ผัวสุดช้ำ แฉเมียคบชู้ 5 คน ล่าสุดกับทนาย เมียโฟนอินโต้ใน โหนกระแส มีหักมุม !?

          ผัวสุดช้ำ เปิดใจกลาง โหนกระแส แฉเมียพยาบาล คบชู้ 5 คน คนล่าสุดอ้างเป็นทนาย ด้านเมียโฟนอินโต้เล่าอีกมุม ความจริงมีหักมุมไปอีก !?


          จากกรณี "แห้ง" หนุ่มรายหนึ่ง มีอาชีพเป็นผู้ช่วยพยาบาล ได้ร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกภรรยาที่จดทะเบียน มีลูกด้วยกัน 1 คน คบชู้ผู้ชายถึง 5 คน ช้ำหนักเคยคิดฆ่าตัวตาย โดยมีชู้รายหนึ่งมีอาชีพเป็นถึงทนายความ มีการข่มขู่ทำร้ายแห้งและครอบครัวภรรยา แม้แต่ครอบครัวภรรยาก็ไม่มีใครเข้าข้างลูกตัวเอง ร่วมขอความเป็นธรรมให้ลูกเขย

          ล่าสุด รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 3 กันยายน 2567 ดำเนินรายการโดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ คุณแห้ง, พี่สาวภรรยา, พ่อเลี้ยงฝ่ายภรรยา อยากคืนความเป็นธรรมให้ลูกเขย, ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล, เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด

          - แห้งเป็นผู้ช่วยพยาบาล ทำมา 9 ปีแล้ว รู้จักภรรยาเมื่อช่วงปี 2560-2561 ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง คบหาดูใจกัน 2 ปี จนแต่งงานกันในเดือนมีนาคม 2563

จับได้คุยแฟนเก่า คนที่ 1-2

          - เดือนธันวาคม 2563 มีแฟนเก่าภรรยามาหากันที่โรงพยาบาล ตนรู้เพราะจำหน้าเขาได้ เห็นตอนเดินสวนกันพอดี จากนั้นก็ได้ไปคุยกัน ขอให้จบและหยุดพฤติกรรมแบบนี้ เขาบอกว่าเอาของที่ภรรยาให้มาคืน ก็ไม่รู้เขากลับไปคบกันไหม

          - มีแฟนเก่าอีกคน สมมุติชื่อ เอ เขามีครอบครัวอยู่แล้ว ภรรยาเขาทักมาหาตน ถามถึงภรรยาตน ก็เลยส่งรูปลูกตนให้เขาดู เขาคุยเหมือนจะสื่อว่าภรรยาตนไปคุยกับแฟนเขา แต่ภรรยาบอกไม่ได้ติดต่อกัน จากนั้นได้โทร. ไปหาผู้ชายอีกฝั่ง คือรู้ว่าเขาคุยกัน ตนก็บอกให้หยุด

คุยหนุ่มเบอร์ 2 อ้างส่งงานให้

          - ในปี 2563 เขาออกไปทำงาน จะอ้างบุคคลที่สอง สมมุติชื่อ บี ว่าส่งงานมาให้ เหมือนรับจ๊อบงานพิเศษ ไปครั้งหนึ่งได้ 4-6 พัน ก็เอะใจ คุยกับพ่อตาแม่ยายว่าเวลาออกไปจากบ้านเขาบอกไหมว่าไปกับใคร ก็จะบอกชื่อนี้ตลอด

          - เขาจะบอกได้งานจากคนนี้เยอะมาก แล้วมารู้ว่าเขาเป็นแฟนเก่าตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย เราก็ไม่โอเค ให้พ่อตาแม่ยายโทร. ไปหา เขาบอกไม่ได้ติดต่อกับเมียเลยตั้งแต่รู้ว่าท้อง แต่ภรรยามักอ้างว่านายบีให้งานจ๊อบตลอด

          - พี่สาวเล่าว่า เขาบอกที่บ้านว่าไปทำงานเหมือนเป็นผู้ช่วยคลินิกเสริมความงาม เวลาออกไปทำงานก็แต่งตัว กลับมาก็ได้เงินสดทุกครั้งเป็นปึก ๆ บางครั้งได้เป็นหมื่น ออกไป 3-4 ชั่วโมง ที่บ้านก็สงสัย

เบอร์ 3 หนักสุด รู้ชัดโดนสวมเขา

          - คนที่ 3 สมมุติชื่อ ซี คนนี้หนักสุด เป็นเพื่อนร่วมงาน แฟนเขาส่งหลักฐานมาให้ตอนวันที่ 31 ตุลาคม ปี 2564 คนนี้เจ็บสุด ทำตนช้ำหนักจนคิดฆ่าตัวตาย หอมแก้มลูก กราบเท้าพ่อแม่ขอขมา จะไปกระโดดแม่น้ำ

          - ตอนนั้นเข้าผ่าตัดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ภรรยานายซีส่งรูปมาให้ เป็นรูปคู่กัน 5-6 รูป มีคลิปที่ภรรยานำรถไปหาชู้คนที่ 4 เขาก็ถามว่าใช่ภรรยาคุณไหม ตอนนั้นตนใจสั่น หูชา ปากชา ชักเกร็งในห้องผ่าตัด หัวใจเต้นเฉียบพลัน

          - รูปที่ภรรยานายซีส่งให้ นอกจากรูปภาพคู่พวกเขา ยังมีแชตส่งรูปถุงยางอนามัยใช้แล้วด้วย คือเขาแชตกันประมาณ 2 เดือน เคลียร์กันนอกรอบ แล้วเพิ่งมาบอกตน เลยรู้ว่าโดนสวมเขามาตลอด

          - ตอนนั้นคิดว่าจะตายไปเลย ขี่มอเตอร์ไซค์บิดเต็ม 200 ไปจบที่แม่น้ำเจ้าพระยา มีการไลฟ์ พ่อแม่ก็โทร. ถาม ห้ามอย่าทำ เจอคนขับเรือใต้สะพานบอกอย่าคิดสั้น มีคนปลอบว่าอย่าทำ มีลูก ให้ตั้งสติ

          - จากนั้นไม่กลับบ้าน 3-4 วัน ไปนอนห้องฉุกเฉิน รอคุยกับนายซี แต่เขาก็ไม่ตอบ จนหัวหน้าพยาบาลเรียกมาเคลียร์ จนนายซีโดนให้ออก

          - ทางพ่อเลี้ยงของภรรยาเรียกมาคุยว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ยอมรับว่ามีอะไรกับอีกฝ่ายนั้นจริง ให้โทร. ไปหานายซี เขาก็ยอมรับ สุดท้ายก็เคลียร์กันว่าจะอยู่กันเพื่อลูก

          - ตนอยากเลิก แต่ก็นึกถึงลูก ถ้าไม่มีลูกคงไปนานแล้ว เรารักลูก เลี้ยงมากับมือ ดูแลมาตลอด ทำให้ตัดไม่ขาด ส่วนกับนายซี เขาก็เลิกกันขาดแล้ว

เบอร์ 4 ทนายความ ทำเรื่องหย่าให้ แต่แอบไปกินกัน ?

          - คนล่าสุด แห้ง เล่าว่า เขาแอบอ้างเป็นทนายความ คือปี 2566 ตนกับภรรยาย้ายจากบ้านพ่อตาแม่ยายมาอยู่ใกล้ ๆ โรงเรียนลูก พอเดือนธันวาคม ภรรยาพฤติกรรมเหมือนเดิม แอบคุยโทรศัพท์ในห้องน้ำ ลูกกลับไปนอนบ้านแม่ เอาลูกไปนอนด้วย ไม่ให้ตนคุยกับลูกหรือเจอลูก จนเดือนมกราคม 2567 เขาก็บอกอยากขอหย่า

          - ตนก็งง เขาบอกตนมีพฤติกรรมไม่ค่อยดี ลูกพูดให้ฟัง เขาบอกเวลาอาบน้ำให้ลูกไม่ชอบให้ตนมาคุกคามทางเพศลูก แต่ตนอาบน้ำให้ลูกตั้งแต่ 1 เดือน จน 4 ขวบ ตนขอเหตุผลชัด ๆ เขาบอกว่าตนมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศลูก จับอวัยวะเพศลูก

          - ตนก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ เวลาอาบน้ำก็ต้องล้างให้ลูกดี ๆ ลูกเป็นผู้หญิง มีจุดซ่อนเร้น ก็สอนลูกอยู่แล้ว ฝั่งพ่อตาแม่ยายก็ได้ยิน เขาบอกว่าตนสอนลูก 18+ สอนให้ลูกจำ ทั้งที่บางครั้งลูกไปโรงเรียนอาจมีการจดจำมาจากโรงเรียนก็ได้ ยืนยันไม่เคยคุกคามทางเพศลูก
 
          - จากนั้นก็มีผู้ชายเข้ามาเป็นทนายฟ้องหย่าให้ฝ่ายหญิง แต่ก็รู้สึกว่าเสียงคุ้น ๆ เหมือนเคยได้ยิน แต่ก็ตกลงกันยังไม่ได้ ตนบอกไม่หย่าให้ เพราะฟังไม่ขึ้น ถ้าอยากหย่าก็ฟ้องหย่า หลังคุยกันเดือนนึง เมียกับทนายไปเที่ยวต่างประเทศ เห็นรูปจากเพื่อนในไอจีส่งมาให้

          - พ่อเลี้ยงเล่าว่า ตอนนั้นเขาเอาทนายมานอนห้องพี่สาว ส่วนหลานนอนกับตน พอหลานไม่สบาย ไปบอกเขา เจอเขานอนกอดกันบนเตียง ก็บอกแม่เขาว่าแบบนี้รับไม่ได้ มันยังไม่ได้หย่าเลย ทนายก็บอกเขารู้ว่าเขาผิด ไม่ต้องห่วง จะทำเรื่องหย่าให้ ทางบ้านยื่นคำขาดว่าไม่ให้พาทนายเข้าบ้าน เพราะยังมีทะเบียนสมรสกับแห้งอยู่ จากนั้นเขาก็ไปนัดเจอกันข้างนอก ไปเที่ยวด้วยกันต่างจังหวัด บางทีก็เอาลูกไปด้วย

 

เบอร์ 4 VS เบอร์ 5

          - จากนั้นมีเรื่องที่คนที่ 4 ที่เป็นทนาย จับได้ว่าภรรยาตนมีคนคุยเป็นหมออีกคน คือคนที่ 5 ตนมารู้เพราะภรรยาบอกว่ามีคุณหมอทำพฤติกรรมแบบนี้ คนที่ 4 ก็เขียนร่ายเอกสารหวังจะไปยื่นให้คุณหมอเบอร์ 5 แล้วเขาก็เคลียร์กัน ทะเลาะกัน

เฟิร์น ภรรยาโฟนอินโต้

          - ตนเป็นแม่ คนในครอบครัวรู้ดีว่าตนเอาลูกออกมาเพราะอะไร แห้งก็รู้ดีว่าที่เลิกกับเขาเพราะอะไร ตนมีเหตุผล กับพี่ทนาย ตนคบกับเขาหลังเคลียร์กับแห้งแล้ว

          - กับคนที่ 1-2 เป็นแฟนเก่า ตนคุยกับเขาช่วงมหาวิทยาลัย ก่อนรู้จักแห้งด้วยซ้ำ ส่วนอาจารย์หมอ ไม่มีอะไรเกินเลยลึกซึ้ง เราทำงานด้วยกัน ต้องมีมิตรสัมพันธ์ที่ดี ไม่มีอะไรเกินเลย ที่มีการเล่นหยอกล้อกัน แฟนเขาอาจเข้าใจว่ามีอะไรหรือเปล่า เขาต้องการปกป้องตน ไม่มีเจตนาอื่น

          - ตนขอหย่ากับแห้งตั้งแต่มีผู้ชายคนที่ 3 เข้ามาแล้ว ตนบอกว่าไม่ขอโอกาส เลิกกับตนไปได้เลย เพราะเรื่องลูกไม่เป็นไร ตนรับผิดชอบได้ แค่ตนคลอดลูกออกมา ทุกอย่างตนรับผิดชอบ ตนขอเลิกกับเขาตั้งนานแล้ว แต่เขานั่นแหละเป็นคนที่ดึงไว้

          - ที่ออกจากบ้านไปอยู่คอนโด 5 เดือน ค่ามัดจำ ค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ตนเป็นคนจ่าย ค่าน้ำเดือนแค่ร้อยกว่าบาท เขาไม่ได้ช่วยแม้แต่บาทเดียว ตนพูดกับแม่ตลอดว่าจะเลิกกับแห้ง เพราะแห้งไม่ได้ช่วยอะไรตนเลย


          - ที่เอาลูกออกมา เพราะตนห่วงลูกหนูมาก การที่เรามีลูกผู้หญิง อยู่กับพ่อที่สอนลูกแบบนี้ สอนลูกหมาร้องยังไง แมวร้องยังไง แม่ร้องยังไง ทำเสียงให้ลูกดู แล้วที่เขาบอกในรายการว่าเขาจับอวัยวะเพศลูกคือไม่ใช่ ตนถามเขาว่าเขาสอนลูกให้เอานิ้วเขี่ยจิ๋..เหรอ พี่สาวกับแม่เป็นคนเรียกตนเข้าไปดูว่าลูกมึงเอานิ้วเขี่ยจิ๋.. ลูกบอกว่าปะป๊าสอน

          - ตอนที่นัดมาเคลียร์ 15 มกราคม ตอนนั้นแห้งคงคิดว่าทนายคือแฟนตน แต่กล้าสาบานเลยว่าตนกับทนายไม่ได้คุยหรือมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมาก่อนหน้านี้

          - กล้าพูดว่าตนมาคบกับพี่ทนาย สิ่งเดียวที่ต้องการคืออยากมีครอบครัวที่ดี และสร้างครอบครัวด้วยกัน ตนอาจทำอะไรผิดพลาดมา แต่สิ่งหนึ่งที่อยากแก้คืออยากมีครอบครัวที่ดี

          - ตนสงสารลูก อยากบอกเขาว่าเขาจะทำอะไรคิดถึงจิตใจลูกเยอะ ๆ ตนมีอะไรอยู่ในใจเยอะ ไม่สามารถอธิบายได้ เขาและคนในครอบครัวรู้ดีว่าสิ่งที่ทำกันอยู่คืออะไร ความจริงก็คือความจริง


          - อาจผิดที่ตนยังไม่ได้หย่ากับแห้งเรียบร้อย แต่เราเคลียร์ความสัมพันธ์เราจบแล้ว ก่อนมาคบพี่ทนาย ตนยังบอกเลยว่าถ้าจะผิด ผิดที่ตนเอง เพราะตนคิดว่าเรื่องของเราจบแล้ว เราทำหน้าที่พ่อแม่เท่านั้น

          - ถ้าตามกฎหมาย ตนกับแฟนผิด ตนยังไม่ได้หย่าให้เรียบร้อยก่อน แต่ถ้าเป็นความสัมพันธ์ที่เราตกลงกัน ตนเลิกกับแห้งมาจะครบปีแล้ว เราแยกกันและไม่มีความสัมพันธ์อะไรเลย

          - ที่บอกแห้งไม่ได้ช่วยค่าใช้จ่ายในครอบครัว แต่แห้งผ่อนรถให้ตนขับไปทำงานนั้น เฟิร์น บอกว่า รถทั้งหมดเป็นชื่อแห้ง ผ่อนแล้วก็เป็นของเขา

          - ยืนยันว่าทางทนายไม่เคยตีลูก ที่บอกลูกพูด คือลูกโดนไซโคมาไม่น้อย ตนกับทนายเคยมีเรื่องไม่ถูกใจกัน แต่ไม่เคยทำร้ายขนาดนั้น ไม่เคยทุบตี ที่เคยให้พ่อเลี้ยงมารับ คือเราต่างมีอดีต พอตนรู้อดีตเขารับไม่ได้ อยากกลับบ้าน ด้านทางพ่อเลี้ยงบอกว่า เฟิร์นโดนขังไว้ในห้อง โดนทำร้ายร่างกาย โดยมีการตบ บีบคอ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมให้กลับมา
 

          - เรื่องชู้ที่แห้งบอก คือ 2 คนแรกไม่ต้องนับเลย เพราะเป็นเรื่องในอดีตก่อนมาคบแห้ง ตนต้องการรหย่ากับแห้ง และไม่ขออธิบายอะไรทั้งหมด มันมีรายละเอียดของมัน ส่วนเรื่องพ่อเลี้ยงกับพี่สาว เขารู้รายละเอียดดีว่าเขา 2 คนลึกซึ้งกันขนาดไหน ฝากให้คิดแค่นี้
 
          - เฟิร์น บอกว่า ไม่ได้อยากแต่งงานกับแห้ง จะเลิกกับเขาอยู่แล้ว บอกกับเขาว่าไม่อยากแต่งงาน ผูกข้อไม้ข้อมือก็พอ ลูกเลี้ยงได้ ตนจะอยากแต่งกับเขาไหม ถ้าเขาเป็นพระแล้วไปคุยกับสีกา มันมีอะไรที่มากกว่านั้น เขาทำอะไรเขารู้อยู่แก่ใจ ตอนท้อง ถามเขาจะรับผิดชอบไหม เขาถามว่าจะเอาออกไหม

พี่สาว-แฟน โต้อีกด้าน

          - พี่สาวบอกว่าคนจะเอาเด็กออกคือเฟิร์นมากกว่า เคยพยายายามจะทำแท้ง เพราะทะเลาะกับแห้ง เพราะแห้งไปกินเหล้า ทางบ้านพยายามห้าม เขาก็ทำร้ายตัวเอง เรื่องพ่อเลี้ยงกับพี่สาว แม่ก็ไม่เชื่อ เฟิร์นน่าจะคิดไปเอง ส่วนพี่สาวก็บอกว่าเขาดูแลเหมือนพ่อแท้ ๆ และตนก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย มีแฟนเป็นผู้หญิง คบกันมาจะ 10 ปีแล้ว

          - แฟนพี่สาวเล่าว่า เฟิร์นเคยบอกให้ระวังพ่อ เลยเอากล้องวงจรปิดไว้ในห้องนอนตลอด ก็ไม่มี เขาน่าจะยกเรื่องนี้มาเพราะอยากออกจากบ้าน เขาให้พี่สาวบอกว่าพ่อมาทำอะไร เขาจะได้ออกไปใช้ชีวิตกับแห้ง คือเอาเรื่องนี้ไปอ้าง จะได้ออกไปข้างนอก
 
          - เหมือนน้องพยายามสร้างชีวิตตัวเองให้ดี มีไปจองรถหรู เอาใบจองมาให้แม่ดู ร่างพินัยกรรมว่ามมีเงินในเซฟ 50 ล้าน ทอง 50 ล้าน คอนโด รถมินิฯ บอกให้ติดต่อธนาคารได้ว่าเป็นชื่อนี้ แล้วเขาจะให้กุญแจมา เคยไปคุยกับคุณบีว่าเคยให้เงินฝาก ซื้อคอนโดให้ไหม เขาบอกไม่เคยติดต่อเลย และมีอีกหลายเรื่องที่ไม่ตรงความจริง

          เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งมหากาพย์ดราม่าครอบครัว เรื่องของผัว-เมีย ที่มีความจริงหลายด้านจากแต่ละฝั่ง ซึ่งข้อมูลหลายอย่างไม่ตรงกัน แถมมีแตกประเด็นเพิ่มเติมมาอีก ส่วนบทสรุปจะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องรอติดตามกันต่อไป