เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thaigov
รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เข้าบริหารราชการแผ่นดินกำลังจะผ่านไปอีก 1 ปี แล้ว และสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยในปี 2553 ก็มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นมากมาย ทั้งเรื่องการชุมนุมของกลุ่มคนสีต่าง ๆ จนนำมาสู่การสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เรื่องคดียุบพรรค รวมถึงคดีทางการเมืองอื่น ๆ อีกมากมาย จึงทำให้ไม่รู้ว่า การเมืองของไทยจะกลับเริ่มต้นใหม่เข้าสู่ความสงบเรียบร้อยเหมือนเดิมเมื่อไหร่
อย่างไรก็ตาม ในทุกสิ้นปีหน่วยงาน สื่อมวลชนต่าง ๆ ต่างก็มีการตั้ง ฉายารัฐบาล และ ฉายารัฐมนตรี ประจำปี และในปีนี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ประกอบด้วย นิสิตภาควิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ ได้มีการตั้งฉายาให้กับรัฐบาลเป็นปีแรกเช่นกัน โดยฉายาที่ตั้งมีดังนี้ เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว : ฉายารัฐบาลอภิสิทธิ์
เหตุที่ให้ฉายานี้เนื่องจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เป็นผู้มีอำนาจวาสนา มีทั้งกระบอกปืนและรถถัง รวมถึงบารมีทั้งในและนอกรัฐธรรมนูญที่อยู่เบื้องหลัง ส่วนซีอิ๊วที่นำมาผัดทำให้ส่วนประกอบต่าง ๆ ผัดออกมาแล้วเป็นสีดำด้วยกันหมด เสมือนข่าวคาวความฉ้อฉลของรัฐบาลชุดนี้ ที่เปรอะเปื้อนไปทั่ว แม้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะแสดงตนว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่นใด ๆ แต่การอยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกันก็หลีกเลี่ยงที่จะถูกกล่าวหารวมไปด้วยไม่ได้
นอกจากนี้ ในเส้นใหญ่ผัดซีอิ้ว ยังประกอบด้วยผักสีเขียว ที่เปรียบเหมือนมีกองทัพหนุนหลัง รวมทั้งยังมีไข่ไก่สีเหลือง ที่เปรียบเหมือนกลุ่มพันธมิตรฯ ที่อยู่ฝ่ายเดียวกับรัฐบาล ไม้บรรทัดคู่สู้สิบทิศ : ฉายาตุลาการ
รอบปีที่ผ่านมานี้ สังคมไทยเกิดข้อสงสัยอย่างยิ่งว่า มาตรฐานหรือไม้บรรทัดของตุลาการไทยอาจจะมิได้มีเพียง 1 อัน เห็นได้จากคดียุบพรรคการเมือง ที่นอกจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังไม่มีพรรคใดรอดพ้นการยุบพรรคไปได้ นอกจากนี้ สถาบันตุลาการยังต้องสั่นคลอน เมื่อมีผู้ใช้นามแฝงว่า "OMG3009" เผยแพร่คลิปลับเปิดโปงเรื่องเสีย ๆ หาย ๆ ของตุลาการ ก่อนที่จะมีการไล่บี้ผู้เผยแพร่คลิป แต่ไม่ได้ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นในคลิปนั้นอย่างชัดเจน จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงรอบด้าน และทางตุลาการก็ไม่ได้ออกมาชี้แจง หรือแก้ต่างข้อวิจารณ์เหล่านั้นให้เป็นที่ชัดเจนด้วย สภามวยโลก : ฉายารัฐสภา
รัฐสภาไทยในช่วงเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา เกิดเรื่องวุ่นวายมากมายภายในรัฐสภาอันทรงเกียรติ ทั้งขว้างปารองเท้า ถือรองเท้าจะขว้างใส่อีกฝ่าย ทะเลาะเบาะแว้งกันด้วยคำพูดที่หยาบคาย พฤติกรรมเหล่านี้ถือไม่เหมาะสม เนื่องจากสภาถือเป็นสถานที่อันทรงเกียรติ แต่ผู้มีเกียรติทั้งหลายกลับทำตัวแย่เสียเอง สะท้อนให้เห็นถึงความไร้อารยธรรม แถมภาพเหล่านั้นยังถ่ายทอดออกไปสู่สาธารณชน ถือเป็นตัวอย่างที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชน
อิเหนาหุ้มเกราะ : ฉายาพรรคประชาธิปัตย์
ตอนเป็นฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์ก็วิจารณ์รัฐบาลพรรคไทยรักไทย ตลอดจนพรรคพลังประชาชน เกี่ยวกับนโยบายประชานิยมซื้อใจประชาชน มาปีนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็ทำนโยบายประชานิยมซะเอง ทั้งการทุจริตคอรัปชั่น ตลอดจนการตัดสินใจดำเนินการต่าง ๆ ต่อผู้ชุมนุมที่มาชุมนุมขับไล่รัฐบาล นำไปสู่การใช้เจ้าหน้าที่ปราบปรามผู้ชุมนุมเฉกเช่นรัฐบาลชุดเก่า จึงเข้าทำนอง "ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง"
นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็น "อิเหนาหุ้มเกราะ" เนื่องจากมีเกราะของ "กองทัพ" คอยปกป้องอยู่อย่างแน่นหนา ห้อยเนรวิน : ฉายาพรรคภูมิใจไทย
หากพูดถึงพรรคภูมิใจไทย หลายคนต้องนึกถึงนายเนวิน ชิดชอบ ก่อนหน้า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคซะอีก เนื่องจากตลอดเกือบ 1 ปี นายเนวิน ถือมีบทบาทที่สำคัญของพรรคมาก บวกกับนายเนวิน ซึ่งปากห้อย ๆ พยายามจะเข้ามามีบทบาทในงานพิธีสำคัญ ๆ เกี่ยวข้องกับสถาบันเบื้องสูงหลายงาน ภายใต้วาทกรรมการปกป้องสถาบัน จนดูเหมือนว่าจะจงใจห้อยโหนฟ้าอย่างเอาจริงเอาจัง
ส่วนตัว "ร" ที่แทรกอยู่ระหว่างคำว่า "เนวิน" นั้น มาจากชื่อ "กรุณา ชิดชอบ" ภรรยาของเนวิน และเป็นผู้มากบารมีคนสำคัญอันดับ 2 ของพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้มาจากคำว่า "เนรคุณ" แต่อย่างใด
พรรคเพื่อไทย : ฉายาพรรคเพื่อใคร?
ตลอดการตั้งพรรคเพื่อไทย จะเห็นว่ามีข่าวของ นายใหญ่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่เบื้องหลังอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ก็ต้องผ่านนายใหญ่ก่อน รวมถึงนโยบาย การหาเสียงเลือกตั้งต่าง ๆ พรรคเพื่อไทยก็อ้างว่า เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งนั้น โดยเฉพาะนโยบายหลัก "พาทักษิณกลับบ้าน" ที่ใช้หาเสียงในภาคเหนือและภาคอีสาน ส่วนนโยบายเพื่อประชาชนเป็นนโยบายรองลงไป จึงเกิดคำถามว่า พรรคการเมืองนี้ เป็น "พรรคเพื่อใคร?" กันแน่ สากกะเบือดิน : ฉายาองค์กรอิสระ
องค์กรอิสระ ทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีผลงานที่ไม่ค่อยเด่นชัดสักเท่าไหร่ ทั้ง ๆ ที่มีอำนาจ แต่กลับทำอะไรไม่ได้ และในบางคดีก็ยังดองเค็มไว้จนหมดอายุความ ด้วยลักษณะนี้ทำให้องค์กรอิสระหลาย ๆ แห่ง เปรียบเหมือน "สากกะเบือที่ทำจากดิน" เพราะไม่สามารถตำอะไรได้เลยสักอย่าง แต่หากดันทุรังตำเข้าไป ก็รังแต่จะทำให้ตัวเองแหลกเป็นผุยผง
เช่นเดียวกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ที่สร้างความหวังเรื่อง 3G ให้ประชาชน แต่สุดท้ายการประมูลก็ถูกระงับไป เพราะข้อปฏิบัติไม่เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่มีผู้ทรงคุณวุฒิเป็นจำนวนมาก กลับไม่สามารถตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการตรวจสอบการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บล้มตามเป็นจำนวนมาก ทัพไทยหมื่นล้านประสานงานปราบม็อบ : ฉายากองทัพ
หน้าที่ของกองทัพไทยมีหลายอย่าง ทั้ง การแก้ไขปัญหาแนวชายแดนไทยกัมพูชา การแก้ไขสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ 1 ปีที่ผ่านมา ผลงานเด่นที่ผ่านมาของกองทัพเห็นชัดเจนสุดเห็นจะเป็นการคุ้มครองรัฐบาลชุดนี้ รวมถึงการเทงบประมาณให้กับการซื้อขายอาวุธต่าง ๆ รวมถึงการใช้กองกำลังในการสกัดการชุมนุม กระชับวงล้อมเพื่อขอคืนพื้นที่ แม้จะมีภารกิจหลักของกองทัพอีกจำนวนมากรออยู่
ขณะเดียวกัน กองทัพก็ยังมีเรื่องชวนสงสัยเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์มาใช้มากมาย ทั้งการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 การจัดซื้อฝูงเรือเหาะ รวมถึงรถหุ้มเกราะ ที่ทุ่มงบจำนวนมหาศาล เพื่อนำมาใช้ปราบม็อบโดยแท้ จึงไม่แปลกที่จะมอบฉายานี้ให้กับกองทัพ
สำนักงานตำรวจขูดรีด (สตข.) : ฉายาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)
นอกจากประชาชนจะไม่ค่อยได้รับการบริการที่ดีจากตำรวจแล้ว หลายต่อหลายครั้งที่เราเห็นข่าวเกี่ยวกับตำรวจในทางไม่ดี ทั้งการรีดไถ การตั้งด่านลอย การค้ามนุษย์ และการเรียกรับผลประโยชน์ต่าง ๆ วิ่งเต้นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ด้วยเหตุนี้จำทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ฉายาดังกล่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก