ค่าแรง 300 ทำว่างงานพุ่ง 1 หมื่นราย (ไทยโพสต์)
คลังห่วงว่างงานเพิ่ม หวั่นมาตรการขยับค่าแรง 300 กระทบหนัก หลังตัวเลขว่างงานภาคก่อสร้างเดือนเมษายนเพิ่ม 1 หมื่นราย แจงขอเวลาประเมินผลกระทบ 2 - 3 เดือน
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ขณะนี้ สศค. เป็นห่วงผลกระทบที่เกิดจากนโยบายเพิ่มรายได้ของรัฐบาล โดยเฉพาะการปรับเพิ่มค่าแรงวันละ 300 บาท ว่าจะกระทบให้แรงงานตกงานเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ โดยจากการติดตามดูตัวเลขการว่างงานในภาคการก่อสร้าง ที่เป็นแรงงานส่วนใหญ่ที่รับค่าแรงวันละ 300 บาท ในเดือน เมษายน 2555 ที่ผ่านมา พบว่ามีการว่างงานมากขึ้นกว่า 1 หมื่นราย
อย่างไรก็ตาม สศค. ยังยืนยันไม่ได้ว่า การว่างงานที่เพิ่มมากขึ้นนั้น มาจากผลกระทบเรื่องการเพิ่มค่าแรงอย่างเดียวหรือไม่ เพราะส่วนหนึ่งอาจจะเป็นช่วงฤดูฝนที่การก่อสร้างอาจมีการชะลอ และแรงงานเดินทางกับภูมิลำเนา เพื่อไปปลูกข้าวทำการเกษตรในที่ดินของตัวเอง
ทั้งนี้ สศค. จะติดตามตัวเลขการว่างงานอีก 2 - 3 เดือน เชื่อว่าจะประเมินผลกระทบจากนโยบายการขึ้นค่าแรงได้ชัดเจนว่ามีมากน้อยขนาดไหน
โดยล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2555 สศค. รายงานตัวเลขการว่างงานยังเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 1% ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากมีนักศึกษาจบใหม่เข้ามาในตลาดแรงงานเพิ่มขึ้น
สำหรับอัตราการว่างงานทั้งปี 2555 สศค. ประมาณการไว้ที่ 0.5 - 0.7% ของแรงงาน อยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา ที่มีการว่างงานอยู่ที่ 0.7%
นายสมชัย กล่าวอีกว่า ผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และวิกฤติเศรษฐกิจยุโรป จะส่งผลกระทบกับการเก็บรายได้ของรัฐบาล ทำให้การจัดเก็บรายได้ล่าสุดต่ำกว่าเป้า 2,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทั้งปีจะยังสามารถจัดเก็บได้ตามเป้า เพราะส่วนหนึ่งมีเงินภาษีที่กันไว้จ่ายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เกินกว่าที่จ่ายจริงอยู่ 9,000 ล้านบาท ส่วนนี้ก็จะนำกลับมาเป็นรายได้ของรัฐบาลต่อไป
ด้าน นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงมาตรการเตรียมพร้อมรองรับการเลิกจ้างของกลุ่มอุตสาหกรรมในไทยที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจยุโรปของรัฐบาล ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงแรงงานจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับคนว่างงานกับตำแหน่งงานให้เกิดการจับคู่กัน โดยพิจารณาจากความต้องการของคนว่างงานว่ามีความถนัดทางด้านใด และต้องการทำงานประเภทใด ซึ่งกรมการจัดหางาน (กกจ.) จะทำหน้าที่พิจารณาว่าสถานประกอบการใดที่มีตำแหน่งงานว่างตรงกับผู้ว่างงานต้องการ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก