x close

สุรยุทธ์ ออกโรงโต้ ทักษิณ ปัดรวมหัวคิดปฏิวัติ

นปช.

เสื้อแดง

เสื้อแดง



สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก และมติชนออนไลน์ 

          วันนี้ (28 มีนาคม) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาณ์กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิดีโอลิ้งก์โจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และ พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ องคมนตรี อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ 19 กันยายน 2551 ว่า ตนเห็นจากข่าว เป็นเรื่องเก่า แต่ในส่วนของรัฐบาลจะเดินหน้าแก้ปัญหาของประชาชนที่กังวลกับปัญหาที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและอนาคต การเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ทำให้การทำงานของรัฐบาลมีปัญหาก็เดินหน้าทำงานไป ส่วนเรื่องที่เรียกร้องให้ยุบสภาล้างไพ่ เลือกตั้งกันใหม่นั้น เป็นการเปลี่ยนแปลงไปตามวิถีทางประชาธิปไตย เมื่อถึงเวลาและเงื่อนไขที่เหมาะสมก็สามารถดำเนินการได้ แต่ขณะนี้คำถามคือถ้าเราไปเลือกตั้งและยังมีกลุ่มที่ยังมีความขัดแย้งอย่างรุนแรงอย่างนี้ ก็คงไม่สามารถทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยได้ 

          อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ได้เปิดแถลงข่าวที่ถึงกรณีที่ถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวันร อดีตนายกรัฐมนตรี พาดพิงว่าอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารในปี 2549 ว่า การพูดคุยเป็นเรื่องการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ซึ่งตนคงพูดไม่ได้ ตนไปพูดเรื่องการรัฐประหารกับผู้พิพากษา ตุลาการ ไม่สมเหตุสมผล ควรพูดกับ ผบ.ทบ. จะสมเหตุสมผลกว่า ส่วนกรณีที่พูดเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2545 ตนก็ได้ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอน หมายถึงแผนเคลื่อนย้ายกำลัง จะเป็นการดำเนินการซึ่งกองทัพบกเองได้ทำเรื่องขออนุมัติไปยัง ผบ.สส. ทาง ผบ.สส. ได้ทำเรื่องไปยัง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แต่ว่าสิ่งที่ได้รับจากกระทรวงกลาโหมในขณะนั้น คือ คำสั่งที่อนุมัติในหลักการให้เคลื่อนย้ายกำลัง ในบริวเณใกล้ชายแดน โดยคำสั่งนี้เป็นชั้นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์



          พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตนอยากเรียนว่า หลายสิ่งที่ได้นำออกมาพูด แต่ไม่ได้อยู่บนความเป็นจริงแต่คลาดเคลื่อน ทำให้เกิดความคิดเห็นที่กระทบกับเรื่องของตนเอง แม้แต่เรื่อง พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตนไปพบ พล.อ.จารุภัทร โดยที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้โทรศัพท์มาขอให้ไปช่วยพูดด้วย เพราะโอกาสที่ กกต. ทั้งหมดจะถูกฟ้องศาลมีมาก และโอกาสที่จะพลาดมีสูง ก็ได้พูดคุยกัน จนกระทั่ง พล.อ.จารุภัทร ได้มาขอบคุณตน ถ้าไม่ฟังก็คงถูกศาลตัดสินลงโทษไปแล้ว ที่ตนให้ข้อคิดเห็นไปก็ขึ้นกับ พล.อ.จารุภัทร ตนเป็นผู้ที่ให้ข้อคิดเห็นเท่านั้นไม่ใช่คนที่จะไปสั่งใครทำสิ่งใดได้ ตนเคารพในความคิดเห็นคนอื่น ส่วนการไปทานข้าวบ้าน นายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ก็ในลักษณะเชิญไปทานเข้า ตนรู้จักกับนายปีย์มานาน ก็แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเท่านั้น 

          นอกจากนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ ยังกล่าวยืนยันว่า คงไม่ฟ้อง อย่างที่เคยพูดไปแล้ว เพียงแต่ต้องการให้ทุกท่านได้ทราบความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น โดยข้อสรุปที่ได้หารือในวันนั้นคือว่าสิ่งที่พูดว่าตุลาการภิวฒน์จะมีทางออกหรือไม่ ตนไม่ได้โมโห ตนเข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ประสบปัญหาอะไร เพียงแต่ต้องการให้ประชาชนรับทราบ อย่าฟังเพียงด้านเดียว ฟังอีกอด้านหนึ่งด้วย แล้วพิจารณาว่าสิ่งใดมีเหตุผลมากน้อยเพียงใด 

          สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยังคงคึกคัก โดยได้ปักหลักยึดพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาลร่วมฟังการปราศรัย ส่วนบนเวทีแกนนำได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยโจมตีรัฐบาลนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมถึงกล่าวโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พร้อมกันนี้ ก็ได้เรียกร้องให้ประชาชนที่รักประชาธิปไตยมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มนปช. ให้มากที่สุด เพื่อที่จะขับไล่รัฐบาลชุดนี้ได้เป็นผลสำเร็จ เพราะเข้ามาบริหารประเทศด้วยความไม่ชอบธรรม ไม่ได้มาจากวิถีทางระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง สลับกับการร้องรำทำเพลงให้เกิดความครึกครื้น และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังคงตรึงกำลังอย่างเข้มงวดและจะมีการประชุมวอร์รูมติดตามสถานการณ์ ซึ่งคาดว่าผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจะเป็นประธานกล่าวประชุม

          ขณะที่เวลา 20.35 น. เมื่อวานนี้ (27 มีนาคม) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินผ่านระบบวีดิโอลิงค์ที่เห็นทั้งภาพและได้ยินทั้งเสียง โดย พ.ต.ท.ทักษิณสวมเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อน ได้กล่าวสวัสดีและทักทายประชาชนที่ฟังการโฟนอินทุกคน ก่อนกล่าวว่าบางท่านอาจจะฟังผมพูดที่เชียงใหม่แล้ว บางท่านอาจจะยังไม่ได้ฟัง วันนี้ โทรมกว่าเชียงใหม่ เพราะว่าเดินทางไปเมื่อคืนนี้ วันเดียวอยู่ 3 ประเทศ เหนื่อยนิดหน่อย แต่ได้ผลดี ได้ผลเพื่อทางระยะยาวของประเทศไทยของประเทศต่างๆ ที่ผมได้ไปพูดคุยด้วย พี่น้องเหนื่อยไหมครับ ผมเข้าใจว่าเหนื่อย ร้อน บางคนอาจจะหิว แต่ว่าท่านก็ยังอดทนรอคอยที่จะให้ผมได้มีโอกาสได้พูดจาทักทาย ผมต้องขอขอบคุณพี่น้องทุกท่าน พี่น้องชาวเสื้อแดง พี่น้องผู้รักประชาธิปไตย พี่น้องผู้รักความเป็นธรรมทุกท่านที่ได้มารวมตัวกันตั้งแต่เมื่อวานนี้ (26 มีนาคม) เมื่อวานผมตั้งใจพูด แต่เนื่องจากว่ามันเดินทางลำบาก

          พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อว่า ในวันนี้ ผมตั้งใจพูดจาเพื่อหาทางออกถึงความขัดแย้ง คนอื่นจะเอาไม่เอาไม่ว่ากัน ต้องขอขอบคุณพี่น้องแท็กซี่ ที่พาพวกท่านทั้งหลายมาที่นี่และเก็บตังค์ถูกๆ มาจากต่างหวัดเป็นครั้งประวัติศาสตร์ จัดโต๊ะจีนหัวละร้อยสองร้อยบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับล่าง พ่อแม่ก็เป็นคนจนหาเข้ากินค่ำ ภาวะเศรษฐกิจที่มีปัญหามา 3 ปี ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมแก่พวกท่านทั้งหลาย ต้องขอขอบคุณข้าราชการทหารที่อยู่ในทำเนียบ คนเสื้อแดง เป็นคนมีวินัย แต่ว่าอาจจะมีคนปลอมเป็นเสื้อแดง ของจริงอยู่ที่นี่ อยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลที่นี่ เราจะร่วมอุดมการณ์ กันว่า เราจะเรียกประชาธิปไตยของเราคืนมาได้อย่างไร

          พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอีกว่า วัตถุประสงค์ที่เรามารวมตัว คงพูดให้ชัด เรามารวมตัวเพื่ออนาคตของประเทศไทย ลูกหลานไทยเรากำลังมาตกลงกันว่า ระบอบการปกครองที่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง คือสิ่งที่เรารักและหวงแหน เราอยากจะได้ไว้กับสังคมไทย เราต้องการเห็นสังคมไทยมีประชาธิปไตยที่แท้จริง อยากเห็นสังคมไทยที่มีระบบ ความยุติธรรม ถ้าเราไม่มีความยุติธรรม ในที่สุดเราจะเจอปัญหาเหมือนกับนอกอาณาเขต อยากบอกกับบรรดานักการเมืองทั้งหลายว่า ถึงเวลาหรือยังที่จะมองอนาคตให้ลูกหลาน ไม่ใช่ว่าเป็นลักษณะของการเอาชนะ หรือเป็นเรื่องของความไม่พอใจ โกรธกันเราต้องเรียนรู้ เราต้องรู้บทเรียนที่เราเจ็บช้ำมานาน จากการปฏิวัติรัฐประหาร ที่เข้ามาทำให้ประชาธิปไตยของเราไม่เป็นประชาธิปไตย มันเกิดครั้งแล้วครั้งเล่า มันเกิดจนเราไม่รู้ว่า เมื่อไรมันจะจบ เพราะอะไร เพราะเราไม่ยอมพูดความจริงกัน เพราะเราตั้งกรรมการสอบข้อ เท็จจริงครึ่งเดียว ในที่สุดเราก็ไม่รู้ความจริง เหมือนกับว่าเราเสียค่าเล่าเรียน แต่เรียนไม่จบ นี่คือสิ่งที่เราเรียนรู้ประชาธิปไตย

โฟนอินทักษิณ



          อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ล้มแล้วกลับไม่พูดกันชัดเจน วันนี้ถึงเวลาที่ต้องพูดให้ชัดเจน ต้องพูดกันให้จริงๆ มัวเกรงใจกันไม่ได้ เพราะพี่น้องคนไทยไม่มีโอกาสรู้ความจริง สิ่งที่จะพูดต่อไปนี้ไม่ใช่เพื่อผม แต่เพื่อลูกหลาน ความสามารถในการพัฒนาตัวเองจะมีแค่ไหน ผมขอเท้าความเล่าว่าใครคือผู้มีบารมี ที่มาของความวุ่นวาย พี่น้องคงจำได้ปลายปี 2547 ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งต้นปี 2548 ได้มีการรวมตัวเล็กน้อย ของพวกสหภาพแรงงานที่สนามหลวง เป็นการรวมตัวของคนที่ไม่พอใจผม แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปี 48 หลังจากเลือกตั้งแล้ว พรรคไทยรักไทยชนะ เริ่มมีความรู้สึกว่า พรรคไทยรักไทยแข็งแรงเกินไป พรรคฝ่ายค้านอ่อนแอเกินไป พอปลายปี 48 เกิดขบวนการรวมตัวกันของพันธมิตรฯ โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นหัวหน้าทีม เริ่มต้นที่สวนลุมพินี โดยความเอื้อเฟื้อของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. สมัยนั้น

          พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็คงช่วยทางอ้อม มีคนของพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเวทีบ้าง ขนคนมาบ้าง เริ่มต้นของการต่อสู้นอกระบบ แค่นั้นไม่เป็นไร แต่ปรากฏว่ามีองคมนตรีบางท่านได้ไปบอกกับสื่อ ไปแอบ อ้างว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่เอาผมแล้ว ให้สื่อตี ผมพูดกับสื่อ สื่อก็ยอมรับ หลังจากนั้นก็เกิดม็อบมีเส้น เอเอสทีวีได้รับการคุ้มครองจากศาลปกครอง จนถึงปฏิวัติก็ยังไม่เลิกการคุ้มครอง คุ้มครองให้ออกอากาศ ใช้คำพูดที่หยาบๆ ทำอะไรไม่ได้ จนผมต้องพูดความจริงขึ้นมา ผมประชุมข้าราชการที่ตึกสันติไมตรี ผมบอกให้ข้าราชการทุกคนทำหน้าที่ เพราะตอนนั้นเริ่มรู้ว่ารัฐบาลมีปัญหา ถูกผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญแทรกแซง เริ่มมีการนิ่งไม่ทำงาน ผมก็กระตุ้นให้ทำงานได้แล้ว บอกว่าที่มันเป็นอย่างนี้ เพราะผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ แต่ในรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดให้เขาสร้างการจัดการในอำนาจนั้นๆ นายสนธิกล่าวหาผม บังอาจอาจเอื้อมจริงๆ ผมมีความจงรักภักดี แต่จริงๆ แล้วผมหมายถึงพลเอกเปรม ที่ผมหมายถึงอย่างนั้น และมีคนของพลเอกเปรมโทร.มาบอกว่าให้ผมช่วยได้ไหม เพราะมันไม่ใช่ ก็มันใช่ผมก็เลยไม่พูด

          พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอีกว่า เขาบอกว่าพูดให้มันชัดได้ไหมว่าไม่ใช่พลเอกเปรม ก็มันใช่ผมก็เลยไม่พูด หลังจากนั้นท่านเดินสายแต่งเครื่องแบบทหาร ทั้งทหารเรือ ทหารอากาศ ออกเดินสายด่าผม ไปโรงเรียน จปร. ไป โรงเรียนนายเรือ โดยพลเอกสุรยุทธ์ไปด้วย เป็นคู่หูกัน ก่อนที่ผมจะพูดต่อไป ขออัญเชิญพระราชกระแสพระราชดำรัส ที่พระราชทานแก่คณะองคมนตรี ณ พระราชอุทยานสราญรมย์ วันอังคารที่ 27 มกราคม 2547 ว่าองคมนตรีมีอำนาจ แต่องคมนตรีไม่ได้เป็นที่ปรึกษาของฝ่ายพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่ว่าจะไปแนะนำกับคนอื่น เป็นการแนะนำส่วนตัวในฐานะองคมนตรี ฉะนั้น ขอให้ท่านระมัดระวังในคำพูดเท่านั้นเอง นั้นก็คือว่า ต้องเข้าใจว่าในบทบาททำหน้าที่ขององคมนตรี แต่วันนี้ที่การที่องคมนตรีเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะว่าทำให้ผู้คนเข้าใจคลาดเคลื่อนไปได้ว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงเกี่ยวข้อง พระเจ้าอยู่หัวท่านสถิตอยู่ในที่สูง ท่านเป็นที่รักของพสกนิกร แต่ว่าคนที่อยู่รอบพระองค์ท่านที่เกี่ยวข้องกับการเมืองนั้นทำให้พระองค์ท่านเสีย ขอให้คนที่อยู่รอบพระองค์ท่าน อย่าได้เข้ามายุ่งกับการเมือง เพราะว่าพระองค์ ท่านสถิตอยู่ในที่สูง 

          พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อว่า ขอย้ำอีกครั้งว่าสิ่งที่พลเอกเปรม พลเอกสุรยุทธ์ เข้ามายุ่งกับการเมือง เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเสียหาย ฉะนั้นจึงไม่ควรยุ่งกับการเมือง เมื่อไรท่านยุ่งกับการเมือง การเมืองก็ยุ่งกับท่าน องค์กรทุกองค์กร ถ้ายุ่งกับการเมือง การเมืองก็ยุ่งด้วย ขอเรียนว่าอย่ามายุ่งกับการเมืองเลย สิ่งที่ผมพูดวันนี้ก็คือ ผมกำลังพูดเพื่อบอกว่าหาทางออก ผมจะพูดต่อคือถ้าท่านจำได้ พลเอกเปรมท่านเคยเป็นนายกรัฐมนตรี มา 8 ปี แต่ 8 ปีของท่านไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ถ้าในรัฐธรรมนูญในตอนนั้น ไม่ได้บังคับว่าท่านได้รับการสนับสนุนจากเสียงพรรคประชาธิปัตย์ในปี 2529 ล่าสุดได้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยคุณพิชัย รัตตกุล ยกมือให้ท่านเปรม การที่พลเอกเปรมใกล้ชิดพรรคประชาธิปัตย์ ท่านก็เลยเป็นห่วงเป็นใยพรรคประชาธิปัตย์ พอหลังจากที่พรรคไทยรักไทยเข้ามา ชนะการเลือกตั้ง 2 ครั้ง 2 คราว พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่มีทางสู้เลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร

          อดีตนายกฯยังกล่าวว่า เป็นห่วงว่าไม่อยากให้ท่านเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย ที่จริงแล้วถ้าพูดว่าไม่ยุ่งกับการเมืองเลยก็ไม่ได้ เพราะว่าท่านยุ่งกับการเมืองจริงๆ คุณสุรยุทธ์ไปที่บ้าน พลเอกพัลลภบอกว่า ไม่ได้เชิญพลเอกพัลลภ แต่เจ้าของบ้านคือคุณปีย์เป็นคนเชิญให้ไปพบกับพลเอกสุรยุทธ์ และพลเอกสุรยุทธ์ก็พูดว่า มี 3 ท่านที่เข้าไปเข้าเฝ้าฯ ก็คือมีท่านพลเอกสุรยุทธ์ พลเอกเปรม และก็ท่านองคมนตรี แต่ไม่ขอเอ่ยนาม ไม่รู้ว่ามันจริงหรือเปล่า แต่เป็นการบอกเล่าของพลเอกสุรยุทธ์ว่าได้ไปเข้าเฝ้าฯว่าขอทำงานถวาย โดยได้จัดการนายกฯทักษิณ เพราะไม่จงรักภักดี ทุกคนไม่หวังตำแหน่ง แต่ผมไม่เชื่อว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงรับรู้ เพราะท่านสถิตอยู่ที่สูงไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างนี้ มันตามมาตรงที่ที่ผมเคยเล่าให้ฟังว่า ที่มาร่วมอยู่ในที่ประชุม มีพลเอกสุรยุทธ์ พลเอกพัลลภ และคุณปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา

          พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังกล่าวถึงเรื่องการยุบพรรคว่า ศาลรัฐธรรมนูญยอดเยี่ยมมากยุบ 3 พรรค สืบพยานเช้าบ่ายยุบ เพื่อให้ทันวันที่ 4 ธันวาคม ศาลมีแต่ยกประโยชน์ความสงสัยให้จำเลย แต่นี่มันทำให้ไม่มีใครเชื่อถือประชาชน เมื่อคืนนี้เขาก็เอาตำรวจมานอนเฝ้าหน้าห้อง เพราะเขาไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย คดีอย่างนี้ติดคุก เกิดกับตนไม่เป็นไร แต่ความช้ำชอกของประเทศ หนักสุดคือความเสียหายของสถาบัน จริงๆ ศาลส่วนใหญ่เป็นคนดี แต่บางคนยอมรับและเชื่อตามนั้น ต่อไปนี้ใครมาสั่งมาแอบอ้างว่าพาเข้าเฝ้าได้ ไม่มี ปปช. เหมือนกัน วันนี้มีตัวแทน ปชป.อยู่ ส่วนระบบศาลอาญาแผนกคดีนักการเมือง และระบบศาลเดียวของเราเป็นระบบไต่สวน ซึ่งโลกยุคใหม่ไม่มีใครใช้แล้ว คุณกล่าวหาเขา คุณต้องเป็นคนพิสูจน์ก่อน

          พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ด้วยว่า ส่วนเรื่องทหารกับการเมือง ป๊อกเอ๊ย พาลูกน้องกลับที่ตั้ง อย่ายุ่งการเมือง ถ้าอยากยุ่งออกมาเลย เพราะจะถูกการเมืองเล่น ไม่คุ้ม วันนี้ภารกิจภาคใต้ ยังมีอีกมาก เพื่อนไปดูแลตรงนั้นเถอะ ไม่ต้องมายุ่งการเมือง เลิกเถอะอย่าเชื่อน้ำมนตร์คนที่ออกจากตนไปเลย ถ้าเพื่อนอยากเล่นการเมืองออกไปเถอะ วันนี้เห็นข่าวของบพันล้านให้ กอ.รมน. ระวังชาวบ้านไม่ให้ทหารเข้าหมู่บ้าน เรื่องของประชาชน เรื่องการเมือง เขาคิดเป็นอย่าคิดว่าพี่น้องประชาชนโง่ เขาถึงเรียกประชาธิปไตยไงเพื่อน ไม่ต้องไปครอบงำเขา วันนี้สิ่งที่ พล.อ.เปรม สิ่งที่ทหารเข้ามายุ่ง ลากประเทศถอยหลังไป 5 ปี


เสื้อแดง



          อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า เรื่องรัฐธรรมนูญ 40 กับรัฐธรรมนูญ 50 เคยพูดแล้วว่า เมื่อก่อนรัฐบาลเดี๋ยวล้ม เดี๋ยวล้ม เขาจึงร่างรัฐธรรมนูญ 40 ขึ้นมา แต่เสร็จแล้วกลับเขียน รัฐธรรมนูญ 50 แก้สิ่งที่เป็นประโยชน์ ทำให้ ส.ส.ไม่มีวินัย เวลานี้คนก็ไปตั้งพรรคใหม่อยากเป็นขนาดแอล เพื่อรออีแอบมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ตนจึงไม่รู้ว่าระบอบรัฐธรรมนูญ ฉบับ 50 เป็นประโยชน์ ต่อประเทศตรงไหน จะไปประชุม ตกลงกับใครก็ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวผิดรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ที่มาขององค์กรอิสระก็เป็นแบบปิดประตูตีแมว มีทั้งเอสเอ็มอี พันธมิตรฯ และดอกไม้ประดับ ขอคืนประชาธิปไตยให้คนไทยเถอะ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเราไม่สามารถเล่นตามกฎ เพราะมีคนแทรกแซงทำให้เกิด 2 มาตรฐาน หลายระบบที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นของเน่าที่เกิดจากการปฏิวัติ ที่เกิดจากต้นไม้เป็นพิษ ผลย่อมเป็นพิษ การปฏิวัติเกิดขึ้นเพราะสร้างสถานการณ์ให้เกิดการเปลี่ยนข้าง ในที่สุดประเทศก็ช้ำได้รับกฎหมายที่แย่ ได้องค์กรอิสระที่แย่ ได้รับข้อกล่าวหาที่ยัดเยียดข้างเดียวรัฐธรรมนูญ 50 ที่มี SME วันนี้ 3 กระทรวงกินกันจนกลัวว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้แล้ว สงสัยมันตกใจพี่น้องเสื้อแดงมาเยอะ นี่คือจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญ 50 ที่ทำให้เกิดแก๊ง ก๊วน คอยต่อรอง ส่วนพันธมิตรฯต่างก็ได้รับตำแหน่งตอบแทนกันถ้วนหน้า

          "พี่บรรหารมาเข้าร่วมกับพรรคพลังประชาชน ยังถูกป๋างอน แต่ตอนนี้คงให้เข้าแล้ว เพราะตอนนี้หันไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เพราะชอบหลานยายเนียมกับหลานยายเที่ยง วันนี้ถามว่า วุ่นวายอย่างนี้จะเอาอย่างไรดี คงต้องมีกรรมการห้ามมวย ความจริงถ้า พล.อ.เปรมไม่ยุ่งการเมือง ก็เป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือ แต่วันนี้มายุ่งการเมืองจนเกิดคำถามว่า เพื่อตอบแทนพรรคประชาธิปัตย์ จึงทำหน้าที่เป่านกหวีดห้ามไม่ได้สื่อสมัยที่ตนเป็นนายกฯ แม้กระทั่งทีวีพูลยังเลือกภาพออก พอตนถามก็แบะๆๆ คนพอกรรมมาก็ออนไลน์ แต่กรรมตนไม่เหมือนที่ พล.อ.สุรยุทธ์พูด ตนโดนผีซ้ำดํ้าพลอยหลายเรื่อง ถูกปฏิวัติเสร็จ ลูกน้องเก่าก็ไปเพ็ดทูลว่าตนจะล้มล้าง คนอย่างตนไม่ทะเยอทะยาน แต่บ้างานถ้ามอบหมายอะไรก็ทำเต็มที่ และคนออกจากตนก็ไปเพ็ดทูลอีกว่า ที่อยู่กับตนไม่ได้เพราะตนจะไปล้มล้าง วันนี้ตนโดนอย่างนี้ ตนเจ็บ แต่ตนปรับตัวได้แม้จะอยู่ต่างประเทศ แต่ไม่ต้องการให้ตัวของตนเป็นข้ออ้างใดๆ ทั้งสิ้น" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

          พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ที่พี่น้องมาวันนี้เพราะถูกขโมยประชาธิปไตยใช่หรือไม่ อยากเห็นการเลิกระบบ 2 มาตรฐานใช่มั้ยครับ สีแดงจะผนึกกำลังกันไม่เลิกรา ถ้าประชาธิปไตยไม่กลับมา โดยเฉพาะองคมนตรีต้องหยุด อย่ายุ่งการเมือง ทหารก็อย่ายุ่งการเมือง พี่น้องตำรวจ ทหารไม่สบายใจที่ลูกพี่มายุ่งการเมือง ดังนั้น ส.ส.เพื่อไทย และไทยรักไทย 111 คน ที่ถูกห้ามเล่นการเมือง อย่าเหนียม ถ้ารักความเป็นธรรม ขึ้นเวทีเสื้อแดงได้แล้ว วันนี้ต้องมารวมพลังกันจนกว่าประชาธิปไตยที่แท้จริงจะกลับสู่ ประเทศไทย จนกว่าระบบ 2 มาตรฐานจะถูกยกเลิก คุณอภิสิทธิ์บอกว่า ตนไม่ควรยุ่งกับผู้ใหญ่ คุณอภิสิทธิ์ครับ ตนก็ผู้ใหญ่ คนเป็นอดีตนายกฯ ไม่ใช่เด็ก ไม่มีกฎหมายข้อไหนบอกว่าองคมนตรีเป็นส่วนหนึ่งของสถาบัน ถ้ามาเล่นการเมืองแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตนขอและหวังว่าการปฏิวัติโดยนายบัง ขอให้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะไม่มีอะไรดี คนตกงาน

          อดีตนายกฯกล่าวตอนท้ายว่า ทางออกก็คือ เราต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ วันนี้ที่เราสู้กัน ฟ้องกันไปมาว่าไอ้นั่นจะติดคุก ไอ้นี่จะติดคุก ไม่มีใครยอมใครจริงๆ การเมืองก็รู้อยู่แล้วว่าคุณอภิสิทธิ์มาเป็นนายกฯ ก็เหมือนกับมาดากัสการ์ที่เดินขบวนกันแล้วเอาเด็กอายุ 30 กว่าขึ้นมาบริหารประเทศ เราต้องการความชอบธรรมให้กระบวนการถูกต้อง ให้ประชาชนตัดสิน วันนี้ต้องยุบสภาเลือกตั้งใหม่ แก้ รธน.ใหม่ ต้องเอา รธน.40 เป็นตัวตั้ง เรื่องที่ฟ้องกันไปมาต้องยกเลิก ไม่ใช่เพื่อตน แต่วันนี้มันล่อกันไปมา จึงต้องออกเพื่อให้เริ่มต้นใหม่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และให้ทุกคนเข้าสู่สนามเลือกตั้งไม่ต้องบอยคอต ตนไม่ลง พรรคประชาธิปัตย์จะได้สบายใจ แต่ให้ทั้ง 111 ลงซะอย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ (28 มีนาคม) ตนจะพูดเรื่องเศรษฐกิจของโลกและทางออก

          พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวตอนท้ายว่าถ้าผมเป็นนายกฯ วันนี้ ผมจะทำยังไงกับเศรษฐกิจไทย คอยฟังพรุ่งนี้ครับ ผมเชื่อว่ามีทางออก แต่ผมไม่แน่ใจว่าความไม่ชอบธรรม ที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลอยู่วันนี้ จะทำต่อตามที่ผมแนะนำได้หรือไม่ ผมว่าทางที่ดียุบสภา เลือกตั้งใหม่ แล้วให้รัฐบาลใหม่จะเป็นใครก็แล้วแต่มาทำ แล้วทุกคนหันหน้าเข้าหากันซะ รวมพลังกันซะ ไม่ใช่ว่ามายืนฟัดกันจนชนิดที่ไม่มีกติกา ไม่มีหลักการอะไรทั้งสิ้น แล้วปล่อยให้ 2 ปัญหาเกิดขึ้น ถ้าเราไม่เริ่มต้นอย่างนี้ เราไม่มีทางครับ เราไปเริ่มต้นที่สเตปเปอร์ริตี้ แล้วเราค่อยมาพอสเปอริตี้นั้นก็คือว่าเริ่มต้นที่ความมั่นคง และสร้างความมั่งคั่งการที่วันนี้ที่ผมพูดก็คือว่าการเมืองเราถอยเข้าที่ตั้งใหม่ซะ ถอยเข้าไปเริ่มต้นใหม่ คิดซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น 2 เมษายน เรายุบสภาเลือกตั้งใหม่ แล้วเลือกตั้งมาวันนั้น ใครจะเป็นยังไง ประชาชนจะเลือกยังไง ไม่เป็นไร เราต้องเคารพ เมื่อเคารพการตัดสินของประชาชนแล้ว คนทำหน้าที่ก็ทำหน้าที่ไป คนเป็นฝ่ายค้านก็สร้างสรรค์ไป ไม่ต้องมาเป็นฝ่ายรอๆรอเป็นรัฐบาล ก็สร้างสรรค์ไป ประเทศชาติก็จะพากันผ่านพ้นวิกฤติในช่วงนี้ได้ ทำรัฐธรรมนูญใหม่ ทุกคนไม่ต้องแทรกแซง 

          พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอีกว่า ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ ผมขอกราบป๋ากับพี่สุรยุทธ์ในฐานะเป็นรุ่นพี่ ไม่ได้คิดจะจาบจ้วงราชบัลลังก์ ไม่คิดที่จะพูดจาอะไรที่มันทำให้ท่านเสียหาย แต่มันเป็นความจริงที่ต้องพูด ถ้าไม่เช่นนั้นเราไม่เคยเรียนรู้ จากบทเรียน แล้วเราก็ถอยมาที่ตั้งเสีย เพื่อที่จะให้พระเจ้าอยู่หัวของเราทรงสบายพระทัยขึ้น ประชาชนจะได้เข้าใจสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้น แล้วก็ให้ประเทศชาติมีหลัก มีประชาธิปไตย มีความเป็นธรรมเกิดขึ้น ให้องค์กรทุกองค์กรให้เค้าทำหน้าที่ของเขาอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องมีใครเข้าไปแทรกแซงเขา มันจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า แล้วก็ให้คนที่ต้องต่อสู้กันวันนี้ เลิกต่อสู้กันเสียเพราะเราคนไทยด้วยกัน หันหน้าเข้าหากันเถอะครับแล้ววันนี้พรุ่งนี้ เรามาฟังกันเรื่องของเศรษฐกิจ ผมวันนี้ก็เตรียมเรื่องเศรษฐกิจไว้เยอะแต่ว่าเอาไว้พูดพรุ่งนี้ เพื่อท่านจะได้ไม่เบื่อ สำหรับการที่มาร่วมกันอยู่ ณ ที่นี่ เรามาร่วมกันต่อสู้ เราไม่ได้ต่อสู้เพื่อใคร ต่อสู้เพื่อลูกหลานเรา เราจะได้มีประเทศที่เราภาคภูมิใจ และลูกหลานเราจะได้เติบโตมาในประเทศที่เรามีระบบที่ดี และภูมิใจ ขอขอบคุณในน้ำใจของทุกท่าน ขอบคุณในอุดมการณ์ในการต่อสู้ของทุกท่าน ขอบคุณในความอดทนของทุกท่าน พรุ่งนี้พบกันใหม่อีกครั้ง ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ



เกาะติดข่าวการชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล


          ทักษิณห่วงรัฐขยายเพดานกู้-ปชช.อ่วมหนี้ 

          เปิดบทสัมภาษณ์พิเศษ ปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา

          นปช.โต้สุรยุทธ์-ซัดเนวินปากดีทำรับไม่ได้

          สุรยุทธ์ โต้ ทักษิณ ปัดมีเอี่ยวรัฐประหาร แจงพบตุลาการฟังความคิดเห็น 

          เนวิน เมินไม่ให้ความสำคัญคำพูด ทักษิณ 

          เสื้อแดงบุกเผาหุ่นป๋าเปรมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ 

          บุญยอด ฝากกระจกเงา-น้ำยาบ้วนปากให้ ทักษิณ

          จัดระเบียบเสื้อแดง เอื้อจัดงานกาชาด 

          ยุบสภาไม่ใช่ทางออก นายกรัฐมนตรีปัดข้อเสนอทักษิณ 

          เสื้อแดงจี้ 2 องคมนตรีออก-ยุบสภายุติวิกฤต

          นปช.แถลงคืนนี้เปิดคลิปลับบนเวทีเสื้อแดง

          นายกรัฐมนตรียันม็อบเสื้อแดง ไม่กระทบการทำงานของรัฐบาล

          นปช.ยังปักทำเนียบ-โฆษกรัฐเชื่ออยู่ไม่นาน

          องคมนตรียันป๋า-สุรยุทธ์ไม่ใส่ร้ายทักษิณ

          สุรยุทธ์นัดแถลง 4 โมงเย็น พะจุณณ์แอ่นอกป้องเปรม 

          บุญจง มั่นใจ แม้ว เปิดชื่อ ป๋าเปรม ไม่ได้ช่วยปลุกระดม

          บก.จร.เตือนปชช.เลี่ยงเส้นทางบริเวณรอบทำเนียบ 

          นายกรัฐมนตรีมั่นใจอังคารหน้าประชุมคณะรัฐมนตรีในทำเนียบ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
        

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สุรยุทธ์ ออกโรงโต้ ทักษิณ ปัดรวมหัวคิดปฏิวัติ อัปเดตล่าสุด 28 มีนาคม 2552 เวลา 21:29:26 36,224 อ่าน
TOP