สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ภ.จว.อ่างทอง แถลงข่าวจับกุม นายสมพงษ์ หรือโชค ฟังฮาด อายุ 26 ปี, นายศักดิ์ศิลป์ หรือเต้ ยินดี อายุ 34 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 38,000 เม็ด เงินสดล่อซื้อ 5 ล้านบาท รถกระบะ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ถนนสายเอเชีย หมู่ 1 อำเภอเมือง สอบสวนผู้ต้องหาให้การสารภาพ โดย พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า สืบทราบว่ามีนายทุนค้ายาบ้าชาวลาวชื่อนาย "ต" ลักลอบนำยาบ้ามาจำหน่ายในพื้นที่ภาคกลาง จึงวางแผนล่อซื้อและจับกุมตัวแต่ปรากฏว่านาย "ต" ว่าจ้างผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่เป็นคนไทยในราคา 1 แสนบาท นำยาบ้ามาส่งแทน ซึ่งยาบ้าจำนวนดังกล่าวหากถูกจำหน่ายจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 12 ล้านบาท และจะขยายผลจับนายทุนชาวลาวมาดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ ก่อนแถลงข่าว พล.ต.ต. วิสุทธิ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิมพ์ป้ายชื่อผู้ต้องหาวางบนโต๊ะ แต่แทนที่จะใช้ชื่อผู้ต้องหา กลับใช้ชื่อคำว่า "เดนมนุษย์" และ "อมนุษย์" ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ เคยแถลงข่าวจับแก๊งยาบ้าแล้วให้ผู้ต้องหาคาบถุงยาบ้าจนถูกตำหนิ ซึ่ง พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ชี้แจงว่า ผู้ค้ายาเสพติดถือว่าเป็นอันตรายต่อประเทศ ทำลายชาติ ทำลายแผ่นดิน หากยาเสพติดระบาดไปสู่ลูกหลานแล้วจะมานึกถึงผู้การวิสุทธิ์ คงจะสายไป ผู้ค้าจึงไม่สมควรที่จะได้รับการปกป้อง ส่วนข้อความดังกล่าวไม่ใช่เป็นการประจาน เพียงอยากให้สำนึกว่าวันนี้ที่เขาถูกจับกุมและถูกดำเนินคดี เขามีจิตสำนึกในความเป็นมนุษย์ที่เกิดและอาศัยในพื้นแผ่นดินไทยหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้าที่พูดคุยกันผู้ต้องหาพูดว่าเขาทรยศชาติและแผ่นดิน เป็นเบี้ยให้นายทุนประเทศเพื่อนบ้านเพื่อต้องการเงิน
ด้านนายนคร ชมภูชาติ รองประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าไม่เหมาะสม และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะการจับตัวผู้ต้องหาแล้วนำมาแถลงข่าวนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และวัตถุประสงค์ของการแถลงข่าวดังกล่าว ก็เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งที่ทำเพื่อให้ผู้ต้องหาเกิดความอับอาย เกิดความขายหน้า หรือทำเพียงเพื่อความสะใจ แต่ถือว่าการกระทำดังกล่าวไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการกระทำที่เกินเลยเกินกว่าเหตุ แม้ว่าผู้ต้องหาจะกระทำผิดร้ายแรงขนาดไหน แต่โดยหลักพื้นฐานแล้วผู้ต้องหาต้องไม่ถูกกระทำให้ได้รับความอับอาย
"การที่เขาค้ายา ติดยา เขาก็เป็นมนุษย์ แต่คนที่จับเขาได้กลับมองว่าพวกนี้เป็นอมนุษย์ เป็นเดนมนุษย์ ไม่รู้ว่าจิตใจทำด้วยอะไร ไม่มองคนด้วยกันว่าเป็นมนุษย์ ชอบที่จะประจานที่การกระทำ โดยไม่ดูถึงตัวบุคคลว่าเค้าจะมีครอบครัวหรือเปล่า ครอบครัวเขาจะคิดอย่างไร การกระทำดังกล่าวยืนยันว่าเข้าข่ายความผิดเรื่องของการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ที่ผ่านมาผู้ต้องหาไม่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเรื่องการละเมิดสิทธิ์ ผู้ที่กระทำก็จึงยังไม่ถูกดำเนินการอะไร อีกทั้งไม่รู้ว่าผู้บังคับบัญชาปล่อยให้กระทำอย่างนี้ซ้ำสองได้อย่างไร เรื่องนี้ต้องให้สังคมพิจารณาว่าควรหรือไม่" นายนคร กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
