เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ประกาศกฎกระทรวงฉบับใหม่ วิธีการจำคุกแบบอื่น
โดยให้นักโทษใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตัว แทนการจำคุก ในกรณีที่จำเป็น
ซึ่งสามารถตรวจสอบที่อยู่ และจำกัดขอบเขตในการเดินทางได้
เมื่อวันที่ 22
มีนาคม ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่กฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจำคุกโดยวิธีการอื่น
ที่สามารถจำกัดการเดินทางและอาณาเขต พ.ศ. 2556
โดยเหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ เป็นไปตาม มาตรา 89/2
วรรคหนึ่ง (3) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา
(ฉบับที่ 25) พ.ศ. 2550
บัญญัติให้ศาลอาจมีคำสั่งให้จำคุกโดยวิธีการอื่น
ที่สามารถจำกัดการเดินทางและอาณาเขตของผู้ซึ่งต้องจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
ข้อ 1 ในกฎกระทรวงนี้
"ผู้ถูกจำกัด" หมายความว่า
ผู้ซึ่งศาลมีคำสั่งให้จำคุกโดยวิธีการอื่นที่สามารถจำกัดการเดินทาง
และอาณาเขตของผู้นั้น
"การจำกัดการเดินทางและอาณาเขต" ให้หมายความรวมถึง คำสั่งศาลให้จำคุกโดยวิธีการ
ห้ามออกนอกเคหสถานหรือสถานที่อื่นใดในช่วงเวลาที่กำหนดโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
"อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า
เครื่องอุปกรณ์รับส่งสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ หรือ เครื่องมือใด ๆ ที่ใช้ติดตามตัว
หรือที่ใช้สวมใส่ข้อมือ ข้อเท้า หรืออวัยวะส่วนอื่นใดของผู้ถูกจำกัด
รวมทั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถใช้ตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทางและ อาณาเขตของผู้ถูกจำกัดได้
"เจ้าพนักงาน" หมายความว่า
ผู้บัญชาการเรือนจำ หรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการตามหมายจำคุก
"พนักงานเจ้าหน้าที่" หมายความว่า
ผู้ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแต่งตั้งให้ปฏิบัติการ ตามกฎกระทรวงนี้
ข้อ 2 ในการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้มีการจำกัดการเดินทางและอาณาเขตแก่ผู้ซึ่ง
ต้อง จำคุกผู้ใด ให้เจ้าพนักงานคำนึงถึงเหตุจำเป็นซึ่งรวมถึงเหตุ ดังต่อไปนี้
(1) ผู้ซึ่งต้องจำคุกจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก
(2) ผู้ซึ่งต้องจำคุกจำเป็นต้องเลี้ยงดูบิดา มารดา
สามี ภริยา หรือบุตร ซึ่งพึ่งตนเองมิได้และขาดผู้อุปการะ
(3) ผู้ซึ่งต้องจำคุกเจ็บป่วยและต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
(4) ผู้ซึ่งต้องจำคุกมีเหตุควรได้รับการทุเลาการบังคับให้จำคุกด้วยเหตุอื่น
ๆ
ข้อ 3 ในการยื่นคำร้องตามข้อ 2
ให้เจ้าพนักงานผู้ร้องขอเสนอแนวทางปฏิบัติ เงื่อนไขหรือแผนดำเนินการประกอบการพิจารณาของศาลด้วย
ข้อ 4 แนวทางปฏิบัติ เงื่อนไข
หรือแผนดำเนินการตามข้อ 3
เจ้าพนักงานผู้ร้องขออาจเสนอเงื่อนไขห้ามมิให้ออกนอกเคหสถานหรือสถานที่อื่น
ใดในช่วงเวลาที่กำหนด ร่วมกับการใช้อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ก็ได้
ข้อ 5 ให้เจ้าพนักงานจัดให้มีพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบผู้ถูกจำกัดตามสมควร
เพื่อมิให้ บุคคลใดดัดแปลง ทำให้เสียหาย ทำลาย เคลื่อนย้าย
หรือถอดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ
เพื่อมิให้มีการบังคับตามคำสั่งศาล
ในกรณีที่พบว่ามีเหตุตามวรรคหนึ่ง
หรือเหตุอื่นใดที่ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชำรุด เสียหายหรือไม่สามารถใช้บังคับได้ตามคำสั่งศาล
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่รายงานต่อเจ้าพนักงานทราบทันที
ข้อ 6 เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าที่
ดังต่อไปนี้
(1) ตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์
ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกจำกัดฝ่าฝืนเงื่อนไข
หรือสอบถามบุคคลที่อยู่ในที่นั้น ๆ
เพื่อรวบรวมข้อมูลหรือหลักฐานเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ อุปนิสัย
และความประพฤติของผู้ถูกจำกัด
(2) รายงานข้อเท็จจริง
หรือพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
อันเป็นเหตุควรแก้ไขเปลี่ยนแปลงการจำกัดการเดินทางและอาณาเขตของผู้ถูกจำกัด
แก่เจ้าพนักงานทราบเพื่อดำเนินการต่อไป
(3) สอบถาม แนะนำ
ช่วยเหลือผู้ถูกจำกัดตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควรในเรื่องความประพฤติและการประกอบอาชีพ
(4) ตรวจสอบการดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติ เงื่อนไข
และแผนดำเนินการที่ศาลให้ ความเห็นชอบตามข้อ 3
ข้อ 7 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมีอำนาจออกระเบียบหรือประกาศ เพื่อกำหนด
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถใช้ตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทางและอาณาเขตของ
ผู้ถูกจำกัด หน่วยงานที่รับผิดชอบ หรือเงื่อนไขอื่นใด
เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามกฎกระทรวงนี้
ให้ไว้ ณ วันที่ 14
มีนาคม พ.ศ. 2556
พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม