เปลี่ยนวิธีเผชิญหน้า กับปัญหา (ใยไหม)
ครั้งหนึ่ง . . .
ขณะที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเพลินๆ อยู่ในสวนสาธารณะ
ฉันได้ยินเสียงร้องไห้ ดังใกล้เข้ามา
หลังจากเงยหน้าขึ้นมาดู
ก็เห็นผู้ชายวัยคุณพ่อคนหนึ่งกำลังปั่นจักรยานผ่านตรงหน้า
ตามหลังมาด้วยหนูน้อยเจ้าของเสียงอายุประมาณ 7-8 ขวบ
ที่ขานั้น . . . กำลังปั่นจักรยานคันน้อย
แต่ปาก . . . ก็ตะเบ็งเสียงร้องไห้เพื่อเรียกร้องความสนใจ
หวังจะให้คุณพ่อหันกลับมาช่วย
จากการประเมินสถานการณ์
ฉันคิดว่าเด็กน้อยคนนี้กำลังอยากถอดใจ
เพราะคิดว่าตัวเองคงปั่นจักรยานต่อไปไม่ไหวแล้ว
แต่งานนี้ ดูเหมือนคุณพ่อจะไม่ใจอ่อนง่ายๆ
กลับปั่นจักรยานของตัวเองต่อไปเรื่อยๆ
ส่วนคุณลูก . . . ก็ตะเบ็งเสียงต่อไปเรื่อยๆ เช่นกัน
จนกระทั่ง . . .
อีกอึดใจหนึ่ง คุณพ่อก็เลี้ยวรถกลับมา
แต่สิ่งที่เกินความคาดหมายของฉันก็คือ
คุณพ่อ . . . ไม่ได้กลับมาช่วย แต่เขากลับมาเพื่อบอกประโยคหนึ่งกับลูกตัวเองว่า
"พ่อว่า ให้ลูกเปลี่ยนจากออกแรงตะเบ็งเสียง มาเป็นออกแรงปั่นจักรยานดีกว่านะครับ"
แล้วคุณพ่อใจเด็ด ก็ปั่นจักรยานต่อไป . . .
ส่วนลูกชาย . . . ก็ค่อยๆ ลดเสียงลง แล้วปั่นจักรยานคันน้อยต่อไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
หลายครั้ง. . . ที่บางคนอาจเคยทำตัวคล้ายๆ กับเด็กน้อยคนนี้
แต่เราจะรู้บ้างมั้ยว่า . . .
ในตัวเรา ก็สามารถเปลี่ยนวิธีคิดของตัวเอง
จาก "เด็กน้อย" เป็น "คุณพ่อ" ได้ในเวลาเดียวกัน
เมื่อไหร่ที่เกิดความรู้สึกว่าตัวเองกำลัง "ไม่ไหว"
อยากให้ลองถามตัวเองดูใหม่ว่า . . .
ที่ "ไม่ไหว" นั้นน่ะ เป็นเพราะเรา . . . แค่ไม่อยากจะสู้รึเปล่า
มีความจริงอันหนึ่งที่หลายคนอาจจะลืม ก็คือ . . .
ก่อนที่ทุกคนจะหมดแรงนั้น
ธรรมชาติยังมอบ "กำลังเฮือกสุดท้าย" ให้เราเสมอ
และที่เราไม่หยิบมันออกมาใช้
ก็เพราะเราลืมหรือกำลังเหนื่อยกับการตีโพยตีพายอยู่รึเปล่า
ในทุกปัญหาย่อมมีวิธีคลี่คลายที่ถูกจุด และมีช่วงเวลาแก้ที่เหมาะสม
อยู่ที่เราเองเท่านั้นว่า . . . จะเริ่มต้นเมื่อไหร่ และเปลี่ยนแปลงมันอย่างไร
ที่สำคัญอย่ายอมแพ้ . . . ถ้ายังไม่หมดเวลา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
จากหนังสือ : แปลงเพาะชำ วันดีๆ
โดย: ปูปรุง
ภาพประกอบจาก Glitter.kapook.com
ครั้งหนึ่ง . . .
ขณะที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเพลินๆ อยู่ในสวนสาธารณะ
ฉันได้ยินเสียงร้องไห้ ดังใกล้เข้ามา
หลังจากเงยหน้าขึ้นมาดู
ก็เห็นผู้ชายวัยคุณพ่อคนหนึ่งกำลังปั่นจักรยานผ่านตรงหน้า
ตามหลังมาด้วยหนูน้อยเจ้าของเสียงอายุประมาณ 7-8 ขวบ
ที่ขานั้น . . . กำลังปั่นจักรยานคันน้อย
แต่ปาก . . . ก็ตะเบ็งเสียงร้องไห้เพื่อเรียกร้องความสนใจ
หวังจะให้คุณพ่อหันกลับมาช่วย
จากการประเมินสถานการณ์
ฉันคิดว่าเด็กน้อยคนนี้กำลังอยากถอดใจ
เพราะคิดว่าตัวเองคงปั่นจักรยานต่อไปไม่ไหวแล้ว
แต่งานนี้ ดูเหมือนคุณพ่อจะไม่ใจอ่อนง่ายๆ
กลับปั่นจักรยานของตัวเองต่อไปเรื่อยๆ
ส่วนคุณลูก . . . ก็ตะเบ็งเสียงต่อไปเรื่อยๆ เช่นกัน
จนกระทั่ง . . .
อีกอึดใจหนึ่ง คุณพ่อก็เลี้ยวรถกลับมา
แต่สิ่งที่เกินความคาดหมายของฉันก็คือ
คุณพ่อ . . . ไม่ได้กลับมาช่วย แต่เขากลับมาเพื่อบอกประโยคหนึ่งกับลูกตัวเองว่า
"พ่อว่า ให้ลูกเปลี่ยนจากออกแรงตะเบ็งเสียง มาเป็นออกแรงปั่นจักรยานดีกว่านะครับ"
แล้วคุณพ่อใจเด็ด ก็ปั่นจักรยานต่อไป . . .
ส่วนลูกชาย . . . ก็ค่อยๆ ลดเสียงลง แล้วปั่นจักรยานคันน้อยต่อไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
หลายครั้ง. . . ที่บางคนอาจเคยทำตัวคล้ายๆ กับเด็กน้อยคนนี้
แต่เราจะรู้บ้างมั้ยว่า . . .
ในตัวเรา ก็สามารถเปลี่ยนวิธีคิดของตัวเอง
จาก "เด็กน้อย" เป็น "คุณพ่อ" ได้ในเวลาเดียวกัน
เมื่อไหร่ที่เกิดความรู้สึกว่าตัวเองกำลัง "ไม่ไหว"
อยากให้ลองถามตัวเองดูใหม่ว่า . . .
ที่ "ไม่ไหว" นั้นน่ะ เป็นเพราะเรา . . . แค่ไม่อยากจะสู้รึเปล่า
มีความจริงอันหนึ่งที่หลายคนอาจจะลืม ก็คือ . . .
ก่อนที่ทุกคนจะหมดแรงนั้น
ธรรมชาติยังมอบ "กำลังเฮือกสุดท้าย" ให้เราเสมอ
และที่เราไม่หยิบมันออกมาใช้
ก็เพราะเราลืมหรือกำลังเหนื่อยกับการตีโพยตีพายอยู่รึเปล่า
ในทุกปัญหาย่อมมีวิธีคลี่คลายที่ถูกจุด และมีช่วงเวลาแก้ที่เหมาะสม
อยู่ที่เราเองเท่านั้นว่า . . . จะเริ่มต้นเมื่อไหร่ และเปลี่ยนแปลงมันอย่างไร
ที่สำคัญอย่ายอมแพ้ . . . ถ้ายังไม่หมดเวลา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
จากหนังสือ : แปลงเพาะชำ วันดีๆ
โดย: ปูปรุง
ภาพประกอบจาก Glitter.kapook.com