หญิงสู้ชีวิตเมืองนครพนมจากเด็กเสิร์ฟ พลิกฐานะสร้างตึกขายเองสวนศก.ขาลง (ข่าวสด)
"เส้นทางเถ้าแก่" สัปดาห์นี้มาถึง จ.นครพนม พบกับหญิงสู้ชีวิตอย่าง นางสมจิตร อุณาพรหม สาวใหญ่วัย 42 ปี ยากจนสู้ชีวิตดิ้นรนทำงานตั้งแต่เด็ก เปลี่ยนอาชีพสารพัดเก็บหอมรอมริบมาตลอด
ขายผัก-เป็นเด็กเสิร์ฟ
นางสมจิตร เล่าว่า เป็นคน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เป็นลูกคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้องร่วมท้อง 5 คน หลังจบ ป.4 ขณะอายุ 10 ปี ออกจากโรงเรียนมาขายผักตลาดเช้าที่บ้านเกิด พออายุ 12 ปี เข้ามาในเมือง รับจ้างเป็นเด็กเสิร์ฟล้างจานในร้านลาบ-ก้อยแห่งหนึ่ง เงินเดือน 500 บาท มีหนุ่มลูกจ้างส่งแก๊สมาจีบ คือ นายชาตรี หม่อมบ่าว อยู่กินกันมาตั้งแต่ปี 2538 ปัจจุบันมีลูกชาย 2 คน
ฝึกขับสองแถว
"สามีเก็บเงินซื้อรถกระบะเก่า ราคา 4-5 หมื่นบาท เข้าวินสองแถวจ้างคนขับวันหนึ่งเบิกเงินไปไม่มาขับ บางวันแกล้งป่วย จึงชวนสามีนำรถไปหัดขับฝึก 1 เดือนคล่อง จึงแบ่งเบาภาระสามีจนอุ้มท้องเลี้ยงลูกอยู่บ้าน"
เร่ขายมะพร้าวอ้อย-ซื้อข้าว-มันส่งโรงสี
ปี 2540 เปลี่ยนอาชีพ จึงชักชวนกันไปเร่ขายอ้อย-มะพร้าว ลุกตื่นแต่ตี 3 ไปรับและปอกเปลือกเปิดท้ายเร่ขาย 1-2 บาท ตามรายทาง ขายส่งตลาดด้วย ทำอยู่ 2-3 ปี เหนื่อยจึงเลิก มีเงินเก็บบ้างแล้ว ตัดใจขายรถก่อนมาซื้อรถ 6 ล้อ ตระเวนรับจ้างซื้อมันสำปะหลัง-ข้าวเปลือกส่งโรงสี 3 แห่ง ได้เงินเป็นเที่ยวไม่คุ้มค่าเหนื่อยจึงเลิก
เปิดร้านขายลาบก้อย
ย่างเข้าปี 2542 ไม่รู้จะทำอะไรนึกได้ว่าสมัยเป็นลูกจ้างเคยแอบเห็นนายจ้างทำลาบ ก้อย ต้ม จึงหยิบยืมเงินญาติผ่อนส่งตึก 2 ชั้นครึ่งในตัวเมือง ริมถนนพินิจรังสรรค์ ขายดิบขายดีมีลูกค้าติดใจทุกระดับจนผ่อนตึกหมดกว่า 1 ล้านหลังหยิบยืมธนาคารมาหมุนเวียนส่วนหนึ่ง
กู้แบงก์ซื้อที่-เล็งขยายกิจการ
ค้าขาย 11 ปี กิจการเริ่มไปได้สวยเศรษฐกิจดี ฝากเงินเดินบัญชีกับธนาคาร 3 แห่ง ก่อนขอกู้เงิน 5 ล้านมาซื้อที่ 2 ไร่ ตรงข้ามร้านลาบเดิมเพื่อสร้างตึก ลูกค้าเยอะจึงเริ่มคับแคบไปชวนคนมาลงทุนสร้างตึก 3 ชั้น 8 คูหา
ยืมนอกระบบสร้าง 8 คูหา
"บากหน้าไปพูดคุยขอร้องหลายครั้ง เขาหาว่าเราบ้าเพราะเศรษฐกิจปี 2550 อยู่ในช่วงขาลงแบงก์ไม่ปล่อยง่ายๆ สร้างแล้วจะขายให้ใคร เจ็บใจและเครียดหนักเพราะต้องการปลดหนี้ที่ยืมมา โชคเข้าข้างเจอน้องเขยช่วยเขียนแบบให้ก่อนยืมนอกระบบมา 2-3 ล้าน ลงมือสร้างแล้วเสร็จในปี 2551 มีคนมาจองและขายคูหา 1.6 ล้านหมด ล้างหนี้ได้สมใจ"
ฮึดสร้างต่อ 2 แห่ง
นำกำไร 3 ล้านบาท ซื้อที่ดินริมถนนพินิจรังสรรค์ สร้างตึก 3 ชั้น 9 คูหา สร้างเสร็จในปี 2551 ก่อนติดต่อซื้อที่อีก 14 ไร่เศษ เป็นทุ่งนาหลังวัดมหาธาตุ เป็นเงิน 14 ล้านบาท แต่ติดหนี้เจ้าของที่ไว้ ผุดตึก 3 ชั้นอีก 8 คูหาเหลือที่ดิน 11 ไร่ ตั้งใจจะทำแมนชั่น 60 ห้อง และสวนอาหารโลเกชั่นริมทุ่ง
"เคยทุกข์ยากลำบากมาก่อนไม่เคยเห็นเงินล้านก็ได้เห็น เหนื่อยแค่ไหนก็เพื่อลูก คิดดีทำดีไม่ฉ้อไม่โกงใคร บวกความขยันอดออมและไม่ท้อ แม้ไม่มีความรู้และประสบการณ์มาก่อน ก็ช่วยให้ลูกหลานมีงานทำ ปัจจุบันกลับมาค้าขายในร้านชื่อน้องจิตรลาบก้อย เหมือนเดิม"
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คอลัมน์ เส้นทางเถ้าแก่
โดย ชนะ วสุรักคะ