ร่วมอาลัย ซาไก จ๊อกกี้ยิม มวยไทยหัวใจนักสู้

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ, ข่าวสด

            ช็อควงการหมัดมวยกันอีกครั้ง หลังเกิดเหตุสลด!"ซาไก จ๊อกกี้ยิม" นักชกวัย 20 ปี เสียชีวิตบนสังเวียนจากการชกอุ่นเครื่องกับ คาซึโยชิ นิกิ นักชกชาวญี่ปุ่นวัย 28 ปี ที่เมืองฟูโกโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 12 ตุลาคม โดย ซาไก จ๊อกกี้ยิม ชกแลกหมัดทั้ง 10 ยก แบบดุเดือดกับนักชกญี่ปุ่นตั้งแต่ยกแรกจนยกสุดท้าย ก่อนที่จะถูกจับแพ้ในยกที่ 10 และถูกนำตัวลงจากเวทีก่อนหมดสติ แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยแพทย์ระบุว่าเหตุเลือดคั่งในสมอง ซึ่งขณะที่อยู่ระหว่างนำศพของ ซาไก จ๊อกกี้ยิม กลับมาประเทศไทย เพื่อนำมาทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดจังหวัดอุดรธานี ซึ่งคาดว่าดำเนินการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยและพร้อมนำศพกลับมาไทยภายใน 1-2 วัน 

            สำหรับ ซาไก จ๊อกกี้ยิม มีชื่อจริงว่า นายสมบูรณ์ เวียงชัย เป็นชาวอำเภอประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี มีอายุเพียงแค่ 20 ปี เติบโตมาในครอบครัวชาวนา ฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน บิดาชื่อ นายกลิ้ง เวียงชัย อายุ 62 ปี มารดาชื่อ นางปุ๋ย เวียงชัย อายุ 60 ปี ซาไก จ๊อกกี้ยิม มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน โดย ซาไก จ๊อกกี้ยิม เป็นลูกชายคนเล็ก ซึ่งเป็นความหวังและเป็นเสาหลักของครอบครัว 

            "ทางค่ายจ๊อกกี้ยิมได้โทรศัพท์มาบอกกับตนว่าลูกชายได้เสียชีวิต ตนเองถึงกับเข่าอ่อนแทบจะเป็นลม โดยได้บอกลูกทั้งหมดให้ทราบ ทุกคนก็พากันร้องไห้กันไปทั่ว ก่อนหน้านี้ลูกชายคนนี้ได้บอกว่าจะเก็บเงินมาให้แม่สักก้อนหนึ่ง มาสร้างบ้านให้แล้วเสร็จ แต่ความฝันก็พังทลายลง ตนและสามี มีอาชีพรับจ้างทำนา ซาไก จ๊อกกี้ยิม เป็นเด็กดีมีความกตัญญูต่อพ่อแม่ เรียนจบชั้นประถมปีที่ 6 แล้วก็ออกไปชกมวยตั้งแต่อายุ 13 ปี ชกครั้งแรกได้ค่าตัว 150 บาท หลังจากนั้นก็ยึดอาชีพชกมวยมาตลอด ตอนหลัง ๆ เมื่อชกมวยเสร็จแล้ว ก็จะส่งเงินมาให้ทางบ้านเดือนละ 2,000 บาท ตนมีฐานะยากจนมาก ไม่สามารถที่จะเดินทางไปรับศพลูกได้ ก็ขอฝากให้ทางค่ายจ๊อกกี้ยิม หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันออกค่าใช้จ่ายนำศพลูกชายกลับมาให้ที่บ้าน เพื่อจะนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป" นางปุ๋ย มารดาของ ซาไก จ๊อกกี้ยิม กล่าว

            ส่วนเส้นทางหมัดมวยของ ซาไก จ๊อกกี้ยิม นั้น เขาเริ่มเข้าสู่วงการมวยตั้งแต่อายุ 13 ปี โดยเริ่มชกมวยไทย และจดทะเบียนเป็นนักมวยไทย กับสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 อยู่ในสังกัดสมมาตร หงสกุล ก่อนจะเบนเข็มมาชกมวยสากลได้ 22 ครั้ง ชนะ 15 แพ้ 7 และผลงานที่โดดเด่น คือการชนะน็อก โจอิชิโร ทัตสึโยชิ อดีตแชมป์โลกสภามวยโลก (WBC) รุ่นแบนตั้มเวต (118 ปอนด์) ยกที่ 7 เมื่อปลายปี พ.ศ. 2551 ที่เวทีราชดำเนิน จากนั้นได้โอกาสชกชิงแชมป์ราชดำเนินในรุ่นแบนตั้มเวต แต่ก็แพ้น็อกให้ ก้าวหน้า ชูวัฒนะ ในยกที่ 4 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 และต่อมาก็ได้รับการทาบทามให้ไปชกญี่ปุ่นกับ คาซึโยชิ นิกิ เพราะว่าชื่อขายได้ จากการเป็นผู้พิชิตซูเปอร์สตาร์ ทัตสึโยชิ ของญี่ปุ่นนั่นเอง 

            โดยตลอดการชกทั้ง 10 ยก ซาไก จ๊อกกี้ยิม และ คาซึโยชิ นิกิ มีการแลกหมัดกันดุเดือดแบบใครดีใครอยู่ ก่อนที่ ซาไก จ๊อกกี้ยิม จะถูกจับแพ้ทีเคโอในยกที่ 10 เนื่องจาก ซาไก จ๊อกกี้ยิม อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถชกต่อได้ และเมื่อลงมาจากเวทีก็มาเป็นลมล้มลงในห้องแต่งตัว ทำให้ผู้จัดที่ญี่ปุ่นต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที โดย ซาไก จ๊อกกี้ยิม นอนสลบนานถึง 3 ชั่วโมง แม้ว่าแพทย์จะพยายามปั๊มหัวใจช่วยอย่างเต็มที่แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิต ซาไก จ๊อกกี้ยิม ไว้ได้ และเสียชีวิตในเวลา 20.00 น. วันที่ 12 ตุลาคม 2552 ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น โดยแพทย์เผยว่าเกิดเลือดคั่งในสมอง 

            ทั้ง ๆ ที่ ซาไก จ๊อกกี้ยิม ทำการฟิตซ้อมไปอย่างเต็มที่ ไม่ได้มีปัญหาด้านสุขภาพ และก่อนหน้าที่จะชกก็ได้มีการตรวจร่างกายอย่างละเอียด แพทย์ก็ระบุว่าร่างกายดีมาก ซึ่งหลาย ๆ คนลงความเห็นว่าที่ ซาไก จ๊อกกี้ยิม เลือดคั่งในสมองน่าจะเป็นผลมาจากการโดนหมัดของ คาซึโยชิ นิกิ ถลุงอย่างหนัก แต่ ซาไก จ๊อกกี้ยิม ก็ใจเกินร้อย สู้แบบไม่ยอมแพ้ แม้ว่าร่างกายจะไม่ไหวแต่ก็ฝืน จนต้องมาจบชีวิตลงอย่างน่าเสียดาย

            อย่างไรก็ตาม ทีมงานกระปุกดอทคอม ขอแสดงความเสียใจและขอร่วมไว้อาลัยต่อครอบครัว "เวียงชัย" ที่ได้สูญเสีย "ซาไก จ๊อกกี้ยิม" ไปอย่างไม่มีวันกลับ… ขอให้ดวงวิญญาณของ ซาไก จ๊อกกี้ยิม ไปสู่สุคติด้วยเถิด …





ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก