เบี้ยวจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ส่อชวดกู้เงิน



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


          เครดิตบูโรเตรียมใช้ระบบคะแนนเครดิต ประเมินความเสี่ยงผู้ขอสินเชื่อ ดีเดย์เมษายนนี้ พร้อมเตรียมชงรัฐออกกฎหมายเก็บประวัติชำระค่าน้ำ-ค่าไฟผู้ขอสินเชื่อ หากพบไม่ยอมจ่าย อาจชวดกู้เงิน

          วานนี้ (26 มกราคม) นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร กล่าวว่า ในปี 2553 ที่ผ่านมา สินเชื่อมีการขยายตัวเป็นจำนวนมาก โดยพบว่า สถาบันการเงินขอใช้ข้อมูลประกอบการพิจารณาสินเชื่อประมาณ 16 ล้านบัญชี เพิ่มจากปี 2552 ซึ่งมีอยู่ 13 ล้านบัญชี และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในปี 2554 นี้

          ทั้งนี้ ในปีนี้ เครดิตบูโรเตรียมนำระบบคะแนนเครดิต (Credit Scoring) เข้ามาประเมินความเสี่ยงของผู้ขอสินเชื่อ โดยจะเริ่มใช้ในเดือนเมษายนนี้ เพื่อให้ความสำคัญกับลูกค้าที่มีวินัยทางการเงินดี เช่น หากลูกค้ารายใดประเมินแล้วมีคะแนนดี อาจจะได้รับการลดดอกเบี้ยจากธนาคาร และปล่อยสินเชื่อได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า จะสามารถป้องกันการเกิดปัญหาฟองสบู่ได้อีกทาง เพราะมีการตรวจสอบที่รอบคอบมากขึ้น

          นายสุรพล กล่าวต่อว่า นอกจากเรื่องการนำระบบคะแนนเครดิตมาใช้แล้ว ขณะนี้เครดิตบูโรกำลังระดมความคิดเห็น ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเครดิตบูโรใหม่ โดยเตรียมจะจัดเก็บประวัติการชำระค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ของผู้ขอสินเชื่อไว้สำหรับพิจารณาการให้สินเชื่อด้วย

          อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บข้อมูลประวัติการชำระค่าสาธารณูปโภคนี้ มีหลายประเทศทั่วโลกจัดทำแล้ว เนื่องจากเห็นว่า หากผู้ขอสินเชื่อไม่ชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ก็สามารถติดค้างการชำระสินเชื่อได้เช่นกัน ส่วนในประเทศไทยจะได้ข้อสรุปในเดือนมิถุนายนนี้ จากนั้นจะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาออกเป็นกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ การเก็บประวัติชำระค่าสาธารณูปโภค ยังมีผลต่อการประเมินการจัดอันดับความน่าลงทุน และความยากง่ายในการเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยของธนาคารโลกอีกด้วย




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เบี้ยวจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ส่อชวดกู้เงิน อัปเดตล่าสุด 27 มกราคม 2554 เวลา 17:00:31 10,509 อ่าน
TOP
x close