x close

อภิสิทธิ์ โบ้ยรัฐบาลเก่าไม่สะสมเงิน ทำให้ต้องกู้

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

นายกฯโบ้ยรัฐบาลเก่าไม่สะสมเงินเหตุต้องกู้ต่างประเทศ (ข่าวสด)

         เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 5 มีนาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดย พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาคนที่ 2 เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณากระทู้ถามสดเรื่องปัญหาแรงงานที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ที่นายคมเดช ไชยศิวามงคล ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ถามนายกรัฐมนตรีว่า มีชาวบ้านถามว่า รัฐบาลนี้มาบริหารประเทศจะกู้ชาติหรือเอาชาติไปกู้ ถ้ารัฐบาลยังคงบริหารประเทศแบบนี้ คนเขาคิดว่าต่อไปเขาคงจะอยู่ในฐานะรอวันตายใช้หนี้อย่างเดียว

         นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาความมั่นคง ปัญหาสังคมเรื่องการแบ่งสีเหลืองสีแดง และปัญหาด้านการเมือง ในเรื่องการร่างกฎหมายเพื่อให้บังคับใช้ให้ชาวบ้านเกิดประโยชน์สุขสูงสุด แต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลังการปฏิวัติ มีแต่ความทุกข์สังคมแตกแยก สำหรับปัญหาด้านเศรษฐกิจ การบริหารงานรัฐบาลไม่เป็นไปตามเป้า เหมือนจัดยาไม่ถูกโรค การจัดงบประมาณไม่มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลมีแนวทางแก้ปัญหาแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจอย่างไร 

         นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า ในปัญหาเรื่องที่ประเทศไม่มีเงินในการพัฒนา คงจะไม่เป็นธรรมหากจะบอกว่ารัฐบาลที่เพิ่งเข้ามาบริหารประเทศ 2 เดือนจะต้องรับผิด เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยไม่ประสบปัญหาเศรษฐกิจมาหลายปี แต่กลับไม่สะสมเงินเอาไว้ใช้จ่ายในปัจจุบัน ความจริงปัญหาเศรษฐกิจเกิดก่อนรัฐบาลนี้เข้ามา และสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาแก้ไขปัญหา จนทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น และรัฐบาลที่ผ่านมาได้เข้าไปกู้เงินจากไอเอ็มเอฟ ซึ่งไม่ใช่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไปกู้ แต่เป็นผู้แก้ปัญหาจนหยุดการกู้เงิน และเศรษฐกิจประเทศที่ได้รับอานิสงส์จนฟื้นขึ้นมาทำไมไม่สะสมเงินของประเทศได้

         "ถ้าฐานะการเงินของเราดีอยู่แล้วปัญหาการกู้เงินคงไม่เกิด และปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำเป็นปัญหาจากเศรษฐกิจโลก ดังนั้นจะให้แก้ปัญหาตามแนวทางปกติคงไม่ได้ เพราะปัญหาอยู่ที่ไม่มีกำลังซื้อจากต่างประเทศ เราจึงต้องรักษากำลังซื้อในประเทศแทน แต่ไม่สามารถทดแทนได้ทั้งหมด ดังนั้นในการจัดงบปี 53 เราจะค่อยๆ ปรับไปสู่กระบวนการส่งเสริมการลงทุนในประเทศ และจะมุ่งสร้างความเชื่อมั่นเพื่อดึงนักลงทุนในต่างประเทศเข้ามา และมีแนวนโยบายในการช่วยเหลือทุกภาคส่วน โดยต้องดูแลไม่ให้วิกฤตเศรษฐกิจลามไปเป็นวิกฤตสังคม โดยทุกอย่างต้องเป็นไปตามวินัยการเงินการคลัง"

         นายกฯ กล่าวว่า เรื่องความมั่นคงของประเทศ น่าเสียดายที่หลายเรื่องไม่ได้เดินมาตั้งแต่ช่วงเศรษฐกิจดี แต่รัฐบาลก็พยายามตั้งต้นแก้ปัญหาในทุกเรื่อง ซึ่งตนไม่ประสงค์ที่จะขัดแย้งกับใคร แต่ความคิดเรื่องกฎหมายปรองดองเกิดปัญหาภาวะการเมืองตั้งแต่ปีที่แล้ว และขอบคุณฝ่ายค้านที่เห็นชอบจะให้สถาบันพระปกเกล้าฯ ตั้งตุ๊กตาดูว่าปฏิรูปการเมืองอย่างไร

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการชี้แจงของนายอภิสิทธิ์ มีส.ส.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงพอสมควร อาทิ นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม ที่ตอบโต้ว่า การกู้เงินไอเอ็มเอฟของรัฐบาลที่มี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะสืบเนื่องมาจากการเปิดเสรีการลงทุนในลักษณะวิเทศธนกิจ หรือบีไอบีเอฟ ทำให้สถาบันการเงินไม่สามารถจ่ายหนี้เงินกู้ได้จนเป็นภาระของรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมด้วย และเหตุผลที่ทำให้ต้องจัดงบแบบขาดดุล 2 แสนล้านบาท เพราะมีกลุ่มประชาชนไปปิดล้อมที่ต่างๆ หรือไม่

         เมื่อการอภิปรายมาถึงช่วงนี้ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาตกุล ส.ส.กระบี่ อดีต รมช.ขณะนั้นลุกขึ้นประท้วงและอภิปรายตอบโต้ ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงอีกครั้งว่า ต้องให้ความเป็นธรรม กับ นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ รมว.คลัง ขณะนั้นด้วย เพราะภายหลังการเปิดวิเทศธนกิจ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ขณะนั้นได้จัดทำแผนการบริหารการลงทุนไว้ เมื่อปี 38 แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้เพราะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลก่อน ทั้งนี้ตนเห็นด้วยกับการจัดงบแบบขาดดุล แต่ไม่ใช่เหตุผลที่เกิดจากการที่ม็อบไปปิดสนามบินหรือทำเนียบรัฐบาล



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อภิสิทธิ์ โบ้ยรัฐบาลเก่าไม่สะสมเงิน ทำให้ต้องกู้ อัปเดตล่าสุด 6 มีนาคม 2552 เวลา 15:55:31 18,002 อ่าน
TOP