจอดที่ไหนผมว่ายังไม่จอดหรอก คงจะลอยลำ เพราะมันเป็นเรื่องที่ยังตกลงกันไม่ได้
การที่คุณแตงโมไปฉี่ท้ายเรือซึ่งหลาย ๆ คนบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ ตรงนี้มันมีผลทางกฎหมายในมุมมองของทนายอู๋อย่างไรบ้างครับ ?
บัญชา : ถ้าในแง่ของการทำงานทนายเนี่ย เรื่องนี้ผมมองว่าเหมือนมีการวางรูปคดีเอาไว้ตั้งแต่แรกก่อนพบศพ
แปลว่าน่าจะมีการหารือกันแล้ว ?
บัญชา : หารือครับ ว่าการตกเรือครั้งนี้ คุณแตงโมนั่งฉี่ท้ายเรือมันชี้ถึงหลายพฤติการณ์ 1. มีการดื่มแอลกอฮอร์มึนเมาหรือไม่ 2. คุณแตงโมนำตนเข้าเสี่ยงภัยนะ เพราะในเรือมีห้องน้ำคุณจะบอกว่ามีสัมภาระสุดแท้แต่ แต่ว่ามันอยู่ในวิสัยที่จะเอาออกได้ 3. คุณแตงโมไม่ได้คำนึงถึงภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นผมมองว่ามีการพยายามที่จะมัดรูปคดีว่าคุณแตงโมเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายประมาท ทานโทษนะครับเหมือนที่ผมใช้คำว่ามุกโยนขี้ให้ผี คือมักรวบคดีไปเลยครับว่าทั้งหมดทั้งมวลคือเกิดจากการประมาทของตัวผู้ตายเอง
ซึ่งถ้ามันไปทางนี้จะทำให้คนบนเรือลดความเสี่ยงหรือลดโทษลงได้ยังไงบ้าง ?
บัญชา : แน่นอนครับเท่ากับว่าผู้ตายนำตนเองเข้าเสี่ยงภัย มีส่วนร่วมส่วนก่อในการกระทำความผิดถูกมั้ยครับ แม้ว่ากฎหมายจะบอกว่าการที่เรือขับไปการควบคุมยานพาหนะโดยคนขับต้องรับผิดชอบเว้นแต่ว่าผู้เสียหายจะกระทำความผิดก็เท่ากับว่าหลุดพ้น
ซึ่งตอนนี้ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมากกับการพิสูจน์ว่าคุณแตงโมไปฉี่จริงหรือไม่จริง มันเถียงกันไม่จบ ?
ภาพจาก รายการเป็นเรื่องใหญ่
2. คุณแตงโมอาจไม่ได้พลัดตกที่ท้ายเรือ ไปดูหน่อยว่าบาดแผลเนี่ยเป็นบาดแผลที่ท้ายเรือหรือเปล่า และคราบปัสสาวะที่ท้ายเรือมีหรือไม่ ต้องเข้าใจนะครับว่าพอทุกอย่างมันขัดมันแย้งเนี่ย เมื่อศพคุณแตงโมขึ้นมาก็พบว่าบอดี้สูทยังใส่อย่างที่เราเห็นกัน ผมถึงบอกว่าประเด็นนี้ยังเป็นประเด็นสำคัญอยู่ ดังนั้นเวลาพิสูจน์ท่านั่งอะไรออกมา อย่างที่ผมบอกแหละครับมันดูพิลึกกึกกือ แล้วคนอย่างคุณแตงโมเป็นดาราหวงภาพลักษณ์ความสวยความงามจะไปฉี่ที่ท้ายเรือ ถลกก่อนลงแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างนั้นผมคิดว่าเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่งครับ
ในมุมของทนายอู๋พยายามให้เราคิดว่าทั้งหมดเป็นการจัดฉาก ?
บัญชา : มีโอกาสเป็นไปได้สูง คำว่าจัดฉากหรือไม่เนี่ยผมอาจพูดในมุมมองของทนายความ ผมกำลังจะบอกว่าในแง่ของการวางรูปคดี สันนิษฐานว่าอาจมีการวางรูปคดีแบบนี้ แล้วสิ่งที่ผมอยากจะชวนคิดกันไปต่อว่าท้ายที่สุดถ้าเรื่องนี้มีคนออกมารับสารภาพ ผมอยากจะชวนถอดสมการว่า ถ้าสมการมีแค่ x กับ y 2 ตัว ถ้าสมการ x เนี่ยคุณคิดว่าคุณแตงโมยังนั่งฉี่ที่ท้ายเรือเท่ากับว่าตัวคุณแตงโมเองก็มีความประมาท เพราฉะนั้นสมการ y คุณจะแก้อย่างไร แก้ไปเลยครับ แต่ถ้ายังยืนยันว่าคุณแตงโมยังไปนั่งฉี่ที่ท้ายเรือคือคุณแตงโมประมาทในทางกฎหมายก็หมายความว่าต่างฝ่ายต่างประมาท
เขาบอกว่าจริงๆ แล้วคุณแม่กับคุณแตงโมจริง ๆ แล้วไม่มีการเกี่ยวพันอะไรกันเลย คุณแตงโมเกือบจะไม่เคยพูดถึงเลย เพิ่งกลับเข้ามาเกี่ยวในชีวิตของคุณแตงโมเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง ทนายรณณรงค์มองว่ายังไงครับ ?
รณณรงค์ : คืออย่างแรกเลยนะครับ แม่ก็คือแม่ไม่ว่าจะเลี้ยงมาเยอะหรือน้อยยังไงก็คือแม่ สังคมไทยต้องเคารพบุพการีอยู่แล้ว แต่ในส่วนของการจัดการมรดกอันนี้ผมก็อึ้งเหมือนกัน สำหรับเคสของคุณแตงโมเป็นเคสแรกที่แม่ไปจัดการเรื่องของมรดกไวที่สุด คือเคสอื่นไม่ได้ไวขนาดนี้ ยังร้องไห้ยังเสียใจอยู่เลยเพราะศพลูกยังไม่ได้ฝังเลย
เพราะฉะนั้นโดยส่วนตัวก็คิดว่ามันก็แปลก ๆ เหมือนกัน ?
รณณรงค์ : ใช้คำว่าไวดีกว่า
คุณสันธนะมั่นใจว่าหลักฐานเราเข้มแข็งพอที่เราจะไม่โดนฟ้องกลับ ?
สันธนะ : คำสัมภาษณ์ของคุณแม่คุณแตงโมที่ว่าไม่ติดใจและไม่เอาความกับสองนักธุรกิจ เป็นสัญญาณที่ไม่ดีในคดีแล้ว วันนี้มันก็เกิดขึ้นจริง คือเปิดทางเพื่อที่สังคมจะได้เห็นแล้วว่าเขาพร้อมที่จะยอมรับการชดเชยเยียวยาก็เลยมีตัวเลขออกมา เท่ากับว่าทุกอย่างสมบูรณ์ คดีนี้ต่อไปก็คงเป็นไปตามที่พนักงานสอบสวนเขาตั้งประเด็นไว้

ภาพจาก รายการเป็นเรื่องใหญ่
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการเป็นเรื่องใหญ่








