x close

แบงก์ชาติ ชี้เจ้าของเงินล้านฉีกแบงก์ไร้ผิด-แลกคืนได้





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          ธนาคารแห่งประเทศไทย แจงเจ้าของเงินล้านที่ฉีกธนบัตรทิ้งไม่มีความผิด ส่วนยืนยันธนบัตรชำรุดทั้งฉีดขาด โดนเผาสามารถแลกได้ที่ธนาคารพาณิชย์ทุกสาขา

          วันนี้ (7 กุมภาพันธ์) เจ้าหน้าที่แผนกตรวจพิสูจน์ธนบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงกรณีที่ นายวรพันธ์ โรจนสัตตรัตน์ หรือ เบิร์ด เจ้าของเงินล้านที่นำไปฉีกและทิ้งถังขยะไว้ว่า นายวรพันธ์ไม่ได้กระทำผิดกฏหมาย ส่วนธนบัตรที่ฉีกขาดถือว่าเข้าข่ายธนบัตรชำรุด สามารถนำมาแลกได้ที่ธนาคารพาณิชย์ทุกสาขา

          ส่วนเกณฑ์ในการแลกเปลี่ยนธนบัตรชำรุดนั้น ถ้าเหลือครึ่งฉบับสามารถแลกได้เพียงได้ครึ่งราคาจากมูลค่าธนบัตร หากเป็นธนบัตรต่อท่อนผิดถ้าไม่เกินสองท่อน แต่ละท่อนเป็นธนบัตรแบบและชนิดราคาเดียวกันแลกได้เต็มราคา ส่วนธนบัตรที่ขาดวิ่นมีเนื้อน้อยกว่า 3 ใน 5 ส่วน หรือโดนเผาไหม้และยากต่อการสำรวจนั้นสามารถส่งคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อยื่นต่อ ธปท.เพื่อทำการพิสูจน์ต่อไป โดยสามารถติดต่อสอบได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2356-8735 ถึง 8737


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
 


[6 กุมภาพันธ์] ลูกชายร้านทอง รับตัดแบงก์ 1.3 ล้านทิ้ง น้อยใจพ่อ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          เจอตัวแล้ว เจ้าของเงิน 1.3 ล้านทิ้งขยะ เป็นลูกเจ้าของร้านทอง เจ้าตัวเผยน้อยใจพ่อ แบ่งสมบัติไม่เท่ากัน จึงตัดแบงก์ทิ้งประชด

          หลังจากเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีการนำเสนอข่าวพบธนบัตรใบละ 1,000 บาท ถูกฉีกทิ้งถังขยะในเขตเทศบาลตำบลหัวกุญแจ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ล่าสุดวันนี้ (6 กุมภาพันธ์) เจ้าของเงินดังกล่าวได้แสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทราบชื่อคือ นายวรพงษ์ โรจน์สัตตรัตน์ หรือหยู๋ เจ้าของร้านทองห้างทองรุ่งเจริญ ในตลาดหัวกุญแจ พร้อมกันนี้ได้พา นายวรพันธุ์ หรือเบิร์ด ลูกชายอายุ 30 ปี ที่เป็นคนทำลายเงินดังกล่าวมาร่วมแถลงข่าวด้วย

          ทั้งนี้ นายวรพงษ์ กล่าวว่า สาเหตุของเรื่องนี้มาจากการที่ลูกชายของตนน้อยใจที่แบ่งเงินให้ไปลงทุนเปิดร้านทอง 3 คน ไม่เท่ากัน ด้วยความน้อยใจ จึงแอบขโมยเงินของพ่อที่ได้จากการขายทองวันละ 20,000 - 30,000 บาท ไปซ่อนไว้ จนกระทั่งวันหนึ่งกลัวว่าจะถูกจับได้จึงคิดฉีกธนบัตรทิ้ง แต่ฉีกไม่ออก จึงใช้กรรไกรตัด และเผาไฟบางส่วน ซึ่งตนไม่คิดโกรธลูก และถือเป็นความผิดของตัวเองไม่โทษใครทั้งสิ้น

          ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า ยังไม่มีการแจ้งข้อหา เนื่องจากการกระทำดังกล่าวไม่ถือว่าผิดกฎหมาย และเป็นเรื่องภายในครอบครัวที่ยอมความกันได้ แต่อย่างไรก็ตาม ได้เงินดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจดีเอ็นเอ และตรวจหาสารเสพติดตามขั้นตอนต่อไป


 แพทย์ชี้ แปลกมาก คนฉีกเงิน 1.3 ล้านทิ้ง-จี้แสดงตัว

           ตำรวจ จี้ คนฉีกเงิน 1.3 ล้านทิ้ง ให้รีบมาแสดงตัวต่อ บอกอีกไม่นานรู้ตัวแน่ ไม่เกิน 1 สัปดาห์ กรมสุขภาพจิตชี้ เป็นพฤติกรรมแปลก
 
           เมื่อวานนี้ (5 กุมภาพันธ์) พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภาค 2 กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฉีกธนบัตร 1,000 บาท มูลค่ารวม 1.3 ล้านบาท ที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ว่า ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรอผลการตรวจสอบสายรัดเงินจากธนาคารกสิกรไทย ส่วนการสันนิษฐานเบื้องต้น ไม่น่าจะมาจากสาเหตุอาชญากรรม คาดว่าน่าจะเป็นพฤติกรรมที่แปลกมากกว่า ทั้งนี้ อยากให้เจ้าของเงินมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ทันที เพราะอย่างไรอีกประมาณ 1 สัปดาห์ คาดว่าเจ้าหน้าที่ก็สามารถสืบค้นได้
 
           ด้าน พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ชลบุรี กล่าวว่า สิ่งที่ตรวจสอบที่มาของเงินได้ในขณะนี้คือ สายรัดเงินเพียงอย่างเดียว ส่วนตัวเลขธนบัตรอยู่ในสภาพที่ถูกฉีกเละ จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือที่ว่าอาจจะเป็นเงินที่มาจากการปล้นบ้านของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการทำลายหลักฐาน ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากเงินยังสามารถใช้ได้อยู่นั่นเอง
 
           ผบก.ชลบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่เพิ่งได้เบาะแสเพิ่มเติมมา อาจจะสรุปได้ว่า เป็นฝีมือของคนสติไม่ดี หรือคนแก่ ที่ลูกหลานไม่ดูแลเท่าที่ควร จึงฉีกธนบัตรเป็นการประชด
 
           ส่วน น.พ.ทวี ตั้งเสรี รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การฉีกเงินมูลค่านับล้าน เป็นเรื่องที่ผิดปกติมากสำหรับคนปกติ หรือว่าถ้าอยู่ในอารมณ์โกรธ เมื่อฉีกไปสักพักความโกรธทุเลา ก็จะหยุดฉีกเอง นอกจากว่าเป็นเหตุผลด้านอาชญากรรม ถ้าหากสามารถหาเจ้าของเงินได้ ก็คงต้องตรวจสุขภาพจิตด้วย เพื่อทดสอบว่า เป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ โดยถือว่าประเด็นนี้เป็นประเด็นน่าศึกษา



 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



[5 กุมภาพันธ์] ตำรวจเร่งตรวจดีเอ็นเอ หาเจ้าของเงินที่ฉีกทิ้ง 1.3 ล้าน

          ตำรวจเร่งตรวจสอบเงิน 1.3 ล้านบาทถูกฉีกทิ้งกลางเมืองชล เผยสายรัดเงินเป็นของธนาคมรกสิกรไทย เร่งตรวจดีเอ็นเอตามหาเจ้าของต่อไป 

          จากกรณีที่เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบเงิน 1.3 ล้าน ถูกฉีกทิ้งขยะหน้าร้านค้าที่จังหวัดชลบุรี ด้านเจ้าหน้าที่ธนาคารออกมาระบุว่าเป็นธนบัตรจริง โดยชาวบ้านต่างลือกันว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการปล้นบ้าน สุพจน์ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ที่คนร้ายอาจนำมาทิ้งเพื่อทำลายหลักฐานนั้น

          ล่าสุด วานนี้ (4 กุมภาพันธ์) เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบสายรัดและตัวเลขที่อยู่บนธนบัตรว่ามาจากที่ใด โดยนำไปเปรียบเทียบกับธนาคารต่าง ๆ ที่อยู่ในละแวกดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นรู้เพียงว่าเป็นสายรัดของธนาคารกสิกรไทย ไม่ได้ระบุสาขา และตอนนี้ได้ประสานไปยังธนาคารแห่งประเทศไทยให้เข้ามาตรวจสอบ พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการเก็บดีเอ็นเอที่พบในธนบัตรที่ถูกฉีก เพื่อนำไปเปรียบเทียบตัวอย่างตามหาเจ้าของเงินต่อไป จึงขอให้ประชาชนที่คาดว่าเป็นเจ้าของธนบัตรให้มาแสดงตนหรือให้เบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ด้วย

          อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กำชับให้ดูแลรักษาหลักฐานดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกรงว่าจะมีคนแอบอ้างเพื่อนำธนบัตรไป เพราะบางส่วนยังเอามาปะติดปะต่อ นำไปใช้ได้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พยายามตรวจหาสารที่เกี่ยวกับยาเสพติด ในส่วนที่สงสัยว่าเกี่ยวข้องกับคดีนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม แต่ยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยงกัน และสันนิษฐานว่า ถ้าเป็นฝีมือของพวกแก๊งค้ายาเสพติด ที่ต้องการทำลายหลักฐานจริง น่าจะมีวิธีอื่นที่ให้ทำมากกว่านี้

          ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานเบื้องต้นว่า พฤติกรรมการฉีกแบงก์ดังกล่าวน่าจะเป็นการกระทำเชิงประชดประชันของคนมีฐานะ ที่อาจมีปัญหากันเรื่องเงินทอง หรือไม่ก็เป็นการประชดประชันระหว่างคนในครอบครัว เลยฉีกธนบัตรเพื่อไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ไปครอบครอง เพราะในย่านอำเภอบ้านบึง เป็นย่านคนมีฐานะ จึงอาจมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นได้ หรือไม่ก็เป็นพฤติกรรมของคนที่มีความผิดปกติทางจิต ที่อาจทำแบบนี้ก็เป็นได้


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



[4 กุมภาพันธ์] ฮือฮา! พบเงิน 1.3 ล้าน ถูกฉีกทิ้งขยะที่ชลบุรี 
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           ตะลึง! พบเงิน 1.3 ล้าน ถูกฉีกทิ้งขยะหน้าร้านค้าที่ จ.ชลบุรี ด้านเจ้าหน้าที่ธนาคารยันเป็นธนบัตรจริง ขณะที่ชาวบ้านต่างลือกันว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการปล้นบ้าน สุพจน์ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม

            วานนี้ (3 กุมภาพันธ์) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากนายไพฑูรย์ วิทยารำพระ เจ้าของร้านทรัพย์มงคล จำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า อยู่บ้านเลขที่ 115/7 ถนนเทศบาล 2 ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้แจ้ง สภ.คลองกิ่ว ว่าพบธนบัตรใบละ 1,000 บาท จำนวนหลายใบถูกฉีกทิ้งในถังขยะหน้าร้าน
 
             ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบว่า ธนบัตรดังกล่าวถูกฉีกทิ้งอย่างละเอียดเป็น 10 ส่วนต่อ 1 ใบ และชั่งน้ำหนักได้ 1.3 กิโลกรัม ซึ่งจากการคำนวณในเบื้องต้นพบว่า ธนบัตร 1,000 จำนวน 1 ล้าน จะหนัก 1 กิโลกรัม นั่นก็หมายถึงธนบัตรที่ถูกฉีกทิ้งในครั้งนี้ มีมูลค่ารวม 1.3 ล้านบาท และเมื่อให้ธนาคารออมสินตรวจสอบ พบว่าเป็นธนบัตรจริง และทราบแล้วว่า เป็นธนบัตรที่ถูกเบิกมาจากธนาคารไหน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้

             อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ได้กล่าวว่า ธนบัตรดังกล่าวอาจจะมาจากพี่น้องทะเลาะกันในเรื่องของมรดก จึงฉีกธนบัตรออกเป็น 10 ส่วน แต่ทั้งนี้ การฉีกธนบัตรมีโทษทางกฎหมาย จึงจำเป็นต้องสืบสวน และหาเจ้าของเงินดังกล่าว เพื่อมาดำเนินคดีในข้อหาทำลายธนบัตรต่อไป

            นอกจากนี้ บรรดาชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงธนบัตรจำนวนเงินมหาศาลที่ถูกฉีกว่า อาจจะเป็นเงินจากการค้ายาเสพติด หรือเป็นเงินที่ได้มาจากการปล้นบ้านของ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคมก็เป็นได้

            ทางด้าน พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า  ตนทราบเรื่องธนบัตรดังกล่าวแล้ว และกำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามหาเจ้าของเงินให้ได้เร็วที่สุด ส่วนข่าวลือที่ว่าเป็นเงินที่ปล้นจากบ้านของนายสุพจน์นั้น ตนว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

 

 




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แบงก์ชาติ ชี้เจ้าของเงินล้านฉีกแบงก์ไร้ผิด-แลกคืนได้ อัปเดตล่าสุด 7 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 18:11:40 180,353 อ่าน
TOP