x close

เกย์เฮ กาชาดปลดล็อก บริจาคเลือดได้


 
            กลุ่มเกย์เฮ สภากาชาดไทยปลดล็อกให้บริจาคเลือดได้ ยกเลิกคำถามการมีเซ็กส์แบบเจาะจง เน้นพฤติกรรมของทุกเพศแทน ผอ.สภากาชาดไทยระบุ ตรวจเลือดเกย์ 4 คน พบติดเอดส์ 1 คน สถิติพุ่ง 50% จากปีก่อน วอนเครือข่ายความหลากหลายทางเพศ ตระหนักถึงผู้ป่วยที่ต้องการรับโลหิต

            ในที่สุดก็ได้ทางออก สำหรับข้อพิพาทเกี่ยวกับการบริจาคเลือดของกลุ่มเกย์ หรือกลุ่มชายรักชายโดยสภากาชาดไทยยอมยกเลิกคำถามข้อที่ 12 ที่ระบุไว้ว่า "ท่านหรือคู่ของท่านมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันหรือไม่" ในใบรับบริจาคเลือด จนทำให้กลุ่มคนที่มีรสนิยมรักเพศเดียวกันเกิดความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากถูกกีดกันจากคนในสังคม

              ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 เมษายน นายนที ธีระโรจนพงษ์ ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย พร้อมเจ้าหน้าที่เครือข่ายอัตลักษณ์ทางเพศ เข้ามอบช่อดอกไม้ให้ พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อขอบคุณที่เปิดโอกาสให้กลุ่มเกย์ได้รับความเท่าเทียมเหมือนกับคนส่วนใหญ่ในสังคม

            นายนทีกล่าวว่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีผู้ไปบริจาคเลือดที่สภากาชาดไทย และโทรศัพท์มาแจ้งเครือข่ายอัตลักษณ์ทางเพศว่า รู้สึกเหมือนกับว่าผู้มีรสนิยมในเพศเดียวกันถูกกีดกันจากสังคม ขนาดต้องการบริจาคเลือดช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ยังไม่สามารถทำได้ จึงเข้ามาร้องเรียนต่อสภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ซึ่งเครือข่ายได้รับการตอบรับจากสภากาชาดไทยเป็นอย่างดี โดยพร้อมจะแก้ไขปรับเปลี่ยนคำถามที่ทำให้เครือข่ายรู้สึกด้อยค่าในสังคม จนในที่สุดก็ได้บทสรุปว่าจะไม่มีคำถามเจาะจงลักษณะดังกล่าวในใบรับบริจาคเลือดอีก

            นายนาทีกล่าวต่อว่าหลังจากมีการพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว ทราบว่าสาเหตุที่สภากาชาดไทยต้องมีคำถามในลักษณะเจาะจงก็เพราะว่า จากสถิติที่สำรวจพบกลุ่มผู้มีรสนิยมเพศเดียวกันติดเชื้อเอดส์เพิ่มมากขึ้นจนน่าตกใจ ใน กทม.มีผู้ติดเชื้อ 28% เชียงใหม่ 16% และภูเก็ต 19% ซึ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเมื่อครั้งที่ยาเสพติดประเภทใช้เข็มแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทย

            "จากสถิติที่มีการตรวจสอบโดยอังกัส ซึ่งเป็นองค์กรของต่างประเทศ ที่สำรวจเรื่องเอดส์ร่วมกับสมาคมฟ้าสีรุ้ง พบว่าการแพร่ระบาดของเชื้อเอดส์ 80% มาจากเซาน่า ตรงนี้อยากจะให้ผู้มีอำนาจทั้งหน่วยงานราชการ และผู้ประกอบการเซาน่าออกมาช่วยกันดูแลและแก้ไขเรื่องนี้ด้วย" ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทยกล่าว

            ด้านพญ.สร้อยสอางค์กล่าวว่า หลังจากเครือข่ายความหลากหลายทางเพศเข้ามาร้องเรียนเรื่องดังกล่าวแล้ว สภากาชาดไทยมีการประชุมหารือกันในคณะอนุกรรมการวิชาการของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เพื่อให้เหตุผลทางวิชาการ ซึ่งอาศัยข้อมูลทางสถิติในเรื่องของความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในพฤติกรรมต่างๆ ที่ถามในใบสมัครลงทะเบียน และสรุปว่าควรจะตัดคำถามในข้อที่ 12 ออกไป เพื่อลดการถามคำถามเจาะจงกลุ่ม แต่จะไปเพิ่มข้อย่อยเพื่อเน้นพฤติกรรมของทุกเพศ ไม่เจาะจงเพศใดเพศหนึ่ง ซึ่งต่อไปนี้กลุ่มเครือข่ายความหลากหลายทางเพศจะไม่มีความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอีก 

            "จากสถิติที่สภากาชาดสำรวจ พบว่าหากเราตรวจเลือดกลุ่มที่มีรสนิยมเพศเดียวกัน 4 คน จะพบคนที่ติดเชื้อ 1 คน หรือ 25% ซึ่งเป็นอัตราการติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นเกือบ 50% จากปีก่อน และจากสถิตินี้เองสอดคล้องกับสถิติที่กระทรวงสาธารณสุขสำรวจ คือ มีกลุ่มผู้มีรสนิยมเพศเดียวกันติดเชื้อเอดส์ถึง 27% จึงอยากจะขอให้เครือข่ายความหลากหลายทางเพศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตระหนักถึงผู้ป่วยที่ต้องการรับโลหิต ด้วยการมีความจริงใจในการเข้ามาบริจาคโลหิต ตอบคำถามที่ตรงไปตรงมาในเรื่องของพฤติกรรมทางเพศด้วย" พญ.สร้อยสอางค์กล่าว

 

 ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- กาชาดไม่รับเลือด ตุ๊ด-เกย์ เสียเวลาคัดแยกเชื้อ เอชไอวี
- กาชาดไม่รับบริจาคเลือดตุ๊ด

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เกย์เฮ กาชาดปลดล็อก บริจาคเลือดได้ โพสต์เมื่อ 11 เมษายน 2551 เวลา 10:30:52 13,431 อ่าน
TOP