x close

สงกรานต์นี้ ขับขี่ปลอดภัย

การจราจร



สงกรานต์นี้ ขับขี่ปลอดภัย (นิตยสาร She's)

          หากหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ได้ รับรองสงกรานต์นี้ทุกคนจะปลอดภัยเ ชื่อหรือไม่ว่าเราทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว ว่าทำอย่างไรถึงจะใช้รถ ใช้ถนนกันได้อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ แต่เรามักจะหลงลืม ประมาท หรือขี้เกียจทำตามกฎจราจร เอาแต่ความสะดวกเข้าว่า โดยหารู้ไม่ว่า การละเลยกฎพื้นฐานของความปลอดภัยบนท้องถนนแบบนี้ ทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้ง่ายๆ เลยล่ะ

          ยิ่งช่วงสงกรานต์นี้เป็นช่วง long weekend ที่ผู้คนจำนวนมากจะขับรถออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน ยิ่งเป็นช่วงที่ง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุ ฉะนั้นลองมาเช็คกันดูหน่อยสิว่า คุณมีพฤติกรรมแบบนี้เวลาขับรถบนท้องถนนบ้างหรือเปล่า...ถ้ามี...เปลี่ยนได้ แล้วจ้า เพื่อความปลอดภัยทั้งในช่วงสงกรานต์นี้ และทุกๆ ครั้งที่สตาร์ตรถออกจากบ้านนะ

 1.แต่งหน้าไปขับไป

          อันนี้ผูกขาดเฉพาะผู้หญิง วันไหนออกจากบ้านโดยไม่แต่งหน้าเข้าใจว่าเจ้าหล่อนคงขาดความมั่นใจ ครั้นจะแต่งให้เสร็จจากบ้านก็ไม่มีเวลา จึงต้องมาลงเอยกันที่บนรถ เรียกว่าใช้เวลาว่างในขณะรถติดให้เกิดประโยชน์ ซึ่งมันคงไม่มีปัญหาหากคุณไม่ได้ขับเองหรือแต่งในขณะที่รถกำลังติด แต่บางคนอยู่ในประเภท "ขับไป-แต่งไป" ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงทั้งต่อตนเองและคนรอบข้าง

 2.โทรไม่ขับ

          เรื่อง "ช่างเมาท์" เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย บางคนคุยได้คุยดีไม่เว้นแม้กระทั่งตอนขับรถ ยิ่งถ้ากำลังอยู่ในช่วง "พีค" รถนี่แทบจะส่ายไปมาตามจังหวะหัวร่อ...ร้อยทั้งร้อยถ้าขับเหมือนกับอยู่คน เดียวบนโลก อย่างวิ่ง 60 ในเลนขวา หรือวิ่งคร่อมเลน เห็นเอียงคอคุยโทรศัพท์อยู่ทั้งนั้น ดังนั้นถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนที่ทำอะไรพร้อมๆ กัน 2 อย่างไม่ได้ดี หาชุดสมอลล์ ทอล์ค มาใส่เลยจะดีกว่า แล้วพึงระลึกไว้เสมอว่า ที่เราต้องใส่สมอลล์ ทอล์คนั้น ไม่ใช่สักแต่ว่าทำตามกฎหมายไปอย่างเดียวเท่านั้น แต่ให้คิดว่าเราทำเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง และคนอื่น ฉะนั้นห้ามลืมกฎความปลอดภัยข้อนี้เด็ดขาด

 3.ฉุกเฉินพร่ำเพรื่อ

          ทั้งโลกน่าจะมีเพียงประเทศเรา (ซึ่งไม่น่าภูมิใจเลย) ที่มีค่านิยมในการใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินแบบผิดๆ เช่น เปิดเมื่อจอดรถข้างทางหรือในเขตห้ามจอด หรือวิ่งผ่านทางแยกโดยต้องการตรงไปซึ่งถือว่าอันตรายมากๆ เพราะรถทางฝั่งซ้ายคงไม่นึกว่าคุณต้องการจะตรงไป ผลสุดท้ายก็คือมา "จ๊ะเอ๋" กันกลางแยก ที่เด็ดสุดก็คือเปิดขณะวิ่งในสภาพอากาศไม่ดีอย่างหมอกลงจัดหรือฝนตกหนักแล้ววิ่งเป็นขบวน เพราะ "แจ็คพอต" อาจจะตกกับคนที่รถจอดเสียและเปิดไฟฉุกเฉินจริงๆ อยู่ข้างทาง วิธีที่ถูกต้องและปลอดภัยเมื่อขับรถข้ามแยกแล้วต้องการตรงไป ให้ชะลอความเร็วลง แล้วมองซ้าย-ขวาอย่างรอบคอบ ถ้ากรณีสภาพอากาศย่ำแย่ให้เปิดไฟหน้า (ไฟต่ำ) ใช้ความเร็วต่ำ ชิดเลนซ้ายไว้เสมอ

 4.ขับช้าวิ่งขวา

          ถนนสายหลักส่วนมากจะเป็นถนนแบบ 2 หรือ 3 เลนอยู่แล้ว และเรามักจะเลือกเลนที่ 2 และ 3 เป็นส่วนใหญ่ แต่อย่าลืมว่าถึงเราจะใช้ความเร็วสูงสุดเท่าที่กฎหมายกำหนด แล้วก็ตาม แต่ในบางจังหวะก็อาจมีรถบางคันที่อยากจะวิ่ง "เร็ว" กว่าเรา ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ พอถึงความเร็วที่ต้องการ ก็น่าจะย้ายมา "แช่" ที่เลนกลาง ปล่อยให้เลนซ้ายเป็นของพี่ๆ รถบรรทุก และเปิดเลนขวาให้รถคันอื่นๆ ที่ต้องการแซงคุณไปจะเป็นการดีที่สุด

 5.เข้าวงเวียนไม่เป็น

          วงเวียนถือเป็นจุด "ปราบเซียน" สำหรับมือใหม่ การที่จะผ่านเข้า-ออกได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องเป็นคนใจถึงหรือกล้าได้กล้าเสีย แค่ยึดหลักสากลคือหยุดให้รถที่อยู่ในวงเวียนวิ่งผ่านไปก่อน แล้วจึงค่อยเข้าเลนที่ถูกต้อง คือถ้าต้องการเลี้ยวออกที่ฝั่งไหน ก็ต้องเตรียมบ่ายหัวรถไปยังเลนที่มีเครื่องหมายกำกับให้เลี้ยวได้ แต่ส่วนใหญ่จะเข้าเลนในสุดก่อนเพราะรถน้อย แล้วจึงมาเบียดเอาตรงแยกที่ต้องการออกทันที จึงมักจะมีเหตุชนกับคันอื่นๆ อยู่เสมอ

 6.ไม่ให้ทางคนอื่น

          คนบางคนนิสัยจะเปลี่ยนไปทันทีเมื่อก้าวขึ้นรถไปนั่งอยู่หลังพวงมาลัย อาการใจร้อน โมโหง่าย หรือใจแคบจะเข้ามาแทนที่ เห็นรถคันอื่นเปิดไฟเลี้ยวขอทางเป็นไม่ได้ ต้องเหยียบคันเร่งเพื่อขยับรถไปปิดทาง ทั้งๆ ที่บางทีตัวเองก็ไปไม่ได้ ถือเป็นวัฒนธรรมในการขับรถที่ไม่ดีนัก ต้องอาศัยหลักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าดูแล้วไม่ได้เป็นการแซงแบบ "น่าเกลียด" ก็น่าจะเอื้ออาทรเปิดทางให้คนอื่นได้ไปตามที่เค้าต้องการบ้าง

 7.ไม่รู้กฎจราจร

          เคยสงสัยไหมว่าหลายๆ คนบนถนนได้ใบขับขี่มาอย่างไร เพราะขับรถเหมือนกับไม่มีความรู้ด้านข้อบังคับการจราจรเลย อย่างการแซงในเขตคับขัน, การจอดในที่ห้ามจอดหรือจอดบังทางเข้า-ออกของซอยย่อยหรืออาคาร ทำให้คนอื่นต้องเสียจังหวะ เสียโอกาส ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะลดน้อยลงถ้าอาศัยการสังเกตรถคันอื่นๆ รอบข้างที่เค้าขับได้อย่างถูกต้อง ก็จะเป็นการช่วยลดปัญหาแบบนี้ลงไปได้มาก

 8.ขับไม่มองกระจก

          ในรถหนึ่งคันจะมีกระจกเงาที่ใช้สำหรับการขับขี่อยู่ 3 จุด คือกระจกส่องหลัง 1 บาน และกระจกส่องข้างอีก 2 บาน ซึ่งเทคนิคการขับขี่ที่ถูกต้องและปลอดภัยอย่างง่ายๆ ก็คือ ทุกๆ 10 วินาทีควรจะต้องชำเลืองมองกระจกทั้ง 3 บานนี้ให้ครบถ้วน เพื่อเป็นการตรวจสภาพความเป็นไปรอบด้านของตัวรถ ช่วยให้การแซงหรือเลี้ยว รวมถึงการเบรกเป็นไปอย่างปลอดภัยขึ้น

 9.แทรก-ปาด ไม่เลือกที่

          เจอกันอยู่ทุกเช้าจนเป็นเรื่องปกติสำหรับนิสัยแย่ๆ ของคนบางกลุ่ม ที่โดนความเห็นแก่ตัวในใจครอบงำ ขับ "ตามคิว" ปกติเรื่อยๆ ไม่เป็น พบบ่อยๆ ได้แถวคอสะพานหรือทางแยกต่างๆ ที่รถติด คนอื่นเค้ารอต่อแถวกันมานาน แต่พวกนี้เล่นมาเบียดเอาตรงใกล้ๆ พอคันหลังเห็นตัวอย่างก็เลยเอาตามเป็นขบวน ทำให้เกิดปัญหารถติดเพิ่มมากขึ้นอีก

 10.ซิกแซกจนน่าปวดหัว

          อาการนี้ส่วนใหญ่จะเกิดกับรถรับจ้าง ที่ต้องแข่งกันทำมาหารับประทานอยู่บนถนน ไม่ก็วัยรุ่นคึกคะนอง อยากไปให้เร็วที่สุดจนไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือมารยาทต่างๆ ในการใช้รถใช้ถนนร่วมกับคนอื่น เห็นช่องว่างเป็นไม่ได้ จะต้อง "มุด" เข้ามาตลอด เพื่อช่วยให้ตัวเองรู้สึกว่า "เร็วขึ้น" แต่พอถึงไฟแดงหน้าก็เห็นจอดอยู่ข้างหน้าเหมือนเดิม สงสัยลืมไปว่าเมืองไทยรถติด

 เมาไม่ขับ

          เรื่องนี้ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว โฆษณารณรงค์ต่างๆ ก็มีให้เห็นกันอยู่ทุกวัน ตำรวจก็ขยันตั้งด่านตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์กันอยู่แทบทุกหัวถนน แถมยังมีกฎให้ซื้อขายเหล้าได้เฉพาะเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. ด้วย แต่บางทีเราก็ชอบคิดกันไปเองว่า ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่กินนิดๆ หน่อยๆ มันไม่ทำให้เมาหรอก...แต่ความจริงก็คือ เมื่อเหล้าเข้าปาก สมองคุณจะทำงานได้ช้าลง การตัดสินใจก็จะไม่ฉับไวเหมือนเวลาปกติ แล้วอย่างนี้เวลาเกิดเหตุการณ์คับขัน คุณจะทำประคองรถอยู่ได้มั๊ยล่ะนั่น ฉะน้นท่องจำขึ้นใจไว้เลย "เมาไม่ขับ"


          ถึงตรงนี้ ถ้าใครรู้ตัวว่ายังทำบางข้อหรือหลายๆ ข้อตามที่อ่านมาข้างต้นอยู่ ก็ขอให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตนเองให้มีนิสัยในการขับขี่ที่ดีขึ้น ร่วมด้วยช่วยกันคนละไม้ละมือ รับรองว่าสังคมของเราจะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ อย่างน้อยเช้าๆ ตอนขับรถไปทำงาน จิตใจก็จะได้เบิกบาน ไม่หงุดหงิดกับเรื่องการจราจรแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ และสงกรานต์ปีนี้ หรือปีไหนๆ รวมทั้งทุกๆ หน้าเทศกาล ก็จะไม่มีข่าวประเภท "สถิติอุบัติเหตุพุ่งสูงกว่าเมื่อปีก่อน" ออกมาให้หดหู่ใจกันอีก

 

 ข้อมูลวันสงกรานต์  ประวัติวันสงกรานต์ Glitter Dookdik MSN เกมส์ ของแต่ง Blog และอีกมากมายเกี่ยวกับวันสงกรานต์ เพียบ คลิกเลยค่ะ


 คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

โดย Anawat Sukhakul

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สงกรานต์นี้ ขับขี่ปลอดภัย อัปเดตล่าสุด 30 มีนาคม 2552 เวลา 15:41:56 12,340 อ่าน
TOP