x close

ไทยหนี้สาธารณะสูงสุดประวัติการณ์! ก.คลังเตรียมแผนบริหารใหม่



สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          กระทรวงการคลังเตรียมเสนอแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2556 วงเงิน 2 ล้านล้านบาทให้ ครม. อนุมัติ หลังพบว่ามีหนี้สาธารณะสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และยังไม่นับรวมนโยบายจำนำข้าว และนโยบายอื่น ๆ
 
          วันนี้ (8 ตุลาคม) แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 9 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2556 วงเงิน 2 ล้านล้านบาทให้ ครม.อนุมัติ รวมทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังต้องการให้นายกิตติรัตน์ชี้แจงเรื่องนี้กับ ครม. และสื่อด้วยตัวเอง เพราะเป็นการก่อหนี้สาธารณะมากที่สุดตั้งแต่เคยมีมา และกลัวถูกโจมตีว่ารัฐบาลดีแต่กู้สร้างหนี้
 
          สำหรับแผนการบริหารหนี้ 2 ล้านล้านบาท เป็นการบริหารหนี้เก่า 1.04 ล้านล้านบาท เนื่องจากไม่สามารถชำระเงินต้นได้ ทำให้ต้องขยายเวลากู้เงินออกไป ส่วนที่เหลือ 9.59 แสนล้านบาท จะเป็นการกู้ใหม่ โดยแบ่งเป็นรายละเอียดของการกู้ ดังนี้
 
          1. กู้ชดเชยเพื่อขาดดุล 3 แสนล้านบาท
         
2. กู้ตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารน้ำ 3.4 แสนล้านบาท
         
3. กู้ตาม พ.ร.ก. กองทุนประกันภัย 4.9 หมื่นล้านบาท
         
4. กู้เงินให้รัฐวิสาหกิจ 2.4 แสนล้านบาท ซึ่งรวมถึงการกู้เงินให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 1.6 แสนล้านบาทเพื่อใช้จำนำข้าวรอบใหม่
 
          ซึ่งแผนการกู้เงินดังกล่าว จะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะของไทยปรับจาก 44% ต่อจีดีพี เป็น 47.5% ของจีดีพี แต่หากมีการกู้เงินเพื่อรับจำนำข้าวเพิ่มเติมตามฤดูการผลิต 2555/2556 วงเงิน 4.05 แสนล้านบาท ก็จะทำให้สัดส่วนหนี้เกิน 50% ของจีดีพี
 
          แหล่งข่าว ยังกล่าวอีกว่า สาเหตุที่ไม่ใส่วงเงินการกู้เงินจำนำข้าวไว้ในแผนทั้งหมด 4.05 แสนล้านบาท เนื่องจากกฎหมายกำหนดว่า กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ให้รัฐวิสาหกิจได้ไม่เกิน 20% ของวงเงินงบประมาณ ซึ่งในปีงบประมาณ 2556 ค้ำประกันเงินกู้ได้ 4.8 แสนล้านบาท หากค้ำประกันการรับจำนำทั้งหมด จะทำให้กระทรวงการคลังไม่สามารถไปค้ำประกันเงินกู้รัฐวิสาหกิจ อื่นๆ ได้ โดยหากรัฐบาลต้องกู้เงินเพื่อรับจำนำเพิ่ม ก็ต้องปรับแผนเงินกู้ใหม่ โดยลดการค้ำประกันของรัฐวิสาหกิจอื่นเพื่อมาค้ำประกันเงินกู้ให้ ธ.ก.ส. แทน
 
          ทั้งนี้ ปัจจุบันหนี้สาธารณะอยู่ที่ 4.89 ล้านล้านบาท มีภาระจ่ายดอกเบี้ยปีละประมาณ 1.6 แสนล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2556 ได้รับจัดสรรงบชำระหนี้ 1.7 แสนล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 1 หมื่นล้านบาท ที่เหลือเป็นดอกเบี้ยทั้งหมด
 
          สำหรับแผนการบริหารหนี้ 2556 นี้ ยังไม่รวมกับการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทภายใน 7 ปีที่ต้องกู้เพิ่มอีกปีละ 2-3 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้หนี้สูงเกินกว่า 50% ของจีดีพีขึ้นไปอีก โดยประมาณการสัดส่วนหนี้ที่ไม่รวมเงินกู้ พ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทนั้น ในปี 2557 จะอยู่ที่ 48.4% ของจีดีพี, ปี 2558 อยู่ที่ 48.5% ของจีดีพี, ปี 2559 อยู่ที่ 48% ของจีดีพี และปี 2560 อยู่ที่ 47.2% ของจีดีพี
 
          ขณะเดียวกัน นายอดุลย์ ตั้งสัตยาภิรมย์ กรรมการบริหาร และรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ระบุว่า ธพส. ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นตัวแทนรัฐบาลซื้อที่ดินที่เป็นที่ตั้ง สถานทูตไทยในต่างประเทศ โดยระยะแรกจะเน้นประเทศในแถบยุโรป เนื่องจากยุโรปมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ส่งผลให้ราคาที่ดินถูกกว่าช่วงปกติ จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะเข้าไปซื้อที่ดินในช่วงนี้
 
          นายอดุลย์ กล่าวต่อว่า แนวคิดซื้อสถานทูตนั้น เนื่องจากที่ตั้งสถานทูตไทยในบางประเทศได้มีการปรับขึ้นค่าเช่าครั้งเดียว กว่า 3 เท่า ซึ่งถือว่าแพงมาก ไม่คุ้มค่าหากจะเช่าต่อ โดยรัฐบาลมองว่าน่าจะซื้อที่ดินเป็นของตัวเองดีกว่า แม้ว่าสถานทูตไทยในต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นลักษณะเช่าระยะยาวก็ตาม โดยที่จะเข้าไปซื้อในช่วงแรก คือ ประเทศเยอรมนี รัสเซีย และประเทศในยุโรป แต่ยังไม่ได้ประเมินเม็ดเงินในการเข้าไปซื้อว่าต้องใช้เท่าไหร่ แต่ไม่น่ามีปัญหา เพราะ ธพส. สามารถกู้เงินมาซื้อได้ไม่อั้น
 
 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไทยหนี้สาธารณะสูงสุดประวัติการณ์! ก.คลังเตรียมแผนบริหารใหม่ โพสต์เมื่อ 8 ตุลาคม 2555 เวลา 12:16:52 8,436 อ่าน
TOP