สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยโพสต์
ญาติร่ำไห้รับศพเหยื่อทัวร์มรณะแล้ว ก่อนเคลื่อนย้ายศพไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาที่ภูมิลำเนา ด้านบริษัททัวร์ จัดรถกู้ภัยบริการอำนวยความสะดวกญาติในการเดินทาง ขณะที่กระทรวงต่างประเทศ ให้ความช่วยเหลือผู้สูญเสีย จากทัวร์มรณะ 25 ศพเต็มที่
ที่ท่าอากาศยานทหาร บน.6 เครื่องบินทหาร ซี130 ลำแรกที่เคลื่อนย้ายผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ญาติ และเจ้าหน้าที่ ที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย มาลงที่ท่าอากาศยานทหาร บน.6 แล้ว ขณะที่เครื่องบินลำที่ 2 ได้ลงแตะพื้นสนามบินเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน โดยภายหลังบรรดาญาติผู้ที่ได้รับบาดเจ็บพบหน้ากัน ต่างโผกอดกันร่ำไห้ ทั้งนี้ในส่วนของญาติผู้เสียชีวิต ต่างทยอยรับศพที่ถูกลำเลียงเคลื่อนย้ายออกมาจากเครื่องบินทหาร ซี130 ด้วยอาการเศร้าโศกเสียใจ ต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ทั้งนี้ญาติจะนำร่างที่ไร้วิญญาณ โดยสารรถยนต์ของมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งทางบริษัททัวร์ท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุดังกล่าว ประสานมาเพื่อขอความช่วยเหลือในการขนเคลื่อนย้ายศพ เพื่อไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาในภูมิลำเนาบ้านเกิดต่อไป
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีการ เคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ จากกรณีรถทัวร์นักท่องเที่ยวชาวไทย ที่ประสบอุบัติเหตุในประเทศมาเลเซีย ว่า สาเหตุที่เครื่องมาล่าช้า เนื่องจาก ต้องมีการประกอบพิธีทางศาสนา และต้องใช้ความระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายศพ
ส่วนจำนวนของผู้ได้รับบาดเจ็บที่เดินทางมากับเครื่อง C130 มีเพียงคนเดียว ส่วนผู้บาดเจ็บ 6 คน ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้ 2 ใน 6 คน ยังต้องรักษาตัวอยู่ในห้อง ไอ.ซี.ยู. ส่วนผู้บาดเจ็บที่เหลืออีก 4 คน ได้เคลื่อนย้ายโดยรถยนต์ผ่านเข้าประเทศ เนื่องจากมีอาการสาหัส ไม่สามารถเคลื่อนย้ายผ่านโดยเครื่องบินได้ ทั้งนี้ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศและบริษัททัวร์ จะรับผิดชอบดูแลช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวและที่พักของญาติ
ความคืบหน้า ข่าว รถคว่ำที่มาเลเซีย 22 ธ.ค.2553
โรงพยาบาลมาเลย์ บรรจุศพชาวไทย 25 ศพ ใส่โลง เตรียมส่งกลับไทยโดยเครื่องเครื่องบิน C130 ของกองทัพอากาศ
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2553 เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอิโป ประเทศมาเลเซีย ได้ทำการบรรจุร่างผู้เสียชีวิตชาวไทยทั้ง 25 ศพ จากเหตุการณ์รถทัวร์นำเที่ยวพลิกคว่ำ ใส่โลง เพื่อรอส่งกลับประเทศไทยในวันนี้ โดยเครื่องบิน C130 ของกองทัพอากาศไทย จำนวน 2 ลำ ที่จะเดินทางออกจากท่าอากาศยาน บน.6 ในเวลาประมาณ 10.00 น. และคาดว่าจะเดินทางกลับถึงไทยในเวลา 17.00 น.
ทั้งนี้ มีรายงานว่าผู้บาดเจ็บชาวไทย 5 คน ที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ต้องการย้ายกลับมารักษาต่อในประเทศไทยด้วย แต่แพทย์ยังอยากให้พักรอดูอาการอีกสักระยะ โดยในจำนวนนี้มีผู้ป่วยไอซียู 2 คน
ด้านนายธานี ทองภักดี รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกรณีการเกิดอุบัติเหตุ รถทัวร์นำเที่ยวพลิกคว่ำในประเทศมาเลเซีย ว่าจากการตรวจสอบ พบว่าทัวร์คันดังกล่าวนั้นเป็นรถทัวร์ท่องเที่ยว เดินทางจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อไปยัง ประเทศมาเลเซียและเมื่อเข้ามาถึงรัฐเประ ประเทศมาเลเซีย ได้เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ โดยรถคันดังกล่าวนั้น มีผู้โดยสารเดินทางท่องเที่ยวทั้งหมด 34 คน และข้อมูลล่าสุดยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 28 คน เป็นคนไทย 25 คน และชาวมาเลเซีย 3 คน
สำหรับรายชื่อผู้ประสบอุบัติเหตุรถบัส ที่ คาเมรอน ไฮแลนด์ ประกอบด้วย
1. โอมาร์ ชาฮิดาน อายุ 48 ปี
2. ฉกาจ นาคสุวรรณ อายุ 48 ปี
3. ธันวรัตน์ พูลแสง อายุ 36 ปี
4. นัตติยา อินยิ้ม อายุ 50 ปี
5. พูนพร พูลเสน อายุ 41 ปี
6. สำรวย สวาทเพชร อายุ 48 ปี
7. ภูธารี อัครราชเชาวนนท์ อายุ 42 ปี
8. พลธเนศ อัครราชเชาวนนท์ อายุ 45 ปี
9. สุชานิดา ไชยเอื้อ อายุ 40 ปี
10. ศรีวัย สวาทเพชร อายุ 22 ปี
11. ปริญญา ปราศสกุลชัย อายุ 48 ปี
12. ชุตินา ทุรกุล อายุ 25 ปี
13. ฐิติศักดิ์ พงศ์ธนรัตน์ วัยอายุ 51 ปี
14. จันทร์เพ็ญ พงษ์ธรรัฐ อายุ 51 ปี
15. ประยงค์ ครัวจินลี อายุ 49 ปี
16. เอกชัย ณ บางช้าง อายุ 64 ปี
17. มณฑนา พรหมดวง อายุ 51 ปี
18. อัมไพวัลย์ เที่ยงธรรม อายุ 50 ปี
19. มะลิวัลย์ เมฆมหาพรหม อายุ 53 ปี
20. อัฉรา วิวัฒน์ อายุ 36 ปี
21. อิสริยา เที่ยงธรรม อายุ 25 ปี
22. สุนทร เคียน อายุ 38ปี
23. รุ้ง ดา อายุ 40 ปี
และยังไม่ระบุชื่อ 2 ราย
ความคืบหน้า ข่าว รถคว่ำที่มาเลเซีย 21 ธ.ค.2553
ด้าน นายไฟรัส อาห์หมัด กงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำรัฐลังกาวี เผยมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 28 คนจากอุบัติเหตุรถบัสนักท่องเที่ยวพลิกคว่ำที่รัฐเประ ของมาเลเซียเป็นคนไทยทั้งหมด โดยมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 22 คน อีก 4 คนเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล และอีก 2 คนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยมีชาวมาเลเซียที่เสียชีวิต 3 คน คือ คนขับรถ, ผู้ช่วยคนขับ และมัคคุเทศก์ สำหรับผู้บาดเจ็บ พักรักษาตัวอยู่ที่ ร.พ.อิโปห์ รัฐเประ โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงร่วมดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ทางการมาเลเซีย กำลังทำการพิสูจน์ เอกลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิต ในจำนวนนี้ มี 6 ราย ที่ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้ร่วมในการตรวจสอบด้วย ในส่วนผู้เสียชีวิตสถานทูตไทย จะออกใบมรณะบัตร ก่อนจะส่งศพกลับประเทศไทย ส่วนการช่วยเหลือชดเชยให้ผู้ประสบเหตุ ทราบว่า บริษัททัวร์มีการจัดทำประกันอุบัติเหตุ ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งหมด
ล่าสุดมีรายงานเข้ามาว่า กระทรวงการต่างประเทศ จะนำเครื่องบิน C-130 ไปรับ 25 ศพคนไทย กลับมาตุภูมิในวันพรุ่งนี้ ในเวลา 08.00 น. ที่กองบิน 6 หรือ บน.6 ดอนเมือง โดยมี น.ส.มธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล, เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ และแพทย์ร่วมเดินทางไปด้วย โดยอนุญาตให้ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บร่วมเดินทางไปด้วยรายละ 1 คน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมการกงศุล หมายเลข 02-575-1747-51
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนถนนจาลัน ซิมปัง ปูไล-กัมปุง ราชา เมื่อเวลา 11 โมงครึ่ง (ตามเวลาท้องถิ่น) หลังรถหมายเลขทะเบียน AFX 2266 จดทะเบียนในรัฐเประ ได้วิ่งลงมาจากเขาคาเมรอน ไฮแลนด์ ขณะมุ่งหน้ามายังกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อนำนักท่องเที่ยวไปขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทย แต่เกิดเสียหลักที่บริเวณโค้งหักศอก ก่อนที่จะพุ่งชนเข้ากับแนวคอนกรีตกลางถนน และพุ่งไปยังอีกฝั่งถนนบริเวณเนินเขา ทำให้หลังคารถพังเสียหายยับเยิน จนมีผู้เสียชีวิต 28 ราย ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สันนิษฐานว่า สาเหตุอาจเกิดจากรถวิ่งด้วยความเร็วสูง หรือ เบรกแตก
ด้าน ซอร์ เอ็ง ฮ็อก กรรมการผู้จัดการบริษัททัวร์ ซัน เอ็กซ์เพรส ฮอลิเดย์ ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกตกใจมากต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และจะรีบกลับมาเลเซีย เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้น และจะดำเนินการหารือเรื่องจัดสรรเงินชดเชยแก่ผู้เคราะห์ร้าย
ความคืบหน้า ข่าว รถคว่ำที่มาเลเซีย 20 ธ.ค.2553
ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สงขลา รายงานว่า กรณีการเกิดอุบัติเหตุ รถทัวร์นำเที่ยวพลิกคว่ำในประเทศมาเลเซียในวันนี้นั้น เป็นของบริษัทนำเที่ยวชื่อ ซัน เอกเพรส ฮอลิเดย์ (San Express Holiday) โดยมีสำนักงานอยู่ที่รัฐเคดาร์ (Kedah) ประเทศมาเลเซีย และมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย โดยคณะทัวร์กรุ๊ปนี้เดินทางมาจากกรุงเทพ แล้วมาต่อทัวร์ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยทั้งคณะซื้อ ทัวร์ชุด หาดใหญ่ - เก็นติ้ง - กัวลาลัมเปอร์- คาเมร่อนไฮแลนด์ แบบ 3 วัน-2 คืน และขณะที่เกิดเหตุอยู่ในช่วงวันที่ 3 ของทัวร์ ซึ่งเป็นที่เที่ยวสุดท้าย ก่อนจะเดินทางไปยังด่านสะเดา-จังโหลน เพื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองของไทยและมาเลเซียตามระเบียบ แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน
ทั้งนี้มีรายงานต่อว่ารถบัสคันดังกล่าวได้มีการดัดแปลง จากเดิมที่รองรับผู้โดยสารได้ 38 ที่นั่ง แต่มาต่อเติมให้กลายเป็น รถ 2 ชั้น รอรับผู้โดยสารได้ 50 ที่นั่ง
