นิพิฏฐ์ ยัวะเขยซีพีแย่งเก้าอี้ แฉเอาพรรคไปจำนำ

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

          ความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์ หลังการจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำท่าจะบานปลาย หลังคนในพรรคหลายคนไม่พอใจ การดึงคนนอกเข้ามาแบ่งโควต้ารัฐมนตรี ทำให้คนในพรรคเสียสิทธิ์ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้รับการวางตัวให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำจดหมายเปิดผนึก พร้อมตั๋วแลกเงิน 1 ฉบับ เพื่อใช้หนี้ นายวีระชัย วีระเมธีกุล ซึ่งได้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแทนนิพิฏฐ์ มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง โดยระบุว่า ได้ทำจดหมายเพื่อส่งถึงนายวีระชัย สอบถามถึงอุดมการณ์ทางการเมือง หรือประกอบธุรกิจอะไร เคยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ และอยากขอให้แสดงความจริงใจโดยสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทันที หากคิดว่าเป็นกลุ่มทุนที่สนับสนุนประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาล 

          "ฐานะที่ผมเป็นนักการเมืองจนๆ คนหนึ่ง อยากให้พรรคดำรงอยู่อย่างอิสระ ปราศจากการครอบงำจากธุรกิจการเมือง ขอใช้หนี้ให้ท่าน โดยผ่อนชำระเดือนละ 500 บาท และถือว่าอย่างน้อยก็ไม่ได้เป็นหนี้แล้ว โดยจะนำตั๋วแลกเงินไปให้ฝ่ายสารบรรณของพรรคดำเนินการ การเข้ามาครั้งนี้ถือว่าเสียศักดิ์ศรี เสียเกียรติภูมิ ประหนึ่งว่าถูกย่ำยีทางการเมือง เอาพรรคไปจำนำ เรื่องนี้มี ส.ส.หลายคนไม่พอใจ เพราะรับทราบว่าก่อนหน้านี้มีการบริจาคมา 80 ล้านบาท เข้ามาจะต้องถอนทุนคืนอย่างน้อย 90 ล้านบาท อย่างต่ำแน่นอน" นายนิพิฏฐ์ กล่าว

          อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายนิพิฏฐ์ ได้เข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ ถูกนายวีระชัย วีระเมธีกุล ลูกเขยนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กลุ่มทุนที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เบียดแทรกเข้าไปมีชื่อในคณะรัฐมนตรี จากนั้นนายนิพิฏฐ์ให้สัมภาษณ์ว่า ติดใจเรื่องที่มาที่ไปของนายวีระชัยที่มีชื่อเบียดตนในนาทีสุดท้าย ที่ผ่านมานายวีระชัยเคยทำงานให้กับทุกรัฐบาล ตั้งแต่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ถ้านายวีระชัยศรัทธาแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์จริง ต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แล้วประกาศว่าเป็นผู้บริหารของบริษัทใดบ้าง บอกให้ชัดเจนเลยว่า บริษัทนี้เป็นผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องเป็นอีแอบในทางการเมือง เพราะไม่สง่างาม ต้องเปิดหน้ากากออกมา

          "อยากถามว่านอกจากเรื่องทุนแล้ว นายวีระชัยมีคุณสมบัติพิเศษอะไรบ้าง นายกรัฐมนตรีก็ชี้แจงว่า นายวีระชัยเป็นคนทำงานได้และทำงานดี เป็นคนเก่งคนหนึ่ง จึงเอาเข้ามาทำงาน จึงเรียนหัวหน้าพรรคไปว่าต่อไปนี้นายวีระชัยต้องเป็นคนปกป้องนายกรัฐมนตรี เพราะเดิมผมเป็นขุนพลคู่กายของหัวหน้าพรรค แต่วันนี้ผมถูกฆ่าแล้ว และก็จะยืนออกไปอยู่ห่างๆ โดยจะลดบทบาทของตัวเองลง นอกจากนี้ จะทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายวีระชัย แต่ผมจะไม่ฆ่านายกรัฐมนตรี ในขณะที่คนในพรรคที่ฆ่าผมคือ คนที่เอาคุณวีระชัยเข้ามา" นายนิพิฎฐ์ กล่าว

          ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการเข้าพบนายนิพิฏฐ์ ว่า จริงๆ นายนิพิฏฐ์กับตนเหมือนพี่น้องกัน และถือว่านายนิพิฏฐ์เป็นคนหนึ่งที่มีคุณภาพ และทำงานให้พรรคมาโดยตลอด ซึ่งนายนิพิฏฐ์เป็นรัฐมนตรีได้สบายๆ เพียงแต่ว่าการตัดสินใจในเรื่องคณะรัฐมนตรี เป็นการประชุมของกรรมการบริหารพรรคซึ่งมีหลายปัจจัย ก็ให้กำลังใจ เพราะเชื่อว่านายนิพิฏฐ์มีอุดมการณ์ มีความหนักแน่น เข้มแข็ง และตั้งใจที่จะให้นายนิพิฏฐ์ เป็นกำลังสำคัญช่วยงานต่อไป 

          ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ผู้บริหารพรรครู้จักนายวีระชัย และสนใจ พยายามทาบทามให้เข้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่ใช่คนหน้าใหม่ในแวดวงการเมือง เคยทำงานอยู่รัฐบาลทักษิณ แต่ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับทักษิณ โดยอยู่กลุ่มเดียวกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หรือกลุ่มนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย นอกจากนั้นยังเคยเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ แสดงว่ามีคนเห็นว่า มีขีดความสามารถในการทำงาน

          "ผมได้ขอโทษเพื่อนร่วมพรรคทุกคนแล้วว่าเสียใจจริงๆ หากการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลคราวนี้จะทำให้เพื่อนๆ ผิดหวัง เพราะตำแหน่งที่ได้มาน้อยจริงๆ แต่เป้าหมายคือ ตั้งรัฐบาลให้ได้ เปลี่ยนขั้วทางการเมืองให้ได้ นำประเทศสู่แสงสว่าง คือเป้าหมายที่ผมแลกทุกอย่าง ความจริงแล้วการเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลเหลือตำแหน่งนายกฯ กลับมาตำแหน่งเดียว ผมก็เอาอยู่แล้ว" นายสุเทพ กล่าว 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก