โดนอีกราย ! นายพลเว็บพนัน แถลงจับ ผู้การเบ้ เพื่อนร่วมรุ่น บิ๊กโจ๊ก

          บิ๊กโจ๊ก แถลงปิดคดี นายพลเจ้าของเว็บพนัน จับผู้การเบ้ เพื่อนร่วมรุ่น นรต.47 ยันรุ่นเดียวกันก็ไม่ปกป้อง เพื่อก็โดนหากกระทำผิด


          จากกรณีเพจสายไหมต้องรอด พานายเชิดเกียรติ ศักดิ์ศรี อายุ 24 ปี ผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กรณีถูกกลุ่มผู้ต้องหา 7 คน อุ้มจากที่พักย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ ไปทำร้ายร่างกาย ทวงเงิน และได้เอาทรัพย์สินของผู้เสียหายเป็นเงินสด โทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ต รวมมูลค่าประมาณ 100,000 บาท

          โดยมูลหนี้มีความเกี่ยวข้องกับการลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 ในพื้นที่ สน.โชคชัย ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ครบทั้ง 7 คน รวมทั้งยังดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ให้ความช่วยเหลือในการค้นข้อมูลทะเบียนราษฎรของผู้เสียหาย ส่งให้กลุ่มผู้ก่อเหตุอีก 1 ราย


          ล่าสุด (21 มิถุนายน 2566) เดลินิวส์ รายงานว่า พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แถลงผลความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า ในส่วนของคดีปล้นทรัพย์นั้น ได้สรุปสำนวนฟ้องเสนอพนักงานอัยการไปแล้วคดีอยู่ในชั้นศาล และในส่วนของสำนวนคดี ป.ป.ช. ซึ่งดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ค้นข้อมูลทะเบียนราษฎรนั้น ป.ป.ช. ได้พิจารณาชี้มูลความผิดและส่งให้ ภ.จว.สระแก้ว ดำเนินตามกฎหมายแล้ว

          นอกจากนี้ชุดสืบสวนสามารถขยายผลไปถึงนายพลตำรวจ เพื่อนร่วมรุ่น คือ ผู้การเบ้ พบว่าเกี่ยวข้องเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ RRD789, BLUE789, SEXY789 เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าเล่นพนันออนไลน์ผ่านช่องทางเว็บไซต์ โดยแบ่งหน้าที่การทำงานชัดเจน มีสถานที่ทำการอยู่ใน จ.ชลบุรี ก่อนเปลี่ยนไปใช้รูปแบบเวิร์กฟรอมโฮม จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด 9 คน


          โดยทั้งหมดได้ถูกดำเนินคดีและจับกุมไปแล้ว และยังพบว่ามีนายตำรวจระดับผู้กำกับเข้ามาเกี่ยวข้อง เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฐานความผิด ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือเป็นผู้สนับสนุน จัดให้มีการเล่นหรืออุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยตรง หรือทางอ้อมผู้อื่นเล่นการพนันออนไลน์, สมคบโดยกระทำตั้งแต่สองคนขึ้นไป ในความผิดฐานฟอกเงิน และจะตรวจสอบทรัพย์สินทั้งสิ้น ประมาณ 200 กว่าล้านบาท จะส่งให้ ปปง. ตรวจสอบ ยึดทรัพย์ ซึ่งทางผู้การเบ้ให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน ขอให้การในชั้นศาล

          ขณะที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า แม้ผู้ต้องหาจะเป็นนายตำรวจเพื่อนร่วมรุ่น นรต.47 แต่ใครผิดก็ว่าไปตามผิด จะต้องถูกเอาผิดเต็มที่โดยไม่มีละเว้น ถึงเป็นเพื่อนกันก็ขออนุญาตดำเนินคดี