จระเข้เขาใหญ่
จระเข้เขาใหญ่
จระเข้เขาใหญ่
จระเข้เขาใหญ่ (ข่าวสด)
คอลัมน์ คอลัมน์ที่13
จระเข้เป็นสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ในวงศ์ Crocody lidae ชอบอาศัยบริเวณป่าริมน้ำ ผิวหนังแข็งเป็นเกล็ด (osteoderm) ปากยาวและปลายปากนูนสูงขึ้นเป็นช่องเปิดของรูจมูก เรียกว่า ก้อนขี้หมา หางแบนยาวใช้โบกว่ายน้ำเพราะชอบหากินในน้ำ แต่หากในน้ำไม่มีอาหาร จะขึ้นมาหาอาหารบนบก เมื่ออิ่มแล้วจะชอบขึ้นมาผึ่งแดด หรืออาบแดดเพื่อความอบอุ่น เพราะเป็นสัตว์เลือดเย็น
จระเข้ มีหลายพันธุ์ เท่าที่พบได้แก่ จระเข้อเมริกา, จระเข้ปากแหลม, จระเข้ฟิลิปปินส์, จระเข้แม่น้ำไนล์, จระเข้นิวกินี, จระเข้น้ำเค็ม, จระเข้คิวบา, จระเข้น้ำจืด, จระเข้แคระ, จระเข้ปากกระทุงเหวหรือตะโขง
ในประเทศไทยมี 3 ชนิด คือ จระเข้บึงหรือจระเข้น้ำจืด (Crocodylus siamensis) จระเข้ไอ้เคี่ยม หรือจระเข้น้ำเค็ม (C. porosus) และจระเข้ปากกระทุงเหว หรือตะโขง (Tomistoma schlegelii)
จระเข้ขยายพันธุ์โดยการออกลูกเป็นไข่ มีการพบว่าอุณหภูมิการกกไข่เป็นตัวกำหนดเพศ โดยอุณหภูมิประมาณ 30 องศาเซลเซียสจะได้เพศผู้ แต่ถ้าอุณหภูมิสูงกว่า 32 องศาเซลเซียสจะได้เพศเมีย
จระเข้น้ำจืด หรือจระเข้พันธุ์ไทยหรือจระเข้บึง (Fresh water หรือ Siamese Crocodile, Crocodylus siamensis) มีถิ่นกำเนิดในบริเวณ เวียดนาม เขมร ลาว ไทย กะลิมันตัน ชวา และเกาะในสุมาตรา มีขนาดปานกลาง ค่อนมาทางใหญ่ (3-4 เมตร) มีเกล็ดท้ายทอด มีช่วงวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 10 - 12 ปี
จระเข้ชนิดนี้วางไข่ครั้งละ 20-48 ฟอง โดยมีระยะเวลาฟักไข่นาน 68-85 วัน เริ่มวางไข่ในช่วงต้นฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคม โดยขุดหลุมในหาดทรายริมแม่น้ำ ใช้เวลาเฉลี่ยราว 80 วัน ชอบอยู่และหากินเดี่ยว
จระเข้เขาใหญ่
ปกติจระเข้น้ำจืดจะกินปลาและสัตว์อื่นที่เล็กกว่าเป็นอาหาร จะไม่ทำร้ายมนุษย์หากไม่ถูกรบกวนหรือมีอาหารเพียงพอ
ในอดีตในประเทศไทยเคยพบชุกชุมในแหล่งน้ำทั่วทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะในแถบที่ราบลุ่มภาคกลาง เช่น ที่บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่จระเข้ชุม เคยมีรายงานว่าพบจระเข้ถึง 200 ตัว หรือในวรรณกรรมพื้นบ้านเรื่องต่างๆ เช่น ไกรทอง ของจังหวัดพิจิตร เป็นต้น
แต่ปัจจุบันได้สูญหายไปจนเกือบหมดแล้ว สถานะในธรรมชาติเชื่อว่าหลงเหลืออยู่ในป่าธรรมชาติไม่กี่แห่ง คือที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน จังหวัดฉะเชิง เทรา อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.นครนายก และอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.กาญจนบุรี และเหลือเพียงแห่งละประมาณ 1 คู่ หรือ 2 ตัว รวมแล้วเหลือในประเทศไทยเพียงไม่เกิน 10 ตัวเท่านั้น
แต่ในต่างประเทศยังคงพบที่ทะเลสาบเขมร สถานะในอนุสัญญาของไซเตส ได้ขึ้นบัญชีจระเข้น้ำจืดไว้อยู่ในบัญชีหมายเลข 1 (Appendix 1) ปัจจุบัน จระเข้สายพันธุ์นี้แท้ๆ ก็ยังหายากในสถานที่เลี้ยง เนื่องจากได้ถูกผสมสายพันธุ์กับจระเข้สายพันธุ์อื่นจนเสียสายพันธุ์แท้ไป เพราะเหตุผลทางด้านเศรษฐกิจ ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวพบจระเข้ ออกมาอาบแดดใกล้บริเวณจุดท่องเที่ยวลานกางเต็นท์ ผากล้วยไม้ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นจระเข้พันธุ์ใด ระหว่างจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยแท้ หรือจระเข้พันทางผสม จนกว่าจะจับมาตรวจดีเอ็นเอเสียก่อน หากพบว่าเป็นจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยแท้ ก็นับว่าเป็นข่าวดีของธรรมชาติไทยอีกครั้ง
