หนุ่มเล่าการพัฒนาของชีวิต จากมนุษย์เงินเดือนธรรมดา สู่คนซื้อบ้านเดี่ยวพร้อมตกแต่ง 9 ล้านภายใน 5 ปี ชีวิตเปลี่ยนเพราะโปรแกรมเดียวคือ Excel ทำให้มีวันนี้ แม้จุดเริ่มต้นมาจาก Line
ภาพประกอบข่าวไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 25 สิงหาคม 2567 คุณ Book Story สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มีการตั้งกระทู้เล่าเรื่องราวชีวิตพัฒนาการ 5 ปี จากการมีบ้านทาวน์โฮม ราคา 1.9 ล้าน กลายเป็นบ้านเดี่ยวตกแต่งพร้อม 9 ล้านบาท เพียงแค่ใช้โปรแกรม Excel ก็สามารถทำฝันให้สำเร็จได้
เจ้าของกระทู้เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดา เก็บ ออม ศึกษาหาความรู้ หาทางขยับขยาย แล้วเปลี่ยนสถานะมนุษย์เงินเดือนเป็นนักธุรกิจ แต่การเริ่มต้นนั้นไม่ง่าย เพราะต้องเริ่มทำจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ คือ ทำบันทึกบัญชีครัวเรือนทุกวันผ่าน Line สื่อสาร Update พร้อมกับระบุรายละเอียดทุก ๆ วัน ใช้เงินไปกับอะไรบ้าง ตั้งงบเอาไว้และใช้ไม่ให้เกิน ซึ่งเจ้าของกระทู้ตั้งงบไว้ 15,000 บาทต่อเดือน หรือประมาณ 500 บาทต่อวัน แบ่งรายละเอียดออกเป็น 4 บัญชี ดังนี้
1. โครงการเศรษฐี (เห็นภาพรวมรายรับ รายจ่าย ทรัพย์สินเพิ่มขึ้น)
2. โครงการปิดบ้าน (เห็นตัวเลขเหลืออีกกี่บาท)
3. รายจ่ายประจำวัน (คุมงบไม่ให้เกินรายจ่ายที่ตั้งไว้)
4. ซื้อของเข้าบ้าน (คุมรายการ เทียบราคาซื้อเก็บไว้)
ภาพจาก คุณ Book Story สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
โดยในปี 2563 เจ้าของกระทู้ลาออกจากงานประจำ ทำธุรกิจส่วนตัว ประหยัดรายจ่าย ทยอยโปะหนี้บ้าน จนปิดบ้านทาวน์โฮมสำเร็จในปี 2566 อย่างไรก็ตาม เมื่อทำธุรกิจ ตัวเลขรายละเอียดต่าง ๆ ก็เพิ่มขึ้น ทั้งค่าใช้จ่าย สินทรัพย์ เช่น หุ้น ทำให้ไม่สะดวกใช้ Line อีกต่อไป จึงเปลี่ยนมาบันทึกใส่ Excel แทน
และนี่คือจุดเปลี่ยน
การใช้ Excel สามารถทำให้สรุปตัวเลขต่าง ๆ ง่ายขึ้นมาก เพียงแค่ใช้ sum (การรวมตัวเลขทั้งหมดแบบอัตโนมัติ) แต่ก็มีความยากกว่าไลน์ตรงที่ ต้องมาทำใส่คอมพิวเตอร์ ซึ่งพัฒนาแบ่งแยกประเภทค่าใช้จ่ายได้ 7 ตาราง ดังนี้
1. ตารางหนี้สินที่ผ่อนอยู่ ช่องจำนวนงวด ยอดผ่อน คงเหลือ จะเห็นตัวเลขเงินที่ผ่อนเพิ่มขึ้นเรื่อย
2. ทรัพย์สินที่เป็นเงินสดซื้อไว้ทั้งลงทุนในหุ้น เงินสดใน E-Saving เงินที่มัดจำไว้ในการลงทุนต่าง ๆ
3. Passive Income เป็นรายได้ต่อวัน/เดือน/ปี ที่เงินไปทำงาน จะเป็นรายได้ที่ไม่ต้อง active เช่น ออมทอง ออมในธนาคาร
4. รายรับทั้งหมด ทั้งธุรกิจ เงินเดือนกรรมการ Passive จากตาราง 3
5. รายจ่ายส่วนตัวทั้งหมด ตั้งงบไว้ เช่น ค่ากิน+เที่ยว จาก 300-400-500
6. ธุรกิจ (รายจ่ายค่าจ้างพนักงาน ฯลฯ, รายรับธุรกิจ)
7. ตารางมหาทานบารมี ทำบุญด้วยน่ะครับ
ทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้จ่าย ต้องบันทึกให้หมด เพื่อให้รู้ว่าเราใช้เงินไปกับอะไรบ้าง และสรุปกันเป็นเดือนต่อเดือน จนในที่สุดปี 2567 ก็มีบ้านเดี่ยวตกแต่งพร้อม 9 ล้านบาท
ภาพจาก คุณ Book Story สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ชาวเน็ตเห็นแบบนี้แล้ว ยอมรับว่า เจ้าของกระทู้บันทึกข้อมูลได้อย่างละเอียดยิบ เป็นสิ่งที่ดีมาก เหมือนเป็นสิ่งที่ง่าย แต่ปฏิบัติจริงยากมาก ถ้าไม่ใช้ความอดทนมากพอ บางคนทำเพียง 1 เดือนก็ท้อถอย ล้มเลิก
อย่างไรก็ตาม วิธีการบันทึกเรื่องค่าใช้จ่ายก็มีหลายวิธี สุดท้ายเลือกวิธีที่ตัวเองถนัดสุด เพราะจุดประสงค์ทั้งหมดล้วนมีอย่างเดียวกันคือ จะได้รู้ว่า เราหมดค่าใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง เพื่อการควบคุมงบ ค่าใช้จ่ายบางอย่างหมดน้อย แต่จ่ายบ่อย พอรวมเป็นเงินก้อนใหญ่ก็ถือว่าเยอะ
ภาพจาก คุณ Book Story สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพประกอบข่าวไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 25 สิงหาคม 2567 คุณ Book Story สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มีการตั้งกระทู้เล่าเรื่องราวชีวิตพัฒนาการ 5 ปี จากการมีบ้านทาวน์โฮม ราคา 1.9 ล้าน กลายเป็นบ้านเดี่ยวตกแต่งพร้อม 9 ล้านบาท เพียงแค่ใช้โปรแกรม Excel ก็สามารถทำฝันให้สำเร็จได้
เจ้าของกระทู้เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดา เก็บ ออม ศึกษาหาความรู้ หาทางขยับขยาย แล้วเปลี่ยนสถานะมนุษย์เงินเดือนเป็นนักธุรกิจ แต่การเริ่มต้นนั้นไม่ง่าย เพราะต้องเริ่มทำจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ คือ ทำบันทึกบัญชีครัวเรือนทุกวันผ่าน Line สื่อสาร Update พร้อมกับระบุรายละเอียดทุก ๆ วัน ใช้เงินไปกับอะไรบ้าง ตั้งงบเอาไว้และใช้ไม่ให้เกิน ซึ่งเจ้าของกระทู้ตั้งงบไว้ 15,000 บาทต่อเดือน หรือประมาณ 500 บาทต่อวัน แบ่งรายละเอียดออกเป็น 4 บัญชี ดังนี้
1. โครงการเศรษฐี (เห็นภาพรวมรายรับ รายจ่าย ทรัพย์สินเพิ่มขึ้น)
2. โครงการปิดบ้าน (เห็นตัวเลขเหลืออีกกี่บาท)
3. รายจ่ายประจำวัน (คุมงบไม่ให้เกินรายจ่ายที่ตั้งไว้)
4. ซื้อของเข้าบ้าน (คุมรายการ เทียบราคาซื้อเก็บไว้)
ภาพจาก คุณ Book Story สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
โดยในปี 2563 เจ้าของกระทู้ลาออกจากงานประจำ ทำธุรกิจส่วนตัว ประหยัดรายจ่าย ทยอยโปะหนี้บ้าน จนปิดบ้านทาวน์โฮมสำเร็จในปี 2566 อย่างไรก็ตาม เมื่อทำธุรกิจ ตัวเลขรายละเอียดต่าง ๆ ก็เพิ่มขึ้น ทั้งค่าใช้จ่าย สินทรัพย์ เช่น หุ้น ทำให้ไม่สะดวกใช้ Line อีกต่อไป จึงเปลี่ยนมาบันทึกใส่ Excel แทน
และนี่คือจุดเปลี่ยน
การใช้ Excel สามารถทำให้สรุปตัวเลขต่าง ๆ ง่ายขึ้นมาก เพียงแค่ใช้ sum (การรวมตัวเลขทั้งหมดแบบอัตโนมัติ) แต่ก็มีความยากกว่าไลน์ตรงที่ ต้องมาทำใส่คอมพิวเตอร์ ซึ่งพัฒนาแบ่งแยกประเภทค่าใช้จ่ายได้ 7 ตาราง ดังนี้
1. ตารางหนี้สินที่ผ่อนอยู่ ช่องจำนวนงวด ยอดผ่อน คงเหลือ จะเห็นตัวเลขเงินที่ผ่อนเพิ่มขึ้นเรื่อย
2. ทรัพย์สินที่เป็นเงินสดซื้อไว้ทั้งลงทุนในหุ้น เงินสดใน E-Saving เงินที่มัดจำไว้ในการลงทุนต่าง ๆ
3. Passive Income เป็นรายได้ต่อวัน/เดือน/ปี ที่เงินไปทำงาน จะเป็นรายได้ที่ไม่ต้อง active เช่น ออมทอง ออมในธนาคาร
4. รายรับทั้งหมด ทั้งธุรกิจ เงินเดือนกรรมการ Passive จากตาราง 3
5. รายจ่ายส่วนตัวทั้งหมด ตั้งงบไว้ เช่น ค่ากิน+เที่ยว จาก 300-400-500
6. ธุรกิจ (รายจ่ายค่าจ้างพนักงาน ฯลฯ, รายรับธุรกิจ)
7. ตารางมหาทานบารมี ทำบุญด้วยน่ะครับ
ทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้จ่าย ต้องบันทึกให้หมด เพื่อให้รู้ว่าเราใช้เงินไปกับอะไรบ้าง และสรุปกันเป็นเดือนต่อเดือน จนในที่สุดปี 2567 ก็มีบ้านเดี่ยวตกแต่งพร้อม 9 ล้านบาท
ภาพจาก คุณ Book Story สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ชาวเน็ตเห็นแบบนี้แล้ว ยอมรับว่า เจ้าของกระทู้บันทึกข้อมูลได้อย่างละเอียดยิบ เป็นสิ่งที่ดีมาก เหมือนเป็นสิ่งที่ง่าย แต่ปฏิบัติจริงยากมาก ถ้าไม่ใช้ความอดทนมากพอ บางคนทำเพียง 1 เดือนก็ท้อถอย ล้มเลิก
อย่างไรก็ตาม วิธีการบันทึกเรื่องค่าใช้จ่ายก็มีหลายวิธี สุดท้ายเลือกวิธีที่ตัวเองถนัดสุด เพราะจุดประสงค์ทั้งหมดล้วนมีอย่างเดียวกันคือ จะได้รู้ว่า เราหมดค่าใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง เพื่อการควบคุมงบ ค่าใช้จ่ายบางอย่างหมดน้อย แต่จ่ายบ่อย พอรวมเป็นเงินก้อนใหญ่ก็ถือว่าเยอะ
ภาพจาก คุณ Book Story สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม