ชาวบ้านล้อมจับ 6 โจ๋ ปีนรั้วสถานพินิจ รุมโทรมสาวปี 1

อาชญากรรม



6 โจ๋ปีนรั้วสถานพินิจรุมโทรมนศ.ปี1ชาวบ้านล้อมจับ (คมชัดลึก)

          6 วัยรุ่นปีนรั้วสถานพินิจขอนแก่น ออกมาดักซุ่มก่อเหตุฉุดนักศึกษาสาวชั้นปีที่ 1 ข่มขืนกลางป่า รปภ.- ชาวบ้านฮือล้อมจับรวบได้ยกแก๊งขณะกำลังปีนรั้วกลับ ชาวชุมชนจี้สถานพินิจฯ วางมาตรการเข้มป้องกันไม่ให้วัยรุ่นที่ถูกควบคุมตัวในสถานพินิจหลบหนีออกมาก่อเหตุ ชี้มาตรการควบคุมหละหลวมปล่อยให้วัยรุ่นปีนรั้วออกมาก่อเหตุแล้วปีนรั้วกลับบ่อย ๆ 

          เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 24 พ.ย. พ.ต.ท.สุทัศน์ ไพบูลย์ หัวหน้า สภ.ย่อยในตัวเมืองขอนแก่น เดินทางมารับตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีออกจากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ขอนแก่น จำนวน 6 คน ที่ถูกควบคุมตัวที่สภ.เมืองขอนแก่น โดยผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นวัยรุ่นชายอายุ 18 ปี 2 คน อายุ 17 ปี 3 คนโดยมีนายอาทิตย์ คิมเชียง อายุ 20 ปี เป็นหัวโจกในการชักชวนวัยรุ่นที่ถูกควบคุมตัวในสถานพินิจฯ ปีนรั้วออกจากสถานพินิจฯ ที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในคืนวันที่ 23 พ.ย.และก่อเหตุทำร้ายร่างกายและข่มขืนนักศึกษาหญิงชั้นปีที่ 1 อายุ 19 ปี ขณะกำลังขับรถจักรยานยนต์กลับหอพักภายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 24 พ.ย.

          ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และชาวบ้านล้อมจับได้ทั้งหมดหลังก่อเหตุข่มขืน โดยผู้ต้องหา 3 คน ที่มีอายุ 18 ปี 2 คน และ 20 ปี 1 คน ถูกนำตัวไปฝากขังไว้ที่เรือนจำกลาง จ.ขอนแก่น และผู้ต้องหา 3 คน ที่อายุ 17 ปี ถูกนำไปควบคุมตัวไว้ในสถานพินิจ และคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ขอนแก่น เพื่อรอการดำเนินคดีในข้อทาทำร้ายร่างกายและข่มขืนผู้อื่น

          พ.ต.ท.สุทัศน์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนไม่สามารถให้รายละเอียดอะไรได้มาก เนื่องจากเป็นคดีที่ละเอียดอ่อนและเกี่ยวเนื่องกับหลายฝ่าย และในเบื้องต้นยังไม่มีการสอบปากคำผู้เสียหาย เนื่องจากยังอยู่ในอาการเครียด และขณะนี้ได้ติดต่อไปยังญาติผู้เสียหายเข้ามาดูแลแล้ว ซึ่งขณะนี้นักศึกษาคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บและพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้นักจิตวิทยาเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเด็กอยู่ในอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเกรงว่าจะทำร้ายตัวเอง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ดูแลเป็นพิเศษ

          นายบูรณศักดิ์  ปกครอง อายุ 47 ปี เจ้าของร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ด บ้านเลขที่ 120 ม.19 บ้านโนนม่วง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า เมื่อเวลา 21.00 น.คืนวันที่ 23 ภรรยาได้โทรศัพท์มาเล่าให้ตนฟังว่าพบเห็นเด็กที่ถูกควบคุมในสถานพินิจฯ ปีนรั้วหลบหนีออกมาจำนวน 6 คน และหลังจากนั้นเวลาประมาณ 23.00 น.ตนเลิกงาน กำลังขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านก็พบเห็นเด็กวัยรุ่นประมาณ 6 คน ยืนอยู่ข้างถนนแล้วเดินอยู่ใกล้บริเวณเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหลังกำแพงหอพัก 9 หลัง และในบริเวณดังกล่าวเป็นประตูที่ทะลุไปยังสถานพินิจฯ ที่ตั้งอยู่ใกล้กัน

          ซึ่งในบริเวณมีสภาพเปลี่ยวและมืด มีรถผ่านน้อยตนเกรงจะถูกชิงทรัพย์ อีกทั้งยังเคยเกิดเหตุลักทรัพย์กันบ่อยจึงได้รีบขับรถจักรยานยนต์ผ่านไปด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงบ้านเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 23 พ.ย. ก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งไล่จับชายวัยรุ่น 6 คน ที่พยายามจะปีนกลับเข้าไปในสถานพินิจฯ และมีบางส่วนวิ่งหลบหนีเข้ามาภายในซอย 4 ชาวบ้านจึงช่วยกันวิ่งไล่จับ จนสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทราบว่ามีเด็กจากสถานพินิจฯ หลบหนีออกมาแล้วไปก่อเหตุทำร้ายร่างกาย แล้วข่มขืนนักศึกษา  

          "ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับรั้วสถานพินิจฯ เห็นเป็นประจำว่าเด็กที่ถูกควบคุมตัวอยู่ข้างในหลบหนีออกมาเป็นประจำ จนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเด็กเหล่านี้เมื่อหลบหนีออกมาก็จะมาก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ชิงทรัพย์ ข่มขืนเป็นประจำ และก็มีการปิดข่าวมาตลอด ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ ทั้งที่เคยร้องเรียนไปยังสถานพินิจฯ แล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด จนกระทั่งมาเกิดเหตุกับนักศึกษาหญิง ชั้นปีที่ 1 คนล่าสุด" นายบูรณศักดิ์ กล่าว

          ทั้งนี้มีแหล่งข่าวรายงานว่าในขณะที่เกิดเหตุผู้ต้องหาทั้ง 6 รายได้อาศัยความมืด ดักรอเหยื่ออยู่บริเวณป่าหลังหอพัก 9 หลัง และเมื่อผู้ต้องหาทั้ง 6 คนเห็นรถจักรยานยนต์แล่นผ่านมา และเห็นว่าเป็นผู้หญิง จึงวิ่งออกมาขวางจนรถเสียหลักล้มลง จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ช่วยกันลากนักศึกษาหญิงชั้นปีที่ 1 เข้าไปในป่า และร่วมกันข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ไป 1 คน

          จากนั้นมีนักศึกษาที่พักอาศัยอยู่ภายในหอ 9 มองเห็นและได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ รปภ.ของหอพักดังกล่าวช่วยเหลือ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงจุดเกิดเหตุทำให้ผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย วิ่งหลบหนีเพื่อจะกลับเข้าไปในสถานพินิจฯ แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้


          นายบัณฑิต สีอุไรย์ ผู้พิพากษา หัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัว จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ในส่วนของศาลเยาวชนฯ เองไม่มีหน้าที่ที่จะเข้าไปดูแลสถานพินิจฯ โดยตรง แต่จะมีการกำชับให้มีมาตรการในการป้องกันและเข้มงวดไม่ให้เด็กที่หลบหนีออกมาได้อีก ซึ่งเด็กที่หลบหนีออกมาก่อเหตุ ขณะนี้ได้กำชับให้มีการลงโทษโดยการนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำกลาง จ.ขอนแก่น ซึ่งถือว่าเป็นโทษที่หนักสำหรับเด็ก เพื่อให้เด็กที่อยู่ภายในสถานพินิจฯเกิดความเข็ดหลาบ ดังนั้นการส่งตัวเข้าเรือนจำจึงถือว่าเป็นการลงโทษที่หนัก สำหรับสาเหตุที่เด็กหลบหนีออกมานั้นเป็นความคิดชั่ววูบ และมีพฤติกรรมในการเรียนแบบหัวโจกที่ชักชวนเพื่อนที่ถูกคุมขังด้วยกันออกมากระทำความผิด โดยไม่ได้ยั้งคิด ทำให้ตัดสินใจทำตามกัน

          รายงานข่าวแจ้งว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวชุมชนบ้านโนนม่วง ที่ตั้งข้างมหาวิทยาลัย ที่ได้รับความเดือดร้อนจากวัยรุ่นปีนรั้วสถานพินิจฯ ออกมาก่อเหตุทั้งชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย รวมทั้งข่มขืน และเมื่อกอเหตุเสร็จก็ปีนรั้วกลับ โดยแกนนำชุมชนหลายคนได้ตกลงที่จะเดินทางไปชุมนุมหน้าสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ขอนแก่น วันที่ 25 พ.ย.เพื่อให้มีมาตรการในการควบคุมไม่ให้วัยรุ่นหนีออกจากสถานพินิจฯ ออกมาก่อเหตุอีก


ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชาวบ้านล้อมจับ 6 โจ๋ ปีนรั้วสถานพินิจ รุมโทรมสาวปี 1 อัปเดตล่าสุด 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา 15:13:21 29,773 อ่าน
TOP
x close