ทลายแก๊งขอทานกัมพูชา ทำตัวน่าสงสาร ที่แท้ได้เงินวันละ 5,000 กลับไปปาร์ตี้กินเหล้า เล่นไพ่

 
           บุกทลายแก๊งขอทานกัมพูชาใบหน้าเหลว หากินกับความใจบุญคนไทย ได้เงินวันละครึ่งหมื่น กลับห้องปาร์ตี้ดื่มเหล้า เล่นไพ่

           นอกจากนี้ ยังพบเคสที่มีหญิงมีใบหน้าเป็นแผลคล้ายถูกน้ำกรด ไม่มีตา ไม่มีหู นั่งขอทานอยู่กับเด็ก ซึ่งผู้คนอยากให้เข้าไปช่วยเหลือ แต่พบความจริงว่าเจ้าตัวก็คือหนึ่งในแก๊งขอทานกัมพูชา เคสนี้มีรายได้วันละกว่า 2,000 บาท ซ้ำพบว่าเด็กที่มามาด้วย ก็ไม่ใช่ลูกของตัวเอง มีนายหน้าพาขึ้นรถมาส่งตามจุดต่าง ๆ จึงเตรียมขยายผลและเอาผิดเพราะเข้าข่ายค้ามนุษย์นั้น
         ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 6 กันยายน 2567 เดลินิวส์  รายงานว่า กัน จอมพลัง ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบบ้านเช่าภายในซอยรามอินทรา 73 ถนนรามอินทรา แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. หลังจากเมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา มีขอทานหญิงชาวกัมพูชา นำเด็กที่ไม่ใช่ลูกหรือญาติของตัวเอง มานั่งขอทานที่ตลาดบางกะปิ และพบข้อมูลว่าที่ซอยรามอินทรา 73 เป็นแหล่งที่พักอาศัยของขอทานต่างด้าว ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชาหลบหนีเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย เพื่อมาขอทาน โดยส่วนใหญ่มีร่างกายพิการตาบอดและใบหน้าเหลว

           กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ภายในซอยดังกล่าว เป็นแหล่งกบดานของแก๊งขอทานกัมพูชากฎหมาย มีรายได้ต่อวันหลักพันบาท ได้เงินมาก็มานั่งดื่มเหล้า เล่นไพ่กัน ทำให้ต่อปีมีเงินไหลออกจากประเทศไทยหลายล้านบาท ด้วยเหตุผลที่ว่า คนไทยใจดี มักให้เงินให้ขอทาน พร้อมฝากถึงคนใจบุญว่า ควรคิดทุกครั้งก่อนที่จะให้เงินขอทาน เหมือนเป็นการสนับสนุนให้ขบวนการนี้ไหลเข้ามาในประเทศไทย อีกทั้งยังมีเด็กที่ได้รับผลกระทบ ไม่ได้เรียนหนังสือ ต้องมานั่งขอทาน

           เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบบ้านเช่าหลังดังกล่าว เป็นอาคาร 2 ชั้น แบ่งซอยเป็นห้องพักให้เช่า แต่ไม่พบชาวกัมพูชาที่มีสภาพร่างกายพิการ คาดว่ากลุ่มขอทานคนพิการดังกล่าว หลบหนีไปก่อน จากนั้น กัน จอมพลัง ได้ประสาน พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ขอกำลังตำรวจ กก.ดส.บช.น. เข้ามาร่วมตรวจสอบหาข้อมูล และวางแผนปราบปรามแก๊งขอทานต่างด้าวชาวกัมพูชา ขบวนการนี้ต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์