
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
คดีจบลงด้วยดี อัยการสั่งยกฟ้องพระเอกชื่อดัง ติ๊ก เจษฎาภรณ์ กรณีบุกรุกป่าภูคิ้ง ชี้มีเจตนาดีร่วมกันป้องกันรักษ์ป่าและอยากให้เป็นบทเรียนร่วมกันไป
จากข่าวที่กรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จำต้องสั่งดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับรายการ "เนวิกเกเตอร์" และพิธีกรพระเอกชื่อดัง ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ที่อ้างว่ามีการแจ้งขออนุญาตเข้าไปทำรายการในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว (ทุ่งกะมัง) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ อย่างถูกต้อง แต่มีการกระทำผิดฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานที่อนุญาตให้ทางรายการเข้าไปถ่ายทำได้บางส่วนนั้น ทำให้กรมอุทยานแห่งชาติ มีหนังสือด่วนถึงช่อง 3 ให้งดออกอากาศรายการเนวิเกเตอร์ตอนขึ้นภูคิ้ง ในวันที่ 18 กรกฎาคมไว้ก่อน ตามที่ได้เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.ท.ศรายุทธ ดาวแจ้ง ตำรวจเจ้าของคดี ได้เรียกหนุ่มติ๊ก มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา รวมถึงทีมงานเนวิเกเตอร์ที่เป็นพยานในคดีนี้มาร่วมให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว จึงได้ทำการสรุปสำนวนคดี ขอยื่นพยานหลักฐานเพื่อส่งฟ้องต่อเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการยื่นฟ้องคดีนี้ต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายผู้แจ้งตัวแทนกรมอุทยานแห่งชาติฯ รวมทั้งอัยการจังหวัดชัยภูมิ ได้มีความเห็นตรงกัน โดยไม่สั่งฟ้องพระเอกดัง และรายการเนวิเกเตอร์ เนื่องจากเห็นว่า ต่างฝ่ายก็ต่างมีเจตนาที่ดีร่วมกันป้องกันรักษาป่าและอยากให้เป็นกรณีศึกษา เป็นบทเรียนร่วมกัน เพราะคดีนี้ถือเป็นคดีที่สามารถพูดคุยเจรจากันได้และทั้งสองผ่ายก็ไม่เอาความกันแล้ว จึงถือว่าปิดคดีนี้ลงด้วยดี
ด้าน ดร.กาญจนา นิตยะ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ได้ให้ความเห็นในกรณียกฟ้องนี้ว่า เป็นไปตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่หลาย ๆ ฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน พร้อมทั้งบอกว่า ถ้าหากจะเอาผิดก็คงทำได้ ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน แต่ก็เข้าใจว่า ทางหนุ่มติ๊กเองอาจไม่ได้มีเจตนาไปในแง่นั้น ต่อจากนี้ไป ก็อยากจะให้ทุกคนได้ตระหนักร่วมกันว่า อะไรควรหรือไม่ควรทำ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีร่วมกันสืบไป
ส่วน น.ส.พิมพ์สิริ ผลดี อาและผู้จัดการส่วนตัวของ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ก็ได้ออกมากล่าวว่า ในวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมานี้ ก็ไม่ได้นำเทปรายการ ตอนภูคิ้ง ออกอากาศแต่อย่างใด เพราะไม่อยากให้มีปัญหา และขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าจะเอาออกอากาศเมื่อใด เพราะก็เห็นว่าเรื่องจบลงด้วยดีแล้ว จึงไม่อยากให้มีปัญหาขึ้นมาอีก
คดีจบลงด้วยดี อัยการสั่งยกฟ้องพระเอกชื่อดัง ติ๊ก เจษฎาภรณ์ กรณีบุกรุกป่าภูคิ้ง ชี้มีเจตนาดีร่วมกันป้องกันรักษ์ป่าและอยากให้เป็นบทเรียนร่วมกันไป
จากข่าวที่กรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จำต้องสั่งดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับรายการ "เนวิกเกเตอร์" และพิธีกรพระเอกชื่อดัง ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ที่อ้างว่ามีการแจ้งขออนุญาตเข้าไปทำรายการในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว (ทุ่งกะมัง) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ อย่างถูกต้อง แต่มีการกระทำผิดฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานที่อนุญาตให้ทางรายการเข้าไปถ่ายทำได้บางส่วนนั้น ทำให้กรมอุทยานแห่งชาติ มีหนังสือด่วนถึงช่อง 3 ให้งดออกอากาศรายการเนวิเกเตอร์ตอนขึ้นภูคิ้ง ในวันที่ 18 กรกฎาคมไว้ก่อน ตามที่ได้เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.ท.ศรายุทธ ดาวแจ้ง ตำรวจเจ้าของคดี ได้เรียกหนุ่มติ๊ก มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา รวมถึงทีมงานเนวิเกเตอร์ที่เป็นพยานในคดีนี้มาร่วมให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว จึงได้ทำการสรุปสำนวนคดี ขอยื่นพยานหลักฐานเพื่อส่งฟ้องต่อเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการยื่นฟ้องคดีนี้ต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายผู้แจ้งตัวแทนกรมอุทยานแห่งชาติฯ รวมทั้งอัยการจังหวัดชัยภูมิ ได้มีความเห็นตรงกัน โดยไม่สั่งฟ้องพระเอกดัง และรายการเนวิเกเตอร์ เนื่องจากเห็นว่า ต่างฝ่ายก็ต่างมีเจตนาที่ดีร่วมกันป้องกันรักษาป่าและอยากให้เป็นกรณีศึกษา เป็นบทเรียนร่วมกัน เพราะคดีนี้ถือเป็นคดีที่สามารถพูดคุยเจรจากันได้และทั้งสองผ่ายก็ไม่เอาความกันแล้ว จึงถือว่าปิดคดีนี้ลงด้วยดี
ด้าน ดร.กาญจนา นิตยะ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ได้ให้ความเห็นในกรณียกฟ้องนี้ว่า เป็นไปตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่หลาย ๆ ฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน พร้อมทั้งบอกว่า ถ้าหากจะเอาผิดก็คงทำได้ ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน แต่ก็เข้าใจว่า ทางหนุ่มติ๊กเองอาจไม่ได้มีเจตนาไปในแง่นั้น ต่อจากนี้ไป ก็อยากจะให้ทุกคนได้ตระหนักร่วมกันว่า อะไรควรหรือไม่ควรทำ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีร่วมกันสืบไป
ส่วน น.ส.พิมพ์สิริ ผลดี อาและผู้จัดการส่วนตัวของ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ก็ได้ออกมากล่าวว่า ในวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมานี้ ก็ไม่ได้นำเทปรายการ ตอนภูคิ้ง ออกอากาศแต่อย่างใด เพราะไม่อยากให้มีปัญหา และขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าจะเอาออกอากาศเมื่อใด เพราะก็เห็นว่าเรื่องจบลงด้วยดีแล้ว จึงไม่อยากให้มีปัญหาขึ้นมาอีก


ภาพตัวหนังสือวิ่ง
[1 สิงหาคม] ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ยันออกอากาศภูคิ้ง แต่ขึ้นตัววิ่งแจง
ติ๊ก ยืนยัน ขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่แล้ว เตรียมนำออกอากาศ 12 สิงหาคม ด้านหัวหน้าเขตรักษาฯ ภูเขียวแจง อนุโลมให้เข้าไปได้เฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น พร้อมประกาศภูคิ้งเป็นพื้นที่ปิด ไม่ให้เข้าหากไม่ได้รับอนุญาต
จากกรณีที่รายการเนวิเกเตอร์ โดยมีนายเจษฏาภรณ์ ผลดี หรือ ติ๊ก เป็นผู้ดำเนินรายการ ยืนยันจะนำภาพการถ่ายทำในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว (ทุ่งกระมัง) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ออกอากาศในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ พร้อมนำเสนอตัวหนังสือวิ่งว่า "ภูคิ้งเป็นพื้นที่ธรรมชาติ ที่มีสภาพเปราะบาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชจึงไม่มีนโยบายเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว" เพราะเจ้าตัวมั่นใจว่าทำเรื่องขออนุญาตอย่างถูกต้องแล้วนั้น
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อเรียกติ๊กเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา คือ ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานและลักลอบเข้าถ่ายทำรายการในพื้นที่ป่าหวงห้าม ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ โดยทางกรมอุทยาน ฯ บอกว่า เป็นคดียอมความไม่ได้ และมีโทษปรับ 500 บาท อย่างไรก็ตาม หนุ่มติ๊ก ก็ได้กล่าวว่า ไม่ได้เข้าไปในจุดหวงห้ามจริง ๆ โดยไปถ่ายทำในจุดที่มองเห็นได้กว้าง ๆ แต่ ดร.กาญจนา วิริยะ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ออกมายืนยันว่าภาพตัวอย่างที่ออกอากาศนั้นเป็นจุดหวงห้ามจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ดร.กาญจนา วิริยะ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ออกมากล่าวว่า พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าถือเป็นพื้นที่ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองป่า ที่ไม่ว่าจะเข้าไปทำการใด ๆ ในพื้นที่นี้ถือว่าผิดกฎหมายทั้งสิ้น ดังนั้นทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ จึงอนุโลมให้เข้าไปได้เฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น ด้วยเพราะทุกพื้นที่นั้นมีความเปราะบางมาก การเข้าไปเหยียบย่ำอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้อาจต้องขอบคุณหนุ่มติ๊กที่ทำให้ได้ดำเนินการให้ประชาชนทั่วไปทราบว่า พื้นที่ภูคิ้งเป็นพื้นที่ปิด จากตัวหนังสือวิ่งที่จะนำออกอากาศ
นอกจากนี้ นายวิชัย นาพัว ประธานชมรมเด็กรักษ์นกท่ามะไฟหวาน จ.ชัยภูมิ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมาตนเคยขอเข้าใช้พื้นที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับนกที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวนั้น ซึ่งการเข้าไปใช้พื้นที่แต่ละครั้ง ต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง หากเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตก็เข้าไปไม่ได้เด็ดขาด
ส่วนเรื่องที่ทางรายการจะนำตัววิ่งบอกข้อความดังกล่าวในระหว่างออกอากาศนั้น นายวิชัยกล่าวว่า จุดภูคิ้งถือว่าเป็นพื้นที่ที่ควรอนุรักษ์ไว้เป็นพื้นที่ศึกษาเท่านั้น ไม่ควรจะนำมานำเสนอต่อสาธารณะ ด้วยเหตุว่าพื้นที่นี้เปราะบางมาก และถือว่าเป็นผืนป่าอนุรักษ์ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เหลืออยู่เพียงที่เดียวเท่านั้น จึงควรช่วยกันรักษา พร้อมทั้งบอกว่า ให้เคารพการตัดสินใจ หรือคำสั่งห้ามของเจ้าหน้าที่ และหากจะเข้าไปศึกษาในพื้นที่ ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้นำเข้าไปใช้พื้นที่ เพราะอาจเข้าไปทำอะไรด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้

ติ๊ก เจษฎาภรณ์

ติ๊ก เจษฎาภรณ์
[30 กรกฎาคม] ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ปัดเจตนารุกป่าถ่ายเนวิเกเตอร์
หนุ่ม "ติ๊ก เจษฎาภรณ์" ปัด กรณีฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ และบุกรุกพื้นที่ป่าภูคิ้ง ถ่ายรายการ พร้อมยัน ไม่มีเจตนาทำลายผืนป่าแน่นอน
เจษฎาภรณ์ ผลดี หรือ ติ๊ก ดารานักแสดงชื่อดัง เปิดเผยกับ สำนักข่าว I.N.N.ว่า จากกรณีหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว (ทุ่งกะมัง) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ได้แจ้งจับในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่และบุกรุกพื้นที่ป่าภูคิ้ง
โดย ติ๊ก เจษฎาภรณ์ กล่าวว่า พื้นที่ภูคิ้งที่ตนขึ้นไปทำรายการ "เนวิเกเตอร์" ได้เข้ามาขอติดต่อเพื่อจะเข้ามาถ่ายทำรายการในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ ป่าภูเขียว (ทุ่งกะมัง) ซึ่งในส่วนทางเขตรักษาพันธุ์ฯ มีโซนพื้นที่อนุโลมให้เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ได้บางส่วนในเขตของสถานีเพาะ พันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขียว และงานด้านวิจัยได้อยู่แล้ว โดยได้มีข้อตกลงในการให้เข้ามาถ่ายทำได้ในบางจุดเท่านั้น โดยมีการเตือนตลอดว่าจุดไหนถ่ายได้ จุดไหนถ่ายไม่ได้ ได้ขออนุญาตแล้ว
ซึ่งบริเวณที่ ติ๊ก ถ่ายทำรายการนั้น ไม่มีเจ้าหน้าที่ห้ามอย่างชัดเจน ตนจึงได้เข้าไปถ่ายทำรายการ โดยพื้นที่บริเวณนั้น ก็มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวขึ้นไปประจำแต่พื้นที่ตรงนั้น มันเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว ทั้งนี้ ติ๊ก กล่าวต่อว่ารู้สึกเศร้าใจว่า สิ่งที่ทำไปเพื่อประโยชน์ต่อประชาชน และต้องการนำเสนอมุมมองหนึ่งของธรรมชาติและพื้นป่าของเราว่าเป็นเช่นไรก็ เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การถ่ายทำรายการในครั้งนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ อนุญาตให้ออกอากาศได้ในวันที่ 12 สิงหาคม นี้ แต่ต้องแก้ไข 2 จุด ที่ไม่เหมาะสม ทั้งนี้จากกรณีดังกล่าว แล้วแต่ดุจพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าจะสรุปออกมาเช่นไร และที่มาออกรายการในวันนี้ เพื่อต้องการจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ และตนก็ยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาอะไรกับพื้นป่าอย่างแน่นอน

ติ๊ก เจษฎาภรณ์
[29 กรกฎาคม] แจ้งจับ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ถ่ายรายการรุกป่าภูคิ้ง
กรมอุทยาน แจ้งจับ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ และทีมงานเนวิเกเตอร์ เหตุฝ่าฝืนเจ้าพนักงาน และถ่ายรายการในป่าภูคิ้งโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากกรณีที่พิธีกรหนุ่มรูปหล่อ "ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี" พร้อมทีมงานรายการ เนวิเกเตอร์ ช่อง 3 ได้ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว และทำผิดข้อตกลงของเจ้าหน้าที่ที่อนุโลมให้ถ่ายทำได้ตามจุดเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ทางทีมงานโดยได้เข้าไปถ่ายในจุดภูคิ้ง ซึ่งเป็นบริเวณที่เปราะบาง และเป็นจุดที่ไม่อนุญาตให้เข้าไป เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา และจะออกอากาศในวันแม่ 12 สิงหาคมนี้นั้น ในขณะนี้เทปรายการตอนดังกล่าวได้ถูกสั่งให้ระงับออกอากาศไว้ก่อนแล้ว
ส่วนความคืบหน้าล่าสุด (29 กรกฎาคม) ดร.กาญจนา นิตยะ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ ทำหน้าที่หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูเขียว (ทุ่งกะมัง) เปิดเผยว่า ทางกรมอุทยานได้ชี้แจง และกำหนดจุดที่สามารถถ่ายทำได้ให้เป็นจุด ๆ ซึ่งเป็นโซนอนุโลมให้เข้ามาถ่ายหนัง ถ่ายละครได้ และจุดไหนเข้าถ่ายไม่ได้ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองป่า ปี 2535 แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือทางรายการได้ฝ่าฝืนเข้ามาถ่าย และถ้าหากทางเราได้ปล่อยให้มีการถ่ายทอดออกอากาศไป ทั้งเจ้าหน้าที่ เจ้าของพื้นที่เขต รวมไปถึงอธิบดีกรมอุทยาน จะต้องมีความผิดด้วย ซึ่งเป็นโทษวินัยร้ายแรง ทั้งนี้ ตนได้ทำความเข้าใจกับทีมงานกันแล้วว่า ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้าไปถ่ายได้ เพราะก่อนหน้ารายการนี้ ก็มีรายการอื่นมาขอถ่าย แต่เขาได้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดจึงไม่เกิดปัญหาดังกล่าว
หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูเขียว กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าว มีการกำหนดระเบียบกฎหมายขึ้นมาอย่างชัดเจน ทั้งนี้เมื่อมีผู้ทำการผิดกฎก็ต้องว่ากันไปตามระเบียบ ซึ่งทางอุทยานได้มอบหมายให้ตน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายเจษฎาภรณ์ ผลดี และทีมงานทั้งหมดของรายการเนวิเกเตอร์ ไปในวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในข้อหาลักลอบเข้าไปถ่ายทำรายการโดยไม่ได้รับอนุญาต และฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน
พร้อมกันนี้ ดร.กาญจนา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรายการที่มีกำหนดฉายในวันที่ 12 สิงหาคมนั้น ในช่วงที่มีการถ่ายทำบริเวณภูคิ้ง ก็ต้องคงระงับไว้ ไม่สามารถให้ออกอากาศได้ ซึ่งทางรายการก็ยอมรับพร้อมจะทำไปตัดต่อปรับปรุงแล้ว สำหรับคดีความที่ได้แจ้งไปแล้วนั้น ตอนนี้เป็นไปตามขั้นตอน และขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่า ผลจะออกมาอย่างไร ถ้าผลออกมาเช่นไรก็คงต้องว่าไปตามนั้น ทั้งนี้ตนก็ไม่อยากไปทะเลาะกับใคร ยิ่งดาราชื่อดัง คนยิ่งจับตามอง แต่ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ถูกก็ต้องว่าไปตามถูก อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า เราต้องทำหน้าที่ของเราอย่างยุติธรรม ไม่มีใครหน้าไหนเข้าไปได้
ขณะที่ พ.ต.ท.ศรายุทธ ดาวแจ้ง พนักงานสอบสวนสภ.เกษตรสมบูรณ์ เจ้าของคดี เปิดเผยว่า จากที่ได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าว ล่าสุดกำลังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด คาดว่าจะแล้วเสร็จได้เดือนสิงหาคมนี้ เพื่อจะได้ออกหมายเรียก ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี และผู้ที่เกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก










