บังแจ็ค วีรกรรมเพียบ เจอสั่งแบล็กลิสต์ห้ามเข้าไทย 10 ปี ตำรวจลั่น ถ้ามีหลักฐานคดีแตงโม ก็งัดมา จะมาโพสต์ทำไม ถ้ารู้ว่าตำรวจมีหลักฐานอะไร อ้าปากค้างแน่ ด้านอัจฉริยะ ปัดเอี่ยวโพสต์รูปแตงโม
เป็นบุคคลที่โซเชียลจับตาในตอนนี้ สำหรับบังแจ็ค ที่ได้รับโทรศัพท์มือถือของแตงโม นิดา ดาราสาวผู้ล่วงลับ มาจากแม่ของเธอ ซึ่งบังแจ็ค ได้นำรูป และข้อมูลบางส่วนในโทรศัทพ์ออกมาเปิดเผยและมีการสร้างเพจขึ้นมา ซึ่งเมื่อสืบประวัติบังแจ็ค พบว่ามีคู่กรณีมากมาย เริ่มตั้งแต่การเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย ข่มขู่คนดังมากมาย เช่น บุ๋ม ปนัดดา, หนุ่ม กรรชัย, ทนายตั้ม ษิทรา, แพท ณปภา และเบนซ์ เรซซิ่ง ที่แรงสุดคือมีการชักปืน AK-47 มาขู่ด้วย ฯลฯ
อ่านเพิ่มเติม : เปิดวีรกรรมบังแจ็ค อยู่ไทย 5 ปี มีเรื่องตาลุกเพียบ เห็นชื่อคู่กรณีแล้วซี้ด ตัวท็อปทั้งนั้น
ล่าสุด (26 พฤษภาคม 2565) เดลินิวส์ รายงานว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ตรวจสอบประวัติของบังแจ็ค หรือ Mr.ZULQARNAIN HAIDER RAJA พบว่าบังแจ็ค เคยถูกจับกุมในข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรเกินกฎหมายกำหนดเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหลังถูกจับ เจ้าหน้าที่ก็นำตัวส่งฟ้องศาล และศาลมีคำสั่งเนรเทศออกนอกราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2559 และอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยได้อีกครั้งในวันที่ 24 ธันวาคม 2569 หรือ ครบ 10 ปี หลังถูกเนรเทศ อย่างไรก็ตาม หากบังแจ็ค จะเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยได้ จะถูกควบคุมตัวจับตามหมายจับทันที
รายงานข่าวระบุว่า แม้บังแจ็คจะกลับเข้าประเทศไทยหลังครบ 10 ปี ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอาจหยิบยกพฤติการณ์ในอดีตของบังแจ็ค ขึ้นมาพิจารณาและปฏิเสธการเข้าเมืองตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง มาตรา 12 (7) ที่ระบุว่า มีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคมหรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชนหรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ
ทั้งนี้ ในรายการโหนกระแส พล.ต.ท. กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้เปิดเผยบางช่วงบางตอนในรายการโหนกระแสว่า หากบังแจ็ค มีภาพมีคลิปทางคดีเอามาประกอบตามที่อ้าง ก็ให้มาพิสูจน์ จะโพสต์ทำไม แล้วถ้าคดีนี้พบว่าบังแจ็คผิด ก็จะทำเรื่องถึงการส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามขั้นตอน ซึ่งเชื่อว่าถ้าบังแจ็ครู้ว่าผมมีหลักฐานอะไรในมือ บังแจ็คต้องอ้าปากค้างอย่างแน่นอน
ทางด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เผยว่า ตนได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการขอความเป็นธรรมให้กับแตงโม โดยร้องขอความเป็นธรรม 8 ข้อกับอัยการสูงสุด ได้โปรดมีคำสั่งไปยังพนักงานอัยการเพื่อขอให้ตำรวจภูธรภาค 1 สอบปากคำพยานเพิ่มอีก 3 ปาก ดังนี้
1. พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ กรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ซึ่งจะเป็นพยานคนกลาง
2. พ.อ. นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งจะเกี่ยวกับเรื่องบาดแผล
3. ผู้เชี่ยวชาญด้านจีพีเอส ซึ่งจะสามารถระบุได้ว่า พิกัดที่บอกว่ามีการตกท้ายเรือ เป็นไปไม่ได้
รวมถึงขอให้มีการตรวจคราบเลือดใหม่อีกครั้ง เพราะเชื่อว่าถ้ามีการตรวจคราบเลือดใหม่อีกครั้ง จะสามารถพิสูจน์ได้ว่ามันไม่ใช่การประมาท ตลอดจนการตรวจสอบพิกัดที่ตกเรือ เพราะมองว่าการตกท้ายเรือเป็นไปไม่ได้ ซึ่ง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เคยพูดไว้แล้วถึง 2 ครั้งว่าเป็นการตกจากหัวเรือ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องสอบปากคำ พญ.คุณหญิง พรทิพย์ รวมถึง พ.อ. นพ.ธวัชชัย และผู้เชี่ยวชาญด้านจีพีเอส เพื่อดูว่าบาดแผลช่วงเวลาการเสียชีวิต และตำแหน่งเรือ สัมพันธ์กันหรือไม่ โดยหากอัยการสูงสุดมีคำสั่งเร็ว ก็คาดว่าไม่เกิน 10 วันก็แล้วเสร็จ เพราะพยานทุกคนพร้อมจะมาให้ปากคำ โดยไม่ถือเป็นการประวิงเวลา
นายอัจฉริยะ ระบุถึงกรณีที่ทนายเดชา และทนายตั้มออกมาพูดในทำนองว่าตนมีร่วมมือกับบังแจ็ค ในการปล่อยภาพแตงโมนั้น ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่บังแจ็คติดต่อตนมาเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2565 โดยระบุว่ามีคลิปเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี แต่ตนไม่เชื่อและไม่ให้ค่าสิบแปดมงกุฎ
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์
เป็นบุคคลที่โซเชียลจับตาในตอนนี้ สำหรับบังแจ็ค ที่ได้รับโทรศัพท์มือถือของแตงโม นิดา ดาราสาวผู้ล่วงลับ มาจากแม่ของเธอ ซึ่งบังแจ็ค ได้นำรูป และข้อมูลบางส่วนในโทรศัทพ์ออกมาเปิดเผยและมีการสร้างเพจขึ้นมา ซึ่งเมื่อสืบประวัติบังแจ็ค พบว่ามีคู่กรณีมากมาย เริ่มตั้งแต่การเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย ข่มขู่คนดังมากมาย เช่น บุ๋ม ปนัดดา, หนุ่ม กรรชัย, ทนายตั้ม ษิทรา, แพท ณปภา และเบนซ์ เรซซิ่ง ที่แรงสุดคือมีการชักปืน AK-47 มาขู่ด้วย ฯลฯ
อ่านเพิ่มเติม : เปิดวีรกรรมบังแจ็ค อยู่ไทย 5 ปี มีเรื่องตาลุกเพียบ เห็นชื่อคู่กรณีแล้วซี้ด ตัวท็อปทั้งนั้น
ล่าสุด (26 พฤษภาคม 2565) เดลินิวส์ รายงานว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ตรวจสอบประวัติของบังแจ็ค หรือ Mr.ZULQARNAIN HAIDER RAJA พบว่าบังแจ็ค เคยถูกจับกุมในข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรเกินกฎหมายกำหนดเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหลังถูกจับ เจ้าหน้าที่ก็นำตัวส่งฟ้องศาล และศาลมีคำสั่งเนรเทศออกนอกราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2559 และอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยได้อีกครั้งในวันที่ 24 ธันวาคม 2569 หรือ ครบ 10 ปี หลังถูกเนรเทศ อย่างไรก็ตาม หากบังแจ็ค จะเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยได้ จะถูกควบคุมตัวจับตามหมายจับทันที
รายงานข่าวระบุว่า แม้บังแจ็คจะกลับเข้าประเทศไทยหลังครบ 10 ปี ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอาจหยิบยกพฤติการณ์ในอดีตของบังแจ็ค ขึ้นมาพิจารณาและปฏิเสธการเข้าเมืองตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง มาตรา 12 (7) ที่ระบุว่า มีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคมหรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชนหรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ
ทั้งนี้ ในรายการโหนกระแส พล.ต.ท. กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้เปิดเผยบางช่วงบางตอนในรายการโหนกระแสว่า หากบังแจ็ค มีภาพมีคลิปทางคดีเอามาประกอบตามที่อ้าง ก็ให้มาพิสูจน์ จะโพสต์ทำไม แล้วถ้าคดีนี้พบว่าบังแจ็คผิด ก็จะทำเรื่องถึงการส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามขั้นตอน ซึ่งเชื่อว่าถ้าบังแจ็ครู้ว่าผมมีหลักฐานอะไรในมือ บังแจ็คต้องอ้าปากค้างอย่างแน่นอน
ทางด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เผยว่า ตนได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการขอความเป็นธรรมให้กับแตงโม โดยร้องขอความเป็นธรรม 8 ข้อกับอัยการสูงสุด ได้โปรดมีคำสั่งไปยังพนักงานอัยการเพื่อขอให้ตำรวจภูธรภาค 1 สอบปากคำพยานเพิ่มอีก 3 ปาก ดังนี้
1. พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ กรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ซึ่งจะเป็นพยานคนกลาง
2. พ.อ. นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งจะเกี่ยวกับเรื่องบาดแผล
3. ผู้เชี่ยวชาญด้านจีพีเอส ซึ่งจะสามารถระบุได้ว่า พิกัดที่บอกว่ามีการตกท้ายเรือ เป็นไปไม่ได้
รวมถึงขอให้มีการตรวจคราบเลือดใหม่อีกครั้ง เพราะเชื่อว่าถ้ามีการตรวจคราบเลือดใหม่อีกครั้ง จะสามารถพิสูจน์ได้ว่ามันไม่ใช่การประมาท ตลอดจนการตรวจสอบพิกัดที่ตกเรือ เพราะมองว่าการตกท้ายเรือเป็นไปไม่ได้ ซึ่ง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เคยพูดไว้แล้วถึง 2 ครั้งว่าเป็นการตกจากหัวเรือ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องสอบปากคำ พญ.คุณหญิง พรทิพย์ รวมถึง พ.อ. นพ.ธวัชชัย และผู้เชี่ยวชาญด้านจีพีเอส เพื่อดูว่าบาดแผลช่วงเวลาการเสียชีวิต และตำแหน่งเรือ สัมพันธ์กันหรือไม่ โดยหากอัยการสูงสุดมีคำสั่งเร็ว ก็คาดว่าไม่เกิน 10 วันก็แล้วเสร็จ เพราะพยานทุกคนพร้อมจะมาให้ปากคำ โดยไม่ถือเป็นการประวิงเวลา
นายอัจฉริยะ ระบุถึงกรณีที่ทนายเดชา และทนายตั้มออกมาพูดในทำนองว่าตนมีร่วมมือกับบังแจ็ค ในการปล่อยภาพแตงโมนั้น ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่บังแจ็คติดต่อตนมาเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2565 โดยระบุว่ามีคลิปเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี แต่ตนไม่เชื่อและไม่ให้ค่าสิบแปดมงกุฎ
