คนจนผู้ยิ่งใหญ่ ชายพิการเก็บขวดขาย มุ่งมั่นบริจาคเงินช่วยนักเรียนมา 15 ปี บริจาคแล้วกว่า 5 ล้าน ไม่ขอให้ใครจดจำได้ หวังเพียงสักวันเด็ก ๆ กลับมาตอบแทนประเทศ
วันที่ 16 ธันวาคม 2566 เว็บไซต์มาเธอร์ชิป รายงานว่า ชายพิการคนหนึ่งในประเทศจีน ได้สร้างความประทับใจแก่ผู้คนทั้งประเทศหลังจากที่สาธารณชนได้ทราบเรื่องราวของเขา ที่บริจาคเงินแก่นักเรียนร่วม 1 ล้านหยวน (ราว 5 ล้านบาท) ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา โดยแหล่งรายได้ของเขามีเพียงการเก็บขวดน้ำและการขายงานฝีมือตามข้างถนนเท่านั้น
จากข้อมูลที่เปิดเผยบนเว่ยป๋อของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน พบว่า หูเล่ย ชายพิการผู้นี้ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยแต่อย่างใด ขณะที่ครอบครัวของเขาก็ไม่ได้สมบูรณ์เช่นคนอื่น ๆ เขาป่วยเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่เด็ก จึงต้องใช้เข่าในการเดิน พ่อของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะพาหูเล่ยไปหาหมอ ขณะที่แม่ของเขาแต่งงานใหม่หลังพ่อสิ้นใจ ทิ้งเขาให้อยู่ในความดูแลของปู่ย่า กระทั่งเติบโตมาเป็นคนเก็บขวดขาย
ในขณะที่เขาอาจจะไม่ได้มีเงินทองมากมาย แต่สิ่งที่เขามีมากล้นเหลือก็คือน้ำใจ เป็นเวลานานกว่า 15 ปีแล้วที่เขานำเงินมาบริจาคให้แก่นักเรียน รวมถึงการซื้อกระเป๋านักเรียนกว่า 20,000 ใบ ในช่วงเวลาเหล่านั้น
ทั้งนี้ เขามักจะบอกกับเด็กที่ได้รับความช่วยเหลือจากเขาว่า "ถ้าพวกเธอมีเรื่องลำบากใจอะไร ฉันจะคิดหาทางช่วยให้ เมื่อพวกเธอเติบโตแล้ว ขอให้จดจำพ่อแม่ คุณครู ท่านผู้นำ และความรักของคุณที่มีต่อประเทศนี้ ไม่จำเป็นต้องจดจำฉัน"
จากคลิปที่ทางกระทรวงฯ นำมาเปิดเผย ยังมีภาพของนักเรียนหญิงรายหนึ่งที่เป็นผู้ได้รับความช่วยเหลือจากหูเล่น กำลังร้องไห้ขณะที่ได้เจอหน้าเขาเป็นครั้งแรก
ในขณะที่หูเล่ยมุ่งมั่นกับการทำความดีแบบปิดทองหลังพระ มีหลายคนที่ร้องขอให้เขาทำการไลฟ์สตรีม เพื่อจะได้แชร์ต่อเรื่องราวของเขา แต่หูเล่ยเลือกที่จะปฏิเสธ โดยบอกง่าย ๆ ว่า "ผมไม่อยากทำครับ ผมไม่อยากเป็นคนดังบนอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ง่าย ๆ"
พร้อมกันนั้นเขายังย้ำเตือนไปถึงคนอื่น ๆ ไม่ให้หลงเชื่อกลุ่มคนที่นำชื่อเขาไปแอบอ้างรับผลประโยชน์ โดยชี้ว่า "อย่าใช้เงินฟุ่มเฟือยเพราะผมเลย ผมละอายใจมาก ผมไม่ได้น่าทึ่งอย่างที่พวกคุณคิด ทุกอย่างที่ผมทำมา 15 ปีก็คือการตอบเแทนสังคม ผมไม่ได้คาดหวังความร่ำรวยและชื่อเสียง ผมก็แค่ทำในสิ่งที่ผมต้องการ เพราะผมไม่อยากมานึกเสียใจภายหลัง "
"ชีวิตของผมลำบากครับ แต่ผมทนไม่ได้ที่จะเห็นคนอื่น ๆ มีชีวิตที่ลำบากกว่าผม" หูเล่ย กล่าว และยังอธิบายถึงสาเหตุที่เขาเลือกจะทำความดีต่อสังคม แทนที่จะเก็บเงินเหล่านี้ไว้
"พ่อของผมไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว และผมก็ไม่รู้ว่าความตายจะเกิดขึ้นกับผมเมื่อไหร่ ผมไม่รู้จะอดทนได้อีกนานแค่ไหน ผมไม่อยากมีชื่อเสียงบนอินเทอร์เน็ต ทั้งหมดที่ผมต้องการก็คือการได้ทำความดีต่อไปแบบเงียบ ๆ และหวังว่าสิ่งนี้จะปลูกเมล็ดพันธุ์ความกตัญญูแก่เด็ก ๆ ซึ่งพวกเขาจะกลับมาตอบแทนประเทศชาติในอนาคต"
ขอบคุณข้อมูลจาก Mothership
วันที่ 16 ธันวาคม 2566 เว็บไซต์มาเธอร์ชิป รายงานว่า ชายพิการคนหนึ่งในประเทศจีน ได้สร้างความประทับใจแก่ผู้คนทั้งประเทศหลังจากที่สาธารณชนได้ทราบเรื่องราวของเขา ที่บริจาคเงินแก่นักเรียนร่วม 1 ล้านหยวน (ราว 5 ล้านบาท) ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา โดยแหล่งรายได้ของเขามีเพียงการเก็บขวดน้ำและการขายงานฝีมือตามข้างถนนเท่านั้น
จากข้อมูลที่เปิดเผยบนเว่ยป๋อของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน พบว่า หูเล่ย ชายพิการผู้นี้ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยแต่อย่างใด ขณะที่ครอบครัวของเขาก็ไม่ได้สมบูรณ์เช่นคนอื่น ๆ เขาป่วยเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่เด็ก จึงต้องใช้เข่าในการเดิน พ่อของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะพาหูเล่ยไปหาหมอ ขณะที่แม่ของเขาแต่งงานใหม่หลังพ่อสิ้นใจ ทิ้งเขาให้อยู่ในความดูแลของปู่ย่า กระทั่งเติบโตมาเป็นคนเก็บขวดขาย
ในขณะที่เขาอาจจะไม่ได้มีเงินทองมากมาย แต่สิ่งที่เขามีมากล้นเหลือก็คือน้ำใจ เป็นเวลานานกว่า 15 ปีแล้วที่เขานำเงินมาบริจาคให้แก่นักเรียน รวมถึงการซื้อกระเป๋านักเรียนกว่า 20,000 ใบ ในช่วงเวลาเหล่านั้น
ทั้งนี้ เขามักจะบอกกับเด็กที่ได้รับความช่วยเหลือจากเขาว่า "ถ้าพวกเธอมีเรื่องลำบากใจอะไร ฉันจะคิดหาทางช่วยให้ เมื่อพวกเธอเติบโตแล้ว ขอให้จดจำพ่อแม่ คุณครู ท่านผู้นำ และความรักของคุณที่มีต่อประเทศนี้ ไม่จำเป็นต้องจดจำฉัน"
จากคลิปที่ทางกระทรวงฯ นำมาเปิดเผย ยังมีภาพของนักเรียนหญิงรายหนึ่งที่เป็นผู้ได้รับความช่วยเหลือจากหูเล่น กำลังร้องไห้ขณะที่ได้เจอหน้าเขาเป็นครั้งแรก
ในขณะที่หูเล่ยมุ่งมั่นกับการทำความดีแบบปิดทองหลังพระ มีหลายคนที่ร้องขอให้เขาทำการไลฟ์สตรีม เพื่อจะได้แชร์ต่อเรื่องราวของเขา แต่หูเล่ยเลือกที่จะปฏิเสธ โดยบอกง่าย ๆ ว่า "ผมไม่อยากทำครับ ผมไม่อยากเป็นคนดังบนอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ง่าย ๆ"
พร้อมกันนั้นเขายังย้ำเตือนไปถึงคนอื่น ๆ ไม่ให้หลงเชื่อกลุ่มคนที่นำชื่อเขาไปแอบอ้างรับผลประโยชน์ โดยชี้ว่า "อย่าใช้เงินฟุ่มเฟือยเพราะผมเลย ผมละอายใจมาก ผมไม่ได้น่าทึ่งอย่างที่พวกคุณคิด ทุกอย่างที่ผมทำมา 15 ปีก็คือการตอบเแทนสังคม ผมไม่ได้คาดหวังความร่ำรวยและชื่อเสียง ผมก็แค่ทำในสิ่งที่ผมต้องการ เพราะผมไม่อยากมานึกเสียใจภายหลัง "
"ชีวิตของผมลำบากครับ แต่ผมทนไม่ได้ที่จะเห็นคนอื่น ๆ มีชีวิตที่ลำบากกว่าผม" หูเล่ย กล่าว และยังอธิบายถึงสาเหตุที่เขาเลือกจะทำความดีต่อสังคม แทนที่จะเก็บเงินเหล่านี้ไว้
"พ่อของผมไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว และผมก็ไม่รู้ว่าความตายจะเกิดขึ้นกับผมเมื่อไหร่ ผมไม่รู้จะอดทนได้อีกนานแค่ไหน ผมไม่อยากมีชื่อเสียงบนอินเทอร์เน็ต ทั้งหมดที่ผมต้องการก็คือการได้ทำความดีต่อไปแบบเงียบ ๆ และหวังว่าสิ่งนี้จะปลูกเมล็ดพันธุ์ความกตัญญูแก่เด็ก ๆ ซึ่งพวกเขาจะกลับมาตอบแทนประเทศชาติในอนาคต"
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Mothership













