ภายหลังเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับ "บิ๊ก-ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ" จนชื่อของ "ดีทูบี" วงบอยแบนด์โด่งดังของค่ายอาร์เอสฯ เหลือไว้เพียงแค่ตำนาน และเมื่อก่อกำเนิดดูโอคู่ใหม่อย่าง "แดน-บีม" ก็มีอันต้องยุบวงให้แฟนเพลงได้ใจหายกันอีกระลอก
มาวันนี้"บีม-กวี ตันจรารักษ์" มีอัลบั้มเดี่ยว ภายใต้สังกัดเดิม ในขณะที่ "แดน-วรเวช ดานุวงศ์" หายหน้าไป ที่สุด แดน ก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับเปิดตัวเป็นศิลปินในสังกัดใหม่ ค่ายโซนี่-บีเอ็มจี รวมถึงยังมีบริษัท เกโนไก จำกัด ผลิตละครป้อนช่อง 3 คือ "กุหลาบซ่อนหนาม" ใครที่คิดถึงและมีคำถามเกี่ยวกับหนุ่มคนนี้ขอเชิญติดตามได้ที่นี่เลย
ณ สังกัดใหม่
.gif){kind=small}
ความรู้สึกหลังจากเปิดตัวว่าเข้าสังกัดโซนี่-บีเอ็มจี
แดน : โล่งใจนะเพราะแดนเป็นคนไม่ค่อยอยากจะเก็บอะไรอยู่แล้ว แต่ว่าด้วยเหตุการณ์มันต้องปิดก่อน จริงๆ มีข่าวก็อยากจะพูดกับพี่ๆ ที่เป็นสื่อ อธิบายว่ามันคืออะไร เรากำลังคิดอะไร ทำอะไร แต่ตอนนี้ก็บอกได้หมดแล้วทุกอย่าง
ก่อนหน้าจะตัดสินใจย้ายค่ายเครียดขนาดไหน
แดน : ไม่นะแดนรู้สึกแค่ตื่นเต้น คือแดนต้องการความสนุก แดนไม่ชอบให้ชีวิตมันเรียบๆ มันคือการก้าวเดินไปลองที่ใหม่ๆ แดนรู้สึกว่ามันทำให้ชีวิตได้คิด ได้เจอปัญหา ได้เจออุปสรรคอะไรที่ให้เราหาทางแก้ได้ แล้ววันหนึ่งชีวิตเราก็จะแกร่ง แดนไม่ได้มั่นใจ ว่าสิ่งที่แดนเดินมา มันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ว่ามันเป็นสิ่งที่น่าจะสนุกที่สุดในตอนนี้
ไม่หวั่นกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
แดน : ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า(ยิ้ม) เพราะคนเรามันต้องโต วันนี้เรายังมีพ่อแม่ที่ยังดูแลเราได้ แต่วันหนึ่งเราไม่รู้ ว่าถ้าท่านไม่อยู่กับเรา เราจะต้องใช้ชีวิตแบบไหน เพียงแต่แดนว่าการเดินไป เดินอย่างรอบคอบ เดินอย่างระมัดระวัง คิดหน้าคิดหลังให้ดีๆ แล้วก็คิดว่า สิ่งที่เราเดินไป มันจะเกิดผลอะไร แล้วก็มานั่งคิดว่าผลนี้เรารับได้หรือเปล่า รับไหวไหม คิดให้ครบ ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ แล้วเรารับไหว ก็เดินไปเถอะ
ทำใจนานไหมกว่าจะเดินเข้าไปบอก "เฮียฮ้อ" ว่าขอย้ายค่าย
แดน : ก็นานนะ เกรงใจเฮีย กลัวเฮียจะไม่ให้ไป แต่สุดท้ายเฮียก็เข้าใจ เคารพการตัดสินใจของเรา เพราะว่าแดนเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว เฮียรู้จักผมดี ผมอยากทำอะไร แดนเดินเข้าไปขอ เช่น แดนอยากทำเพลงตอนอายุ 17-18 ปี แดนก็ไปขอ แดนอยากทำรายการ แดนก็เดินเข้าไปขอ เฮียรู้ว่าแดนไม่ค่อยชอบอยู่เฉยๆ
อะไรเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้อยากเดินออกมาจากอาร์เอส
แดน : อืม(คิดนาน) คงเป็นจังหวะชีวิตด้วยมั้ง ตอนนี้แดนอายุ 24 จะเข้า 25 ปีแล้ว แดนอยากลองทำอะไรในวันที่เรายังมีแรงอยู่
คิดว่าการย้ายค่ายจะทำให้เราโตขึ้นได้จริง
แดน : ในด้านความคิดแดนว่าโตขึ้นแน่ ประสบการณ์โตขึ้นแน่ เพราะเราได้เจอคนเยอะ มันต้องคิดเยอะกว่าเดิม เมื่อก่อนเราอยู่ที่เก่า เราเป็นเด็ก แดนอยู่อาร์เอสมาตั้งแต่เด็ก ก็เหมือนอย่างพ่อแม่ ถึงแม้เราจะโตอายุ 30 กว่า พ่อแม่ก็จะมองเราเป็นเด็กเสมอ ก็เหมือนกับอาร์เอสที่แดนรู้สึก ว่าวันนี้ถึงแดนจะทำงานกับอาร์เอสมา 6-7 ปี ทีมงานของบริษัทก็ยังคงมองแดนเป็นเด็ก ถึงแม้แดนจะคิดจะพูดอะไร แดนก็ยังไม่มีทางโต ฉะนั้น เราก็ควรจะออกไป เราเดินออกไปจากบ้าน ที่ไม่ใช่พ่อแม่ วันหนึ่งเราอายุ 24 เดินออกจากบ้านไปเจอคนที่อื่น เขามองเราโตนะ โหย...24 แล้วเหรอ แต่พ่อแม่ไม่เคยมองเลย คิดว่าเราเป็นเด็กเหมือนเดิม
เสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องต่างๆ สำคัญขนาดไหน
แดน : สำคัญนะเพราะเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ก็คือคนที่เขาไม่ชอบเราอยู่แล้ว เพราะคนที่พร้อมจะวิจารณ์ เราก็มีเยอะแยะ แล้วก็รู้สึก ว่าสิ่งที่แดนทำมันไม่ได้เดือดร้อนใคร และแดนไม่เคยไปทำร้ายใคร มันคือชีวิตของแดนเอง แล้วมันก็แค่การย้ายที่ทำงานใหม่ คนเรามันต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อไปเจอสิ่งใหม่ๆ แล้วแดนก็ไม่ได้ทะเลาะกับที่เก่าด้วย เพราะฉะนั้น แดนไม่ได้ทำอะไรผิด วันหนึ่งถ้าที่เดิมบอกว่า เฮ้ย...แดน มีโปรเจกต์พิเศษ มาทำอัลบั้มด้วยกันหน่อยสิ แดนก็ยินดีไป และพร้อมด้วย
มีแฟนคลับแอนตี้เพราะหวงความเป็น "แดน-บีม" หรือ "ดีทูบี" ไหม
แดน : จริงๆ แดนก็อยากเป็นนะ แต่ก็มีคนที่เขาไม่เข้าใจ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ เราอธิบายแล้ว ว่ามันคืออะไร ถ้าไม่เข้าใจ ก็ต้องขอโทษจริงๆ แดนเองก็อยากจะเป็น ดีทูบี ไปตลอด แดนรักดีทูบีจะตาย แต่ก็รู้ว่าด้วยเหตุการณ์อะไรที่มันทำให้เกิดกับเรา แดนเองก็อยากเป็น "แดน-บีม" พี่บีมก็พูดอยู่ตลอด ว่าเป็น "แดน-บีม" มีความสุขมาก แต่มันก็ต้องเข้าใจ ว่ามันมีอะไรลึกๆ มากกว่านั้น คนมองจากในทีวีแล้วตัดสิน กับสิ่งที่เกิดอะไรขึ้นภายใน มันมีอะไรมากกว่านั้น ซึ่งแดนคงไม่ต้องอธิบายหมด
แดนในค่ายใหม่จะเป็นอย่างไรบ้าง
แดน : แดนก็เป็นแดนแบบนี้แหละแค่วิธีคิดอาจจะเปลี่ยนบ้างนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง แดนก็เป็นแดน แดนไม่รู้จะเปลี่ยนอะไรเหมือนกัน
จะได้เห็นโกอินเตอร์ไหม
แดน : ยังไม่ได้คิดถึงขนาดนั้นแค่คิดว่าอยากจะทำงานตรงนี้ ให้เต็มที่ที่สุดก่อน แล้วนอกนั้นก็เป็นเรื่องของอนาคต
แดนแฟนคลับ
คนมักมอง "บอยแบนด์" ขายหน้าตา วันนี้ลบคำครหาได้หรือยัง
แดน : คือแดนเป็นบอยแบนด์ที่ไม่เคยคิดว่าขายหน้าตาอยู่แล้ว แดนไม่เคยมอง ว่าตัวเองหน้าตาดี เลยไม่เคยคิด ว่าตัวเองต้องลบภาพตรงนั้น แดนก็แค่อยากให้คนที่ปกป้องเรา ภูมิใจเรา เพราะนั่นก็คือแฟนเพลงที่รักเรามากๆ และพยายามปกป้องเราตลอด ถึงแม้ว่าใครจะมาด่าเรา บนอินเทอร์เน็ต สื่อต่างๆ แดนอยากให้เขาภูมิใจในตัวแดน ว่าคนที่เขารักและปกป้อง เก่งนะ แค่นั้นเอง แล้วใครจะมาว่าคนที่เขารักไม่ได้
เสียงวิจารณ์แบบไหนที่รับไม่ได้
แดน : แดนไม่ชอบคนด่าไม่ดูตาม้าตาเรือไม่มีเหตุผล บ้าหรือเปล่า วันๆ เอาแต่คิดแบบนั้น อยากให้ดูก่อนสิ ว่าจะด่าใคร อย่างถ้าไม่ชอบแดน แดนไม่ว่า แต่ว่าแดนไม่เคยเกลียดใครภายนอกอยู่แล้ว นั่นคือตัวแดน ถ้าอันไหนที่แดนทำ แดนก็จะไม่ว่าเขา แต่เราไม่เคยทำอะไรเลย ไม่เคยด่าคนก่อน ไม่เคยว่าคนลับหลัง ไม่เคยอะไรทั้งนั้น แต่นี่อะไร อยู่ๆ จะมาด่าเรา โดยที่ไม่รู้ว่าเราเป็นแบบไหน ไม่เคยดูงานเราเลย มาบอกว่า โหย เล่นละครอย่างโน้นอย่างนี้ไม่ดี ถามหน่อย เคยดูหรือเปล่า (ทำหน้าละเหี่ยใจ) ฉะนั้นที่แดนรู้สึกคือด่าไม่เป็นไร อยากด่า ด่าเลย เพราะแดนพร้อมที่จะมีคนชมและคนด่าอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าคุณจะด่าก็ลองพิจารณาดูก่อนแล้วกัน เวลาจะติใครก็ดูก่อนแล้วกัน ว่ามันคืออะไร
เลยทำให้ยิ่งฮึดแข่งกับเสียงดูถูก
แดน : ก็อย่างที่บอกว่าแดนไม่ได้ต้องการจะพิสูจน์อะไรมากมายนอกจากจะเพื่อปกป้องคนที่รักแดนเท่านั้นเอง แดนไม่อยากให้มีแต่คนมาด่าๆ ๆ ๆ ๆ คนที่เขารัก แล้วเขาไม่มีอะไรจะเถียง อย่างน้อยให้มันมีเรื่องอะไรสักเรื่องหนึ่งให้เขาภูมิใจ เช่นแดนทำงานชิ้นหนึ่งขึ้นมา อย่างน้อยถ้ามีคนมาด่าแดน แฟนเพลงก็จะมีสิ่งที่เอาไปเถียงได้ว่า นี่ไง เขาทำงานนี้มา เขาแต่งเพลงได้นะ
ผู้จัดหน้าอ่อน
ทำไมถึงคิดหันมาเป็นผู้จัดละคร
แดน : จริงๆ แดนไม่ได้คิดจะทำละคร แดนคิดแค่ว่าอยากให้ บริษัทเกโนไก จำกัด ได้เกิดขึ้นมาเท่านั้นเอง จากทีมงานที่รักการทำละคร แล้วมารวมตัวกัน แดนแค่เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่ง แดนไม่อยากจับงานหลายอย่างอยู่แล้วและแดนก็ทำละครไม่เป็น ส่วนหนึ่งคืออาร์เอสไม่ได้ทำละครแล้ว แต่ทีมงานยังอยากทำละครอยู่ แดนก็ช่วยได้เท่าที่ช่วย
ตั้งใจจะมีละครปีละกี่เรื่อง
แดน : ก็แล้วแต่ช่องแต่ทางเราก็คิดว่าอาจจะปีละ 3-4 เรื่อง เห็นว่า พี่ผิน เกรียงไกรสกุล บอกว่าอยากทำรายการด้วย
กับข่าวจะทำละครกับ "หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย" ทำไมถึงชะงักไป
แดน : ไม่มีอะไรมันเป็นเรื่องของเวลา ความไม่ลงตัว ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของเวลา ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย
อายุน้อยไปไหมกับการมาทำตรงนี้
แดน : แดนก็ว่าน้อยไปแต่ว่าแดนก็จะบอกนะ ว่าแดนยังไม่ได้ทำตอนนี้ แดนว่ามันใหญ่เกินไป เวลามีคนมาเรียกแดนว่าเป็นผู้จัด ก็จะบอกตลอด ว่าอย่าเรียกเลย มันไม่ใช่ (ยิ้มแหย) อึดอัดนิดหนึ่งเหมือนกันนะ ถ้าแดนทำก็เต็มใจรับคำนั้น แต่ว่าพอมาเรียกเราแบบนี้ มันก็เขิน
ได้ยินว่าอยากทำหนังด้วย
แดน : อันนั้นทำอีกบริษัทหนึ่งอยากทำหนังและมิวสิกวิดีโอ เป็นบริษัทของแดนเองคนเดียว แต่ชื่อบริษัทอะไร เดี๋ยวขอเวลาอีกนิดหนึ่ง แต่จะไม่ทำเพื่อเอาเงินมากมาย แค่ทำงานเฉพาะที่เราอยากทำ
มองว่าตัวเองประสบความสำเร็จเร็วไหม
แดน : ก็น่าจะเร็วเหมือนกันนะถามว่าอะไรที่เป็นแรงผลักดัน ก็คงครอบครัว แฟนเพลง การโดนท้าทาย แรงดูถูก หลายอย่าง ทุกอย่างมันรวมเข้าด้วยกัน และตัวเองด้วยที่รักที่จะทำงาน
แดน(และ) หัวใจ
ความรักตอนนี้
แดน : ตอนนี้ไม่ได้คิดเรื่องความรักเลยอยากทำงานก่อน ความรักที่ผ่านมาก็สอนอะไรให้เราได้คิดในหลายๆ อย่าง มันทำให้เรามั่นใจได้ ว่าคนที่จะมาเป็นแฟนแดน ขอแค่อย่างเดียว คือเข้าใจในตัวแดน ว่าแดนเป็นคนแบบนี้ คิดแบบนี้ ใช้ชีวิตแบบนี้ ถ้าเขาเข้าใจเรา เราก็พร้อมที่จะเข้าใจเขา
กับ "เบนซ์-มนัญญา ตริยานนท์" ตอนนี้ล่ะ ยังสนิทเหมือนเดิมไหม
แดน : เป็นเพื่อนกันแต่ว่าตอนนี้แดนก็ไม่ค่อยได้เจอใครเลยนะ เพื่อนผู้ชายก็ไม่ค่อยเจอ ต้องเรียนหนังสือ ทำงานด้วย
ย้ายค่ายเบนซ์ให้กำลังใจอย่างไรบ้าง
แดน : ก็ไม่มีอะไรนะไม่ค่อยได้คุยเรื่องนี้ แดนไม่ค่อยได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง
ตอนนี้โสดหรือเปล่า
แดน : โสดไม่ได้คุยกับใครเลย อย่างที่บอก ตอนนี้แดนอยากมุ่งให้แก่งานก่อน
หวังว่าแฟนๆ คงจุใจหายคิดถึง แดน ได้บ้างล่ะเนอะ
เขาคนนี้ชื่อ วรเวช ดานุวงศ์
ชื่อเล่น แดน
เกิดวันที่ 16 พฤษภาคม 2527
การศึกษา สถาบัน SAE (School of Audio Engineering)
ผลงานสร้างชื่อ วงดีทูบี
ผลงานปัจจุบัน ละคร กุหลาบซ่อนหนาม
เรื่อง...อารยา มาลัยเล็ก
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
