เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง3
ในสังคมปัจจุบัน มีภัยร้ายใกล้ตัวมากมาย โดยมิจฉาชีพนั้นจะแฝงตัวมาหลอกลวงในหลายรูปแบบ โดยใช้วิธีการแตกต่างกันไป และวิธีหนึ่งที่หลายคนตกเป็นเหยื่อได้ง่าย และพบบ่อย ๆ นั้นก็คือการมอมยา
ล่าสุดเกิดเหตุมิจฉาชีพได้แฝงตัวในคราบเพื่อนร่วมทาง มอมยาผู้โดยสารรถทัวร์ ซึ่ง นายจิรวัฒน์ จีระวัฒนพิสิทธิ์ ผู้เสียหายรายล่าสุด เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาจากกรุงเทพฯ กำลังมุ่งหน้าไปยังจังหวัดอุดรธานี ในระหว่างทางนั้นชายข้าง ๆ ที่นั่งด้วยกัน พยายามตีสนิท จนตนตายใจ และเมื่อถึงสถานีจังหวัดนครราชสีมา ชายผู้นั้นได้ลงไปซื้อน้ำส้มแล้วผสมยานอนหลับและนำมาให้กิน หลังจากนั้นตนก็หลับ รู้สึกตัวอีกทีเมื่อเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ด้วยอาการมึนงง และพบว่าทรัพย์สินที่ติดตัวได้หายไป คือ สร้อยคอทองคำ 2 บาท พระเลี่ยมทอง 3 องค์ โทรศัพท์มือถือ เงินสดหนึ่งหมื่นบาท และบัตรเอทีเอ็มสองใบ โดยได้ตรวจสอบกับธนาคาร พบว่าเงินในธนาคารหายไป 150,000 บาท จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อจับกุมคนร้าย
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบไปยังธนาคารที่คนร้ายกดเงินออกไป พร้อมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวการใช้โทรศัพท์ของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายขโมยไป จนสามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ ทราบชื่อ คือ นายเอกภูมิ จันทนะโพธิ อายุ 57 ปี โดยตำรวจได้บุกจับผู้ต้องหา ในบ้านเช่าแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดร้อยเอ็ด จากการตรวจค้นภายในห้องนอนของคนร้ายได้พบ ปืนพกสั้น ซึ่งเป็นปืนปลอม 3 กระบอก โทรศัพท์มือถือรวมถึงของผู้เสียหายด้วย 20 เครื่อง พระเครื่องประมาณ 100 องค์ สมุดบัญชี 2 เล่ม และกระเป๋ามีบัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย 2 ใบ ทองรูปพรรณน้ำหนักเส้นละ 2 บาท จำนวน 3 เส้น และยานอนหลับสีชมพูจำนวน 10 เม็ด
ขณะที่ นายเอกภูมิ กล่าวยอมรับว่า ที่ต้องก่อเหตุเช่นนี้เพราะติดการพนันฟุตบอล ถูกทวงหนี้ ตนจึงก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งได้ทำลักษณะเช่นนี้มา 15 ครั้ง โดยเลือกเหยื่อที่เป็นชายสูงอายุ และชาวต่างชาติ และเลือกเหยื่อที่โดยสารในเวลากลางคืน วิธีการคือตนจะเข้าไปตีสนิทเหยื่อ หลังจากนั้นก็จะซื้อน้ำ เครื่องดื่มแล้วผสมยานอนหลับให้เหยื่อกิน โดยเรื่องยานอนหลับตนมีความรู้เป็นอย่างดี เพราะเคยเป็นบุรุษพยาบาลมาก่อน ส่วนรหัสบัตรเอทีเอ็มของเหยื่อนั้น ตนใช้วิธีการสุ่มเอา โดยใช้วัน เดือน ปี ของเหยื่อลองกด และก็กดได้จริง ๆ
จากเหตุการณ์ครั้งนี้...เตือนให้เรารู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน หรือ ต้องพบปะพูดคุยกับใคร อยากให้ทุกคนต้องระวังตัวกันให้มากขึ้น อย่าเชื่อและไว้ใจใครง่าย ๆ และที่สำคัญพยายามอย่าตั้งรหัสบัตรเอทีเอ็มตาม วัน เดือน ปี เกิด เพราะไม่งั้นคุณอาจตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว