เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้
ทางการฟิลิปปินส์เตือนประชาชนเลิกกินตุ๊กแกรักษาโรค ระบุอาจทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงตายมากขึ้น พร้อมคาดโทษคนจับตุ๊กแกขาย
เคยเป็นข่าวฮือฮามาตั้งแต่ต้นปี สำหรับกรณีที่มีชาวบ้านในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแห่จับตุ๊กแกไปขายให้ชาวมาเลเซียที่เข้ามากว้านซื้อตุ๊กแกในประเทศไทยจำนวนมาก แถมยังให้ราคาสูงถึงหลักแสน หลักล้าน ด้วยความเชื่อที่ว่า ตุ๊กแกเหล่านี้จะสามารถนำไปสกัดเป็นยารักษาโรคเอดส์ โรคหอบหืด หรือยาเสริมสมรรถภาพทางเพศได้ แม้จะยังไม่มีแพทย์แขนงใดออกมาให้การรับรองก็ตาม
ล่าสุด เรื่องการจับตุ๊กแกยังได้ระบาดไปถึงประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีรายงานว่า ขณะนี้ชาวฟิลิปปินส์แห่จับตุ๊กแกส่งออกไปขายยังประเทศมาเลเซีย ประเทศจีน และประเทศเกาหลีใต้ เป็นจำนวนมาก สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ร้อนถึงกระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ต้องออกมาเตือนประชาชนว่า การนำตุ๊กแกมาใช้รักษาโรคเอดส์ตามความเชื่อของชาวเอเชียในหลายพื้นที่ อาจทำให้ผู้ป่วยได้รับอันตราย
โดยกระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ ระบุในคำเตือนว่า การใช้ตุ๊กแกรักษาโรคไม่ได้อยู่บนหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งอาจส่งผลร้ายต่อผู้ป่วย ทำให้อาการป่วยเลวร้ายลงมากกว่า เพราะไม่ได้รับการรักษาตามแบบแผน ทั้งนี้ สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืด ปัจจุบันก็มียาที่รักษาได้แล้ว เช่นเดียวกับยาแอนตี้ไวรัสของผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี
ขณะที่นายรามอน ปาเจ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของฟิลิปปินส์ ออกมากล่าวว่า ผู้ที่จับและค้าตุ๊กแกโดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดจำคุก 4 ปี และปรับเงินอีก 3 แสนเปโซ (ประมาณ 207,000 บาท) เพราะตุ๊กแกเป็นสัตว์ที่ช่วยกำจัดแมลง ซึ่งเป็นการรักษาความสมดุลระบบนิเวศ ดังนั้นทางการจึงจำเป็นต้องคงประชากรตุ๊กแกเอาไว้ ไม่ให้ถูกคนจับเอาไปขายเสียหมด
[19 พฤษภาคม] เตือนอย่าตื่นข่าวตุ๊กแกรักษาเอดส์ แพทย์ยันไม่จริง
เตือนอย่าตื่นข่าวตุ๊กแกรักษาเอดส์ แพทย์ยันยังไม่มีผลงานวิจัยที่รับรองในเรื่องนี้ ขืนเชื่อคนง่ายจะเสียเงินเปล่าประโยชน์ เพราะมีการปั่นราคาตุ๊กแกสูงลิ่ว
นพ.สุวรรณ ชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ กรณีมีข่าวการรับซื้อตุ๊กแกไปสกัดเป็นยารักษาโรคเอดส์ ว่าปัจจุบันมีข่าวลือทางอินเทอร์เน็ตหลายอย่างเกี่ยวกับตุ๊กแก ทั้งเรื่องความเชื่อ และสรรพคุณในการรักษาโรค การรักษาโรคเอดส์ด้วยตุ๊กแกก็เป็นส่วนหนึ่งในข่าวลือนี้ แต่จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่าในปัจจุบันยังไม่มีผลงานวิจัยที่ สามารถยืนยันได้ว่าตุ๊กแกสามารถรักษาโรคเอดส์ได้จริงหรือไม่
ด้าน พญ.พัชรา ศิริวงศ์รังสรร ผู้อำนวยการสำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กล่าวว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเตรียมยารักษาโรคเอดส์ที่ ได้มาตรฐานไว้บริการผู้ป่วยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งในสูตรที่ดื้อยา และสูตรที่ไม่ดื้อยา ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพดี นอกจากนี้การรักษาโรคดังกล่าวยังมีการศึกษาวิจัยหลายด้าน ทั้งการใช้ยาสมุนไพร การใช้สเต็มเซลล์
ซึ่งการทดลองจะต้องผ่าน 3 ขั้นตอนคือ
1.หลอดทดลอง
2.ทดลองกับสัตว์ทดลอง
3.ทดลองกับคน
ที่ผ่านมาพบว่าเมื่อถึงขั้นการทดลองในคนจะไม่ค่อยได้ผล หรือได้ผลเพียงแค่ 30 %
"ส่วนการใช้ตุ๊กแกมารักษาโรคทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์มายืนยันนั้น อาจจะทำให้ผู้บริโภคเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ เพราะปัจจุบันพบว่าทำให้ตุ๊กแกมีราคาสูง นอกจากนี้อาจจะได้รับสารปนเปื้อนอื่น ๆ ตามมาด้วย" พญ.พัชรา กล่าว
[18 พฤษภาคม] ตะลึง! ตุ๊กแกเงินล้าน คนแห่เข้าป่าจับขาย
นักแสวงโชคแห่เข้าป่าจับตุ๊กแก หลังนายทุนต่างชาติเข้ามารับซื้อให้ราคาสูงถึงตัวละสิบล้าน
กลายเป็นอาชีพใหม่ของชาวบ้านในหลาย ๆ จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดอุบลราชธานีไปแล้ว หลังจากมีกระแสข่าวว่า มีนายทุนจากประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ยินดีจ่ายเงินหลักล้านเพื่อรับซื้อตุ๊กแกไปทำยา จึงทำให้ชาวบ้านแห่เข้าป่าเพื่อแสวงหาโชคกันเป็นแถว
โดยรายงานข่าวระบุว่า นายทุนจากต่างประเทศอ้างว่า จะนำตุ๊กแกเหล่านี้ไปสกัดเอาเซลล์มาทำยาต้านโรคมะเร็งและโรคเอดส์ จึงยินดีรับซื้อตุ๊กแกในราคาสูงมาก โดยราคาแตกต่างกันตามขนาดและน้ำหนักของตุ๊กแก คือ ตุ๊กแกที่หนัก 5 ขีดขึ้นไป มีค่าสูงถึงตัวละ 10 ล้านบาท ส่วนขนาด 4.2 ขีดขึ้นไป หรือความยาว 20 นิ้วขึ้นไป มีราคาถึงหลักล้าน ขณะที่ตุ๊กแกที่ราคาต่ำกว่า 4 ขีด ยังมีราคาถึงหลักแสน ส่วนตัวเล็ก ๆ จะมีราคาราวหลักพันหรือหลักหมื่น
และด้วยราคาที่สูงขนาดนี้เอง จึงทำให้ชาวบ้านในหลาย ๆ พื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานีพากันตระเวนเข้าไปเสี่ยงโชคในป่า โดยระบุว่า หากจับตุ๊กแกตัวใหญ่ ๆ ได้ก็เหมือนกับถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลใหญ่เลยทีเดียว หรือหากจับได้ตัวเล็ก ๆ ก็เหมือนถูกรางวัลเลขท้าย อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีชาวบ้านจับตุ๊กแกไปขายจนสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจำนวนมาก
ทั้งนี้ เจ้าของร้านรับซื้อของเก่ารายหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี เผยว่า ได้มีพ่อค้าจากนอกพื้นที่หลายรายมาติดต่อให้ช่วยรับซื้อตุ๊กแกบ้าน และตุ๊กแกป่า ซึ่งหากใครจับได้จำนวนมาก ๆ จะมีนายทุนเดินทางไปรับซื้อถึงบ้าน ยกเว้นตุ๊กแกที่ตัวละ 4 ขีดขึ้นไป หากเจอเพียงแค่ตัวเดียว นายทุนก็จะเดินทางไปรับซื้อถึงบ้านทันที แต่ต้องถ่ายรูปมาให้ดูก่อน อย่างไรก็ตาม ตุ๊กแกที่มีขนาด 4 ขีดขึ้นไปถือว่าหายากมาก หรือหากเจอตุ๊กแกตัวเล็กแต่นำมาเลี้ยงต่อก็คงไม่สามารถทำให้มันตัวใหญ่ขึ้นได้ ดังนั้นแล้ว ตุ๊กแกที่มีน้ำหนักมากส่วนใหญ่เป็นตุ๊กแกป่า และต้องเสาะแสวงหาจริง ๆ จึงจะพบ ทำให้มันมีราคาสูงถึงหลักล้าน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
รายการเรื่องเล่าเช้านี้ 
