แพรรี่ โพสต์เตือน ภิกษุณีปลาย พรายกระซิบ หลังมีดราม่าไลฟ์ขายสบู่น้ำมนต์ ชี้ศาสนาไม่ใช่สถานที่ชุบตัว ผ้าเหลืองไม่ได้มีไว้สำหรับเป็นเครื่องหมายทางการค้า ถ้าจะขายของแนะนำให้ออกมา
กลายเป็นประเด็นดราม่า เมื่อ หมอปลาย พรายกระซิบ ซึ่งกำลังบวชเป็น ภิกษุณีปลาย ได้ถือสบู่ไลฟ์ขายโดยมีการระบุว่า สบู่นี้เทียบได้กับการอาบน้ำมนต์ สรรพคุณมีทั้งล้างคุณไสยฯ ของต่ำมนต์ดำ อัปมงคล โดนทำของใส่ โดนลมเพลมพัด ขับไล่ผีวิญญาณติดตาม สิ่งชั่วร้าย เสริมยมคุณฯ จนโดนคนเข้ามาวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม พร้อมไล่ให้ไปสึก
อ่านข่าว : ดราม่า ภิกษุณีปลาย ขายสบู่น้ำมนต์ สรรพคุณล้างคุณไสยฯ - ขับไล่ผี คนแซะสึกเถอะ !
วันที่ 28 กันยายน 2565 แพรรี่ ไพรวัลย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "ถึงท่านภิกษุณีปลาย ดิฉันขออนุญาตพูดถึงประเด็นของภิกษุณีปลายหน่อยนะคะ ด้วยเห็นว่า ท่านเจ้าคุณอาจารย์พยอม อยากให้ดิฉันพูด ถือเป็นการแบ่งภาระในให้ความเห็นทางพระศาสนาแทนเจ้าคุณอาจารย์ท่าน ในความเห็นของดิฉัน ต่อให้ภิกษุณีปลาย จะไม่ได้อยู่ในสังกัดหรือความดูแลของคณะสงฆ์ไทย แต่ท่านก็ถือว่าเป็นนักบวชในพระพุทธศาสนาค่ะ
เมื่อเป็นแบบนี้ ดิฉันคิดว่า ถ้าท่านอยากจะทำธุรกิจหรือค้าขายอะไรโดยอาศัยความเชื่อ ท่านควรทำอย่างตรงไปตรงมานะคะ สัมมาอาชีวะ เป็นเรื่องพื้นฐานที่แม้แต่ฆราวาสก็ควรต้องรู้ คำว่า ทำอย่างตรงไปตรงมา ในความหมายของดิฉัน คือดิฉันอยากให้ท่านทำในฐานะของฆราวาสค่ะ ของหมอปลาย พลายกระซิบ หรืออะไร ก็ว่ากันไป แต่ไม่ใช่ในฐานะของภิกษุณี ของนักบวชในพระพุทธศาสนา แบบนี้ดิฉันไม่ติดค่ะ
ในความเห็นของดิฉัน การที่ท่านตัดสินใจออกบวชแล้ว นั่นควรหมายความว่า ท่านมีศรัทธาต่อพุทธศาสนาจริง ๆ ต่อคำสอนที่มุ่งเน้นเรื่องการใช้สติปัญญาในการดับทุกข์ ท่านควรประพฤติตนตามหลักการข้อนี้ และสอนคนอื่นที่มีความนับถือในตัวท่านด้วย
"ศาสนาไม่ได้สถานที่ชุบตัว ผ้าเหลืองไม่ได้มีไว้สำหรับเป็นเครื่องหมายทางการค้า หรือเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ใครใช้ประกอบอาชีพนะคะ"
ท่านคิดว่า สิ่งที่ท่านทำอยู่ตอนนี้ถูกต้องหรือเปล่าคะ ไม่ว่าเรื่องการทำนาย การขายสบู่อวดอ้างสรรพคุณต่าง ๆ ทุกวันนี้ มีสตรีหลายคนบวชเป็นภิกษุณี และพวกเธอพยายามศึกษาเคร่งครัด เพื่อยืนยันให้เห็นว่า ผู้หญิงเมื่อเข้าไปบวชก็สามารถเป็นนักบวชที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้ ดิฉันมองว่าการที่ท่านอุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงต่างประเทศ หาลู่หาทางในการบวชจนเป็นภิกษุณีได้ แล้วกลับเอาผ้าเหลืองที่ตนเองได้มา มาทำเรื่องไม่เหมาะสมแบบนี้มันน่าเสียดายนะคะ เรียกว่าไม่คุ้มค่าหรือเปล่าประโยชน์ก็ว่าได้
ดิฉันขอถือวิสาสะถวายคำแนะนำให้ท่าน คือท่านควรต้องเลือกค่ะ ถ้าจะขายของก็ควรออกมา ไม่ควรใช้สถานะนักบวชแสวงหาลาภปัจจัยในทางที่ไม่ถูกต้อง แต่ถ้ามีท่านศรัทธาในพระพุทธศาสนาจริง ๆ ท่านก็ควรทิ้งวิถีแห่งไสยศาสตร์หรือแม้แต่ความเป็นแม่ค้าที่ท่านทำนะคะ อันนี้ดิฉันพูดด้วยความจริงใจในฐานะของน้องสาว ของคนที่เคยออกรายการสัมภาษณ์กับท่าน และพูดในฐานะที่เจ้าคุณอาจารย์พยอม ท่านขอให้ดิฉันพูด หวังว่าท่านจะรับฟังและไม่โกรธเคืองดิฉันนะคะ"
![แพรรี่ ฟาด ภิกษุณีปลาย ไลฟ์ขายสบู่น้ำมนต์ แพรรี่ ฟาด ภิกษุณีปลาย ไลฟ์ขายสบู่น้ำมนต์]()
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร
![แพรรี่ ฟาด ภิกษุณีปลาย ไลฟ์ขายสบู่น้ำมนต์ แพรรี่ ฟาด ภิกษุณีปลาย ไลฟ์ขายสบู่น้ำมนต์]()
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร
![แพรรี่ ฟาด ภิกษุณีปลาย ไลฟ์ขายสบู่น้ำมนต์ แพรรี่ ฟาด ภิกษุณีปลาย ไลฟ์ขายสบู่น้ำมนต์]()
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Plai Navaracha หมอปลาย พรายกระซิบ
![แพรรี่ ฟาด ภิกษุณีปลาย ไลฟ์ขายสบู่น้ำมนต์ แพรรี่ ฟาด ภิกษุณีปลาย ไลฟ์ขายสบู่น้ำมนต์]()
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Plai Navaracha หมอปลาย พรายกระซิบ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร
กลายเป็นประเด็นดราม่า เมื่อ หมอปลาย พรายกระซิบ ซึ่งกำลังบวชเป็น ภิกษุณีปลาย ได้ถือสบู่ไลฟ์ขายโดยมีการระบุว่า สบู่นี้เทียบได้กับการอาบน้ำมนต์ สรรพคุณมีทั้งล้างคุณไสยฯ ของต่ำมนต์ดำ อัปมงคล โดนทำของใส่ โดนลมเพลมพัด ขับไล่ผีวิญญาณติดตาม สิ่งชั่วร้าย เสริมยมคุณฯ จนโดนคนเข้ามาวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม พร้อมไล่ให้ไปสึก
อ่านข่าว : ดราม่า ภิกษุณีปลาย ขายสบู่น้ำมนต์ สรรพคุณล้างคุณไสยฯ - ขับไล่ผี คนแซะสึกเถอะ !
วันที่ 28 กันยายน 2565 แพรรี่ ไพรวัลย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "ถึงท่านภิกษุณีปลาย ดิฉันขออนุญาตพูดถึงประเด็นของภิกษุณีปลายหน่อยนะคะ ด้วยเห็นว่า ท่านเจ้าคุณอาจารย์พยอม อยากให้ดิฉันพูด ถือเป็นการแบ่งภาระในให้ความเห็นทางพระศาสนาแทนเจ้าคุณอาจารย์ท่าน ในความเห็นของดิฉัน ต่อให้ภิกษุณีปลาย จะไม่ได้อยู่ในสังกัดหรือความดูแลของคณะสงฆ์ไทย แต่ท่านก็ถือว่าเป็นนักบวชในพระพุทธศาสนาค่ะ
เมื่อเป็นแบบนี้ ดิฉันคิดว่า ถ้าท่านอยากจะทำธุรกิจหรือค้าขายอะไรโดยอาศัยความเชื่อ ท่านควรทำอย่างตรงไปตรงมานะคะ สัมมาอาชีวะ เป็นเรื่องพื้นฐานที่แม้แต่ฆราวาสก็ควรต้องรู้ คำว่า ทำอย่างตรงไปตรงมา ในความหมายของดิฉัน คือดิฉันอยากให้ท่านทำในฐานะของฆราวาสค่ะ ของหมอปลาย พลายกระซิบ หรืออะไร ก็ว่ากันไป แต่ไม่ใช่ในฐานะของภิกษุณี ของนักบวชในพระพุทธศาสนา แบบนี้ดิฉันไม่ติดค่ะ
ในความเห็นของดิฉัน การที่ท่านตัดสินใจออกบวชแล้ว นั่นควรหมายความว่า ท่านมีศรัทธาต่อพุทธศาสนาจริง ๆ ต่อคำสอนที่มุ่งเน้นเรื่องการใช้สติปัญญาในการดับทุกข์ ท่านควรประพฤติตนตามหลักการข้อนี้ และสอนคนอื่นที่มีความนับถือในตัวท่านด้วย
"ศาสนาไม่ได้สถานที่ชุบตัว ผ้าเหลืองไม่ได้มีไว้สำหรับเป็นเครื่องหมายทางการค้า หรือเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ใครใช้ประกอบอาชีพนะคะ"
ท่านคิดว่า สิ่งที่ท่านทำอยู่ตอนนี้ถูกต้องหรือเปล่าคะ ไม่ว่าเรื่องการทำนาย การขายสบู่อวดอ้างสรรพคุณต่าง ๆ ทุกวันนี้ มีสตรีหลายคนบวชเป็นภิกษุณี และพวกเธอพยายามศึกษาเคร่งครัด เพื่อยืนยันให้เห็นว่า ผู้หญิงเมื่อเข้าไปบวชก็สามารถเป็นนักบวชที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้ ดิฉันมองว่าการที่ท่านอุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงต่างประเทศ หาลู่หาทางในการบวชจนเป็นภิกษุณีได้ แล้วกลับเอาผ้าเหลืองที่ตนเองได้มา มาทำเรื่องไม่เหมาะสมแบบนี้มันน่าเสียดายนะคะ เรียกว่าไม่คุ้มค่าหรือเปล่าประโยชน์ก็ว่าได้
ดิฉันขอถือวิสาสะถวายคำแนะนำให้ท่าน คือท่านควรต้องเลือกค่ะ ถ้าจะขายของก็ควรออกมา ไม่ควรใช้สถานะนักบวชแสวงหาลาภปัจจัยในทางที่ไม่ถูกต้อง แต่ถ้ามีท่านศรัทธาในพระพุทธศาสนาจริง ๆ ท่านก็ควรทิ้งวิถีแห่งไสยศาสตร์หรือแม้แต่ความเป็นแม่ค้าที่ท่านทำนะคะ อันนี้ดิฉันพูดด้วยความจริงใจในฐานะของน้องสาว ของคนที่เคยออกรายการสัมภาษณ์กับท่าน และพูดในฐานะที่เจ้าคุณอาจารย์พยอม ท่านขอให้ดิฉันพูด หวังว่าท่านจะรับฟังและไม่โกรธเคืองดิฉันนะคะ"

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Plai Navaracha หมอปลาย พรายกระซิบ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Plai Navaracha หมอปลาย พรายกระซิบ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร








