เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ทนายเลือดร้อน ไม่พอใจถูกลูกค้าร้านอาหารข้างบ้านจอดรถขวางหน้าบ้าน ชักมีดแทงบาดเจ็บรวดเดียว 6 ราย
เมื่อวันที่ 26 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทที่ร้านขายอาหารจิ้มจุ่ม จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย จึงรุดไปตรวจสอบยังร้านอาหารดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 32 ปากทางเข้าหมู่บ้านโอเชี่ยนวิลล์ หมู่ 2 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
เมื่อไปยังที่เกิดเหตุพบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรัทรินทร์บางปู รวมทั้งหมด 6 ราย ทราบชื่อ คือ นายสมบูรณ์ เหล่ามาลา อายุ 45 ปี เจ้าของร้าน ถูกแทงที่หน้าอกซ้าย 1 แผล, นายนัธพงษ์ เหล่ามาลา อายุ 21 ปี บุตรชายถูกแทงที่หน้าอกข้างซ้าย และมีบาดแผลตามลำตัวหลายแห่ง นอกจากนี้ยังถูกเครื่องช๊อตไฟฟ้าช๊อตจนหมดสติ, นางดวงดาว เหล่ามาลา อายุ 45 ปี ภรรยานายสมบูรณ์ ถูกฟันเข้าที่แขนขวา, นายไพโรจน์ ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 30 ปี เพื่อนบ้านถูกฟันเข้าที่กลางหลัง และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ไม่เปิดเผยชื่อ
จากการสอบสวน น.ส.นา (ขอสงวนชื่อ) อายุ 24 ปี บุตรสาวผู้บาดเจ็บ ให้การว่า ตนและบ้านที่ก่อเหตุเคยมีปากเสียงกันมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา (24 กันยายน) เนื่องจากลูกค้าที่มาซื้อของที่ร้านได้ไปจอดรถขวางทางเข้าออกบ้านของผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีอาชีพทนายความ แต่ไม่ทราบชื่อ โดยตนได้พยายามเจรจาและให้ลูกค้าถอยรถ กระทั่งก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนกำลังทำอาหารให้ลูกค้า ผู้ก่อเหตุได้ขับรถกลับมาจะเลี้ยวเข้าบ้าน แต่ลูกค้าได้จอดรถขวางทางอยู่ตนจึงให้ลูกค้ามาถอยรถออกให้ หลังจากผู้ก่อเหตุเข้าไปจอดรถในบ้านแล้วได้เดินออกมาต่อว่าพ่อตน และมีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงมือชกต่อยกัน ผู้ก่อเหตุจึงได้ชักมีดปลายแหลมที่พกติดตัวมาแทงพ่อตนจนล้มฟุบ ส่วนน้องชายตนวิ่งเข้าไปช่วยก็ถูกแทงด้วยอีกคน อีกทั้ง ภรรยาของผู้ก่อเหตุได้ใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้าออกมาช๊อตที่ลำคอน้องชายจนหมดสติ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้วิ่งเข้ามาห้ามปราบรวมทั้งแม่ของตนก็ถูกฟันได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน
ขณะที่ผู้ก่อเหตุ หลังจากที่ก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีเข้าไปอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวออกมาและนำตัวไปสอบสวน โดยเจ้าตัวอ้างว่าที่ทำไปเป็นการป้องกันตัวเท่านั้น เนื่องจากฝ่ายที่บาดเจ็บมีหลายคน มีไม้และจอบเป็นอาวุธ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
