x close

ฉกเอทีเอ็มสาว สุ่มกดรหัสได้ไปกว่าแสนบาท









ฉกเอทีเอ็มสาวสุ่มกดรหัสได้ไปกว่าแสน(ไทยโพสท์)

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล



          สาวขี่จักรยานยนต์ล้ม ทำกุญแจรถหาย ระหว่างกลับไปเอากุญแจสำรองที่บ้าน โจรดอดงัดเบาะนั่งฉกบัตรเอทีเอ็ม บัตรประชาชน พร้อมสร้อยทอง เอาบัตรไปกดเงินโดยเดาสุ่มรหัสจากวัน-ปีเกิดผู้เสียหาย แจ็กพอตแตกได้เงินกว่าแสน แต่สุดท้ายโดนจับ

          ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา วันที่ 8 ธันวาคมนี้ พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสูตสกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ผดุงเกียรติ ศิริพรวิวัฒน์ ผกก.สภ.เมือง จ.นครราชสีมา, พ.ต.ท.ภูมิ ทองโพธิ์ สารวัตรสืบสวน สภ.เมือง และชุดสืบสวน สภ.เมือง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายเลิศมงคล หรือเอ้บ ยอดแก้ว อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 217 ม.4 ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาลักทรัพย์ผู้อื่น พร้อมของกลางกระเป๋าถือสีดำ บัตรประจำตัวประชาชนของผู้เสียหาย บัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย บัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ สร้อยคอทองคำ 1 สลึง 1 เส้น

          สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา พ.ต.ท.ภูมิได้รับแจ้งจาก น.ส.ณัฐพัชร์ ภู่คะนองศรี อายุ 33 ปี ผู้เสียหายว่า เมื่อวันที่ 23 ต.ค.54 ผู้เสียหายได้ขับขี่รถจักยานยนต์แล้วเกิดอุบัติเหตุล้มที่บริเวณทางโค้งเขต ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา กุญแจรถกระเด็นหายไป จึงได้ทิ้งรถไว้ในที่เกิดเหตุ โดยมีกระเป๋าสตางค์ บัตรเอทีเอ็ม และเอกสารไว้ใต้เบาะนั่ง เพื่อกลับไปบ้านพักเอากุญแจรถสำรอง แต่เมื่อกลับไปพบว่าเบาะรถถูกงัดออก กระเป๋าสตางค์ บัตรเอทีเอ็ม และเอกสารต่างๆ หายไปหมด พร้อมสร้อยคอทองคำ 1 สลึง 1 เส้น จากนั้นได้ตรวจสอบในบัญชีธนาคาร ปรากฏว่าบัตรเอทีเอ็มที่หายไปมีคนนำไปใช้กดเงินในบัญชีจำนวน 103,000 บาท จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา

          ต่อมาวันที่ 7 ธ.ค.54 เวลา 23.00 น. พ.ต.ท.ภูมินำกำลังติดตามจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ ชื่อนายเลิศมงคล หรือเอ้บ ยอดแก้ว อายุ 30 ปี เนื่องจากตำรวจพบพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่ผู้ต้องหาใช้บัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายไปกดเอาเงิน ด้านผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้เอากระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายไปจริง โดยในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาขับขี่รถจักรยายนต์ผ่านไปบริเวณที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายล้มอยู่ จึงจอดรถแล้วลงไปจะช่วยเหลือ แต่เนื่องจากไม่มีผู้ใดอยู่ จึงเปลี่ยนใจมาเป็นโจรงัดเบาะรถขโมยทรัพย์สินดังกล่าว สำหรับบัตรเอทีเอ็มนำไปกดเงินครั้งแรก เดารหัสผิด แต่ตรวจสอบเอกสารเห็นวันเกิดและ พ.ศ.เกิดของผู้เสียหาย จำไปกดอีกครั้ง ปรากฏว่าถูกต้อง จึงได้เงินสดมาจำนวนมาก

          พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสูตสกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า อยากจะฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้หญิง ว่าบัตรเอทีเอ็ม บัตรกดเงินสด หรือบัตรเครดิตต่างๆ ให้ใส่รหัสที่ค่อนข้างซับซ้อน ไม่ควรจะใส่รหัสที่เป็นวันเกิด ปีเกิดของตัวเอง หรือเลขที่บ้าน ในการตั้งรหัสใส่ในบัตรต่างๆ เพราะถ้าบัตรเหล่านี้ตกหล่นสูญหายไปก็อาจโชคร้ายเช่นนี้.



ขอขอบคุณข้อมูลจาก









เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ฉกเอทีเอ็มสาว สุ่มกดรหัสได้ไปกว่าแสนบาท อัปเดตล่าสุด 9 ธันวาคม 2554 เวลา 18:40:05 17,530 อ่าน
TOP