เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก allaboutkob.com
พิธีกรดัง ตั๊ก มยุรา โร่แจ้งความตำรวจ หลังแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นดีเอสไอ โทรมาหลอกค้างหนี้บัตรเครดิต แต่เจ้าตัวไหวทัน ด้านตำรวจอาเซียนจับมือปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังระบาดทั่วเอเชีย
วานนี้ ( 2 ธันวาคม) ตั๊ก มยุรา เศวตศิลา หรือชื่อจริง นภา เศวตศิลา พิธีกรชื่อดัง ได้เดินทางเข้าแจ้งความและลงบันทึกประจำวันที่ สน.บึงกุ่ม หลังเกือบถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินผ่านทางตู้เอทีเอ็ม
โดยพิธีกรชื่อดัง เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา มีเบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ จากต่างประเทศโทรเข้ามาที่โทรศัพท์ของตน เมื่อตนรับสาย ก็มีเสียงผู้หญิงแนะนำตัวเองว่า เป็นพนักงานธนาคารกสิกรไทย แจ้งว่าตนค้างชำระเงินบัตรเครดิตอยู่ 36,000 บาท
ทั้งนี้ ตนได้ยืนยันไปว่า ได้ใช้บัตรเครดิตซื้อ และกดเงินสดไปรวมกว่า 30,000 บาทจริง แต่ตนไม่ได้ใช้บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย และไม่เคยเป็นหนี้บัตรเครดิต แต่ทางปลายสายยังพูดจาหว่านล้อม เพื่อให้ตนบอกเลขหมายประจำตัวประชาชน ซึ่งเมื่อตนบอกไป ปลายสายก็วางสายไป และบอกว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดต่อกลับมาใหม่
หลังจากนั้น ได้มีผู้ชายบอกว่า ชื่อ ร.ต.ต.อนุรักษ์ พรหมนอก โทรศัพท์เข้ามาหาโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และบอกตนว่า เป็นหนี้บัตรเครดิต ซ้ำยังเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงินด้วย เพราะมีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาห้วยขวาง วันละ 1-2 แสนบาท แม้ตนจะแย้งว่า ไม่เคยเปิดบัญชีสาขาดังกล่าว แต่ปลายสายก็ได้ส่งโทรศัพท์ให้คุยกับผู้ชายที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเช่นกัน โดยบอกว่า ชื่อ พ.ต.ท.สุวิทย์ เที่ยงธรรม ซึ่งชายคนดังกล่าวก็ยังพูดเสียงแข็งกร้าว ว่าตนเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน และยาเสพติด ตนจึงเอะใจว่าจะถูกหลอกลวงอย่างที่เคยมีข่าว จึงยืนยันเสียงแข็งกลับไปบ้างว่า ไม่ได้เกี่ยวข้อง และรู้จักกับนายตำรวจใหญ่ ๆ หลายคน ทำให้ชายคนดังกล่าววางสายไป หลังจากนั้น ตนก็รีบมาแจ้งความ เพราะกลัวแก๊งนี้จะนำชื่อสกุลและหมายเลขประจำตัวประชาชนไปทำสิ่งผิดกฎหมาย
โดยพิธีกรดัง กล่าวต่อว่า จากที่เคยสัมภาษณ์เหยื่อที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวง ตนยังสงสัยเลยว่า ทำไมถึงหลอกลวงกันได้ง่ายขนาดนี้ จนเมื่อมาเจอเองจึงได้รู้ว่า คนกลุ่มนี้ทำงานได้แนบเนียนมาก ถ้าใครกลัวการข่มขู่ ก็คงจะหลวมตัวและสูญเงินได้ง่าย ๆ จึงขอฝากเตือนใครที่มั่นใจว่า ไม่เคยเป็นหนี้บัตรเครดิต และไม่ได้ทำผิดแน่ ๆ อย่าได้ตกใจ และทำตามคำพูดของคนกลุ่มนี้ โดยต้องพยายามตั้งสติ อย่าหลงกล
ด้าน พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึง การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า ได้ข้อสรุปจากที่ประชุมตำรวจอาเซียน รวม 13 ประเทศ ว่า จะทำข้อตกลงระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อร่วมปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะขณะนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดทั่วเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีความทันสมัยในเรื่องของเทคโนโลยี มีการใช้บัตรเครดิตกันอย่างแพร่หลาย โดยทางการข่าวทราบว่า แก๊งเหล่านี้มีศูนย์บัญชาการอยู่ที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งทำกันเป็นเครือข่าย แม้จะมีการจับกุมแก๊งเหล่านี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังแพร่ระบาดอยู่ตลอด
พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวต่อไปว่า จากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะเร่งประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือน ทั้งสื่อโฆษณา ทีวี หนังสื่อพิมพ์ รวมถึงการเคาะบ้านแจ้งเตือน ที่สำคัญฝากเตือนประชาชนด้วย ว่า ไม่มีธนาคารใด หรือหน่วยงานใด ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านทางโทรศัพท์ และหากมีเบอร์แปลกโทรเข้ามาหาในลักษณะดังกล่าว ขอให้มั่นใจได้เลยว่า กำลังจะถูกหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก