เข้าวงการมาไม่ทันจะตั้งไข่ ก็เจอข่าวด้านลบออกมาสกัดดาวรุ่งซะแล้ว สำหรับหนุ่มจากเวทีแห่งดาว "รุจ-ศุภรุจน์ เตชะตานนท์" ที่เจอกระแสเข้ามาไม่ขาดสาย "วาซาบิ" เลยถือโอกาสขอพื้นที่หน้ากระดาษให้ "หนุ่มรุจ" เปิดใจแบบหมดเปลือก จะได้ไม่มองหนุ่มคนนี้ในแบบผิดๆ กันอีก
ข่าว "บอย-ถกลเกียรติ"ไม่ปลื้ม เพราะไม่ยอมเล่นละคร ?
รุจ : มันเป็นสิ่งที่เขาคิดได้นะ อยู่ดีๆ โผล่มาแล้วไม่มีละคร คนจะงงว่า มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า แต่จริงๆ ชี้แจงตรงนี้เลยว่า คุยกันแล้วเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเขาไม่ปลื้มผมจริง คงไม่ให้ผมออกอัลบั้ม ตอนนี้พยายามทำอัลบั้มให้ดีที่สุดไปเรียนแอ็คติ้งมาด้วย ?
รุจ : ในช่วงแรกๆ ครับ เราลองไปเรียนดู เรียนไปเรียนมา รู้ว่าไม่เหมาะกับเราจริงๆไม่ชอบงานด้านละครเลยใช่มั้ย ?
รุจ : คืออย่างที่บอก ผมว่าความไม่พร้อมมันมาจากหลายอย่าง อีกอย่างมันมาจากในจิตใจเรา คือเป็นคนที่ไม่ชอบการแสดงอยู่แล้ว ชอบแต่ร้องเพลง ทุกครั้งที่ไปเรียนแอ็กติ้งก็รู้สึกว่า อยากร้องเพลงอะไรอย่างนี้มากกว่า สุดท้ายพอคิดไปคิดมา เราก็คิดว่าไม่เรียนดีกว่า เรียนมามันก็ช่วยอะไรไม่ได้ข่าวผู้ใหญ่ไม่ปลื้ม นิสัย "รุจ" ?
รุจ : จริงๆ เกี่ยวกับเรื่องละครมันจบไปนานแล้ว จบไปตั้งแต่สมัยออกมาจากบ้านเดอะสตาร์แรกๆ ตอนนั้นยังไม่ได้เคลียร์อะไรยังไง แต่สุดท้ายเราเคลียร์ คุยกับ พี่บอย เรียบร้อย โอเค ไม่เล่นก็คือไม่เล่น พอทำอัลบั้ม ปัญหาของการเลื่อนมันอยู่ที่ว่า พร้อมหรือไม่พร้อม ถ้าอยู่ดีๆ ทำเสร็จ รุจ ปล่อยเลยมันเหมือนกับไม่ตั้งใจ ขอเน้นคุณภาพก่อน พยายามทำให้ดีที่สุด ทำเพลงก็ไม่ได้ทำแค่ 10 เพลง ทำเยอะเกิน 10 เพลง แล้วค่อยมาคัดเลือกว่า เพลงนี้ดีที่สุด เพลงนี้เหมาะที่จะอยู่ในอัลบั้มได้คุยกับ "พี่บอย" บ้างมั้ย ?
รุจ : คุยกันบ่อย ทุกครั้งที่ผมเสนอเพลงทำกับโปรดิวเซอร์หลายคน บางทีเขาต้องพรีเซ็นต์งานกับพี่บอยโดยตรง ซึ่งผมก็ต้องเข้าไปนั่งด้วย ต้องเข้าไปนั่งคุยตรงนี้ดีมั้ย เพลงนี้เหมาะมั้ยอะไรแบบนี้ครับ ถ้าไม่ถูกกันคงทำอย่างนี้ไม่ได้"รุจ" เข้าวงการมานิสัยเปลี่ยนไป ?
รุจ : มันก็รู้สึกครับ เราคิดว่า บางทีเขาไม่เข้าใจตั้งแต่แรกไง หลังจากที่จบจากเดอะสตาร์มา เราก็หาตัวยากด้วยล่ะ ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบไปไหน อยู่บ้านตลอดเวลา แล้วถ้าไม่อยู่บ้านก็อยู่ตึกแกรมมี่ แต่บางทีอาจจะมีงานไปสัมภาษณ์ต่างๆ บางทีก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ผม เพราะผมไม่ได้เดินหนี มีคนจูงมือผมไป ถ้าถ่ายรูปก็จะเห็น เขาน่าจะรู้ที่ผมไม่ให้สัมภาษณ์ ทาง PR คงจะเห็นว่า มันไม่เหมาะสมที่จะให้สัมภาษณ์ บางทีไปงานแล้วแฟนคลับเยอะ เขาจะกลัวว่า เราให้สัมภาษณ์แล้วเราจะกลับไม่ได้ เขาก็ดึงเรากลับไปเลย บางทีเราเต็มใจนะ ถ้าเจอผมตามรถไฟฟ้าใต้ดินเนี่ย สัมภาษณ์ได้ไม่ว่ากัน ตอบได้ทุกเรื่อง ทำตัวเหมือนปกติ กินข้าวก็กินข้างทาง กลับบ้านก็กินกับข้าวที่แม่ซื้อมาให้ ไม่ได้กินข้าวห้างอะไร แต่ผมเดินห้างน้อยมาก เพราะฉะนั้นทำตัวเหมือนเดิม ไม่มีอะไรแปลกไปมากกว่านี้อีกแล้วให้สัมภาษณ์เหมือนไม่ระวังคำพูด ?
รุจ : ใช่ ผมไม่ห่วงจริงๆ อย่างแรกผมเป็นคนที่ไม่ได้บอกว่าเรียนมาเยอะ แต่เรียนเอาโล่ห์ เรียนมาแบบว่าได้บ้างไม่ได้บ้าง มันกลายเป็นว่าเป็นคนที่คิดเยอะมีเหตุผลเสมอ รู้ว่าทำอะไรอยู่ มีเหตุผลที่จะพูดออกมาแบบนี้ อย่างเช่นที่ผมบอกว่า ไม่เล่นละครก็บอกว่าผมไม่ชอบ แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตอนนี้มาคิดดูอีกทีอาจจะรู้สึกว่าไม่พร้อมก็ได้ อนาคตอาจจะพร้อม เพราะฉะนั้นอนาคตโอเค แต่ตอนนี้ไม่พร้อมอยู่ดี อะไรอย่างนี้ครับแต่สุดท้ายคน ก็มอง "รุจ" ในแง่ลบ ?
รุจ : ผมไม่ซีเรียส อย่างแรกคือเราคิดก่อนว่า มันไม่มีทางที่คนจะชอบเราได้ทุกคน และไม่มีทางที่จะทำให้ใครชอบเราได้ทุกคนเหมือนกัน ฉะนั้นทำให้ดีที่สุด คือไม่ทำร้ายใคร อยู่กับตัวเอง ถ้าเสียก็เสียด้วยตัวเอง ผมว่าเป็นเรื่องที่เราไม่ได้หนักใจ คิดว่ารับได้ครับหลายคนมองว่า ดังแล้วหยิ่งขึ้น ?
รุจ : จริงๆ แล้วมันเป็นตัวของเราเองอยู่แล้ว ไม่ได้หยิ่งนะ เป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียว เลยดูเหมือนว่าเป็นอะไร ทำไมไม่คุยกับใคร พยายามปรับตัวมากขึ้นแล้ว ตอนเข้าบ้านเดอะสตาร์แรกๆ ไม่ได้คุยกับใครเลย หลังๆ มาก็เริ่มแฮปปี้ เริ่มสนุกสนานกับคนนั้นคนนี้บ้าง ทำให้รู้สึกว่าโลกนี้มีอะไรมากขึ้น ไม่ได้บอกว่า ตอนนี้ทำตัวดีแล้ว เราต้องพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ให้มันดีขึ้น เมื่อถึงจุดนึงถ้าหากยังไม่เข้าใจอีก ก็ทำใจแล้วกันครับ
เปิดใจเคลียร์กันขนาดนี้แล้ว ใครยังจะกล้ามอง "หนุ่มรุจ" ในด้านลบอีกหรือเปล่า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
