เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ศูนย์จัดการความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ, ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์ พระราชพิธีพระอภิธรรมเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ คืนสุดท้ายวันนี้ (8 เมษายน) ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ก่อนพระราชทานเพลิงพระศพในวันที่ 9 เมษายน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ขณะที่เหล่าพสกนิกรทยอยรอรับเสด็จฯ
วันนี้ (8 เมษายน) เวลา 17.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์ บำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทร กิติคุณ เสด็จเข้าร่วมในพิธีด้วย ก่อนพระราชทานเพลิงพระศพในวันที่ 9 เมษายน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ทั้งนี้ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ออกหมายกำหนดการวันนี้ ดังนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในการพระราชพิธีพระราชกุศลออกพระเมรุ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องสักการะพระศพ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ถวายพัดรองที่ระลึกงานออกพระเมรุแด่สมเด็จพระราชาคณะ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะที่จะถวายพระธรรมเทศนา และพระสงฆ์สวดศราทธพรต 30 รูป พระสงฆ์ที่จะสดับปกรณ์ 86 รูปเท่าพระชันษา สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี บรรพชิตและญวน 20 รูป ถวายไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์และทอด ผ้าไตร ถวายพระเทศน์ พระสวดศราทธพรต พระสงฆ์เท่าพระชันษา บรรพชิต จีนและญวน สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ทรงจุดธูปเทียนที่พระสงฆ์สวดพระอภิธรรม เสด็จฯ กลับ
ขณะที่บรรยากาศที่โรงพยาบาลศิริราช ในช่วงเช้าวันนี้ พสกนิกรจำนวนหนึ่งเดินทางมารอรับเสด็จฯ แล้ว ขณะที่บริเวณอาคารเฉลิมพระเกียรติ ได้มีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดโดยรอบพื้นที่บริเวณชั้น 1 เพื่อความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม สำหรับการรักษาความปลอดภัย ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และสำนักพระราชวัง ดูแลพื้นที่โดยรอบ
ส่วนบรรยากาศบริเวณท้องสนามหลวง และพื้นที่โดยรอบก่อนที่จะมีงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ล่าสุดยังมีประชาชนทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศได้ทยอยเดินทางมามณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อชื่นชมความสวยงามของพระเมรุ พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ นายบุญมา อาจเอี่ยม อายุ 81 ปี ชาว จ.พังงา กล่าวว่า รู้สึกทราบซึ้งในพระกรณียกิจ และพระจริยวัตรของ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ที่ทรงปฏิบัติเพื่อปวงชนชาวไทยตลอดมา จึงได้เดินทางขึ้นมาจาก จ.พังงา เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการน้อมเกล้าฯ ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ให้สมพระเกียรติที่สุด
ส่วนทางด้าน น.ส.รัชฎาภรณ์ ธรรมธิดา ชาวกรุงเทพมหานคร กล่าวในระหว่างชื่นชมความสวยงามของพระเมรุ ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้ทำบุญตักบาตร ซึ่งต่อจากนี้จะเดินทางไปสวดมนต์ และเจริญจิตภาวนาภายใน วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว เพื่อถวายแด่ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี อีกด้วย
ขณะที่กองบังคับการตำรวจจราจร แจ้งปิดการจราจรเนื่องในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันนี้ เป็นต้นไป
1. ห้ามจอดรถ ในถนนราชดำเนินใน ถนนหน้าพระลาน ถนนหน้าพระธาตุ ถนนมหาราช ถนนท้ายวัง ถนนเชตุพน ถนนสนามไชย ถนนหับเผย ถนนหลักเมือง ถนนกัลยาณไมตรี ถนนสราญรมย์ ถนนเจริญกรุง (สนามไชย-ราชินี) ถนนราชินี ถนนพระจันทร์ และซอยเศรษฐการ
2. วันจันทร์ที่ 9 เมษายน ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ห้ามเดินรถ บนถนนราชดำเนินใน ถนนหน้าพระลาน ถนนหน้าพระธาตุ ถนนมหาราช ถนนท้ายวัง ถนนเชตุพน ถนนสนามไชย ถนนหับเผย ถนนหลักเมือง ถนนกัลยาณไมตรี ถนนสราญรมย์ ถนนเจริญกรุง (สนามไชย-ราชินี) ถนนราชินี ถนนพระจันทร์ และซอยเศรษฐการ
3. ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไปของวันที่ 9 เมษายน ห้ามเดินรถ และห้ามหยุดหรือจอดรถทุกชนิด ดังนี้
ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่แยกผ่านฟ้า ถึง แยกถนนวิสุทธิกษัตริย์ (แยก จปร.)
สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ตั้งแต่สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถึง แยกถนนอรุณอมรินทร์
ถนนจักรพงษ์ ถนนตะนาว ถนนดินสอ ถนนประชาธิปไตย ถนนสามเสน ตั้งแต่แยกถนนวิสุทธิกษัตริย์ (แยกบางขุนพรหม) ถึงแยกถนนพระสุเมรุ (แยกบางลำพู)
ถนนพระสุเมรุ ถนนอัษฎางค์ ตั้งแต่แยกถนนราชดำเนินกลาง ถึงแยกถนนเจริญกรุง
ถนนเฟื่องนคร ถนนพระอาทิตย์ ถนนนครสวรรค์ ตั้งแต่แยกจักรพรรดิพงษ์ ถึง แยกผ่านฟ้า
ถนนหลานหลวง ตั้งแต่แยกถนนจักรพงษ์ (แยกหลานหลวง) ถึง แยกผ่านฟ้า
ถนนสนามไชย ตั้งแต่แยกถนนราชดำเนินกลาง ถึง แยกถนนบำรุงเมือง (แยกสำราญราษฎร์)
ถนนบริพัตร ตั้งแยกถนนบำรุงเมือง ถึงแยกถนนดำรงรักษ์
ถนนดำรงรักษ์ ตั้งแต่แยกผ่านฟ้า ถึง แยกถนนจักรพรรดิพงษ์ จนกว่าจะเสร็จพระราชพิธี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
[7 เมษายน] เผย 6 เส้นทางรถเมล์ฟรี ร่วมพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จัดรถ Shuttle Bus บริการประชาชนฟรี 9 เมษายน เพื่อร่วมพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ รวม 6 เส้นทาง ขณะที่สำนักพระราชวังออกหมายกำหนดการ พระราชพิธีฯ ระหว่างวันที่ 8-12 เมษายน 2555
ในวันจันทร์ ที่ 9 เมษายนนี้ จะมีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ซึ่งทางกรุงเทพฯ ได้จัดพิธีถวายดอกไม้จันทร์ถวายดอกไม้จันทน์เพื่อให้ประชาชนร่วมไว้อาลัยดังนี้
- พื้นที่ ณ ส่วนกลางบริเวณท้องถนามหลวง (ด้านทิศเหนือ) 3 ซุ้ม
- บริเวณท่าช้าง 1 ซุ้ม
- บริเวณทางเท้าฝั่งตรงข้ามพระแม่ธรณีบีบมวยผม 1 ซุ้ม
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมถวายดอกไม้จันทน์ได้ 2 ช่วงเวลา คือระหว่างเวลา 12.30 -15.30 น. และเวลา 18.00 น.-21.00 น.
นอกจากนี้ ทางกรุงเทพฯ ยังได้จัดพื้นที่วัด 46 วัดในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ประชาชนได้ถวายดอกไม้จันทน์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทาง
ทางด้าน องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ก็ได้มีการจัดบริการเดินรถฟรีให้กับประชาชนที่จะเข้าร่วมงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ณ บริเวณท้องสนามหลวง โดยให้บริการ รวม 6 เส้นทาง เส้นทางละ 10 คัน พร้อมจัดรถสำรองอีกเส้นทางละ 10 คัน สำหรับ เส้นทางต่าง ๆ ที่ให้บริการ มีดังนี้
จุดที่ 1
ช่วงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-บริเวณบางลำพู (วัดบวรนิเวศฯ) เริ่มจากอนุสาวรีย์ชัยฯ(เซ็นเตอร์วัน) - ไปตาม ถนนพญาไท - ถนนศรีอยุธยา - ถนนสวรรคโลก - ถนนพิษณุโลก - ถนนนครสวรรค์ - ถนนจักรพรรดิพงษ์ - ถนนวิสุทธิกษัตริย์ - ถนนประชาธิปไตย - ถนนพระสุเมรุ สิ้นสุดที่วัดบวรนิเวศฯ
จุดที่ 2
เริ่มจากสนามม้านางเลิ้ง - บริเวณบางลำพู ไปถนนพิษณุโลก - ถนนนครสวรรค์ - ถนนจักรพรรดิพงษ์ - ถนนวิสุทธิกษัตริย์ - ถนนประชาธิปไตย - ถนนพระสุเมรุ สิ้นสุดที่วัดบวรนิเวศฯ
จุดที่ 3
เริ่มจากสนามศุภชลาศัย-ศาลาว่าการกรุงเทพไปถ.พระราม 1 ข้ามสะพานยศเส - ถนนกรุงเกษม - ถนนหลวง - ถนนมหาไชย - ถนนบำรุงเมือง สุดเส้นทางที่ศาลาว่าการกรุงเทพฯ
จุดที่ 4
สถานีรถไฟหัวลำโพง-ศาลาว่าการกรุงเทพม เริ่มจากสถานีรถไฟหัวลำโพง – ข้ามสะพานนพวงศ์ - ถนนหลวง – ถนนมหาไชย - ถนนบำรุงเมือง และสิ้นสุดที่ศาลาว่าการกรุงเทพฯ
จุดที่ 5
เริ่มจากวงเวียนใหญ่-ศาลาว่าการฯไปถนนประชาธิปก – ข้ามสะพานพระปกเกล้า – ถนนมหาราช – ถนนตรีเพชร – ถนนตีทอง - ถนนดินสอ และสิ้นสุดที่ศาลาว่าการกรุงเทพฯ
จุดที่ 6
เริ่มจากสถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ ตลิ่งชันไปสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งธนบุรี) เส้นทางเดินรถ จากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ สายใต้ (ตลิ่งชัน) – ถนนบรมราชชนนี - ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า- แยกอรุณอมรินทร์ สุดเส้นทางที่เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งธนบุรี)
ขณะที่กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ได้ออกหมายกำหนดการ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ระหว่างวันที่ 8-12 เมษายน 2555 ดังนี้
วันที่ 8 เมษายน เวลา 17.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในการพิธีพระราชกุศลออกพระเมรุ
วันที่ 9 เมษายน เวลา 07.00 น. เสด็จฯ ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในการพิธีเชิญพระโกศทองใหญ่ทรงพระศพออกพระเมรุ พระราชทานเพลิงพระศพ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ตามพระโกศทองใหญ่ทรงพระศพขึ้นประดิษฐานในบุษบกพระมหาพิชัยราชรถ ไปยังพระเมรุท้องสนามหลวง
ในเวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ยังพระที่นั่งทรงธรรม หน้าอาสนสงฆ์ พระเมรุ พระที่นั่ง ในการพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ
เวลา 22.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จขึ้นพระเมรุพระราชทานเพลิงพระศพ
วันที่ 10 เมษายน เวลา 08.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ยังพระที่นั่งทรงธรรม ในการพิธีเก็บพระอัฐิ ทรงเก็บพระอัฐิ สรงพระสุคนธ์ เชิญลงในพระโกศทองคำลงยา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์ ตามพระโกศพระอัฐิเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง
วันที่ 11 เมษายน ก่อนเวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในการพิธีพระราชกุศลพระอัฐิ
วันที่ 12 เมษายน เวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในการพิธีเลี้ยงพระ เชิญพระอัฐิขึ้นประดิษฐาน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ เสด็จฯ ตาม เชิญพระโกศพระอัฐิขึ้นประดิษฐานที่พระวิมานบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก