เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ ตีสิบ โพสต์โดยคุณ tvthaichannel สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
รายการตีสิบ ได้นำเสนอเรื่องราวของ อภิรักษ์ แซ่ฮ้อ คนจนผู้ยิ่งใหญ่ยอดกตัญญูอีกครั้ง หลังจาก อภิรักษ์ แซ่ฮ้อ ตัดสินใจบวชเป็นสามเณร 1 พรรษา เพื่อทดแทนพระคุณอันยิ่งใหญ่ของมารดา
ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อน ชื่อของ "อภิรักษ์ แซ่ฮ้อ" คนจนผู้ยิ่งใหญ่ ที่รายการตีสิบเคยนำเสนอชีวิตของเขา กลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนจำนวนมาก เพราะแม้ "อภิรักษ์ แซ่ฮ้อ" จะเป็นคนที่มีความผิดปกติบางอย่างทางสมอง แต่เขาก็สู้ชีวิต สามารถทำงานเลี้ยงชีพด้วยการเก็บขยะขาย แล้วนำเงินวันละ 20 บาทไปฝากธนาคาร เพื่อสะสมเป็นค่าผ่าตัดหัวใจให้แม่ผู้เป็นที่รัก โดยทำเช่นนี้มาตลอดเป็นเวลาเกือบ 20 ปีแล้ว
ความกตัญญูรู้คุณอันยิ่งใหญ่ของ อภิรักษ์ แซ่ฮ้อ ทำให้เขาได้รับรางวัลลูกกตัญญู จากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย โดยเข้ารับประทานโล่เกียรติคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในวันแม่แห่งชาติประจำปี 2553
และเรื่องราวที่รายการตีสิบได้นำเสนอในรายการเมื่อคืนวันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2556 ก็คืออีกบทพิสูจน์หนึ่งที่ยืนยันได้ว่า อภิรักษ์ แซ่ฮ้อ เป็นคนมีความกตัญญูต่อมารดาของเขาอย่างยิ่ง เมื่อเขาตัดสินใจทดแทนบุญคุณของบุพการีในฐานะลูกผู้ชายไทยคนหนึ่ง ด้วยการหันหน้าเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
ปัจจุบัน อภิรักษ์ แซ่ฮ้อ คือ สามเณรอภิรักษ์ ซึ่งท่านได้เล่าถึงสาเหตุที่ตัดสินใจบวชว่า ตอนนั้นเดินอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าย่านพระราม 4 และได้เห็นป้ายเชิญชวนเข้าร่วมโครงการบวชพระ 100,000 รูป โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เนื่องในวันเข้าพรรษา เพื่อตอบแทนค่าน้ำนม อภิรักษ์จึงตัดสินใจจะบวชทันที จึงถามวิธีการเดินทางจากพระราม 4 ไปยังวัดคลองภูมิที่อยู่แถวพระราม 3 แล้วขึ้นรถเมล์ไปโดยไม่บอกใคร
เมื่อไปถึงวัดคลองภูมิ อภิรักษ์ได้ติดต่อจะขอบวช แต่ พระครูพิศาล ศาสนธรรม เจ้าอาวาสวัดคลองภูมิ ไม่อนุญาต เพราะตามระเบียบสงฆ์แล้ว ผู้ที่จะขอบวชต้องได้รับอนุญาตจากทางบ้าน และมีผู้รับรองก่อน อภิรักษ์จึงเดินทางกลับบ้านมาขออนุญาตจากแม่ แต่ในตอนแรก แม่ไม่อนุญาต เพราะรู้สึกเป็นห่วงว่าลูกจะหิว เหนื่อย แล้วจะเกิดอาการเครียดขึ้นมา
แต่ในที่สุด เมื่ออภิรักษ์ยืนยันซ้ำ ๆ ว่า "อยากจะบวชให้แม่ อยากเอาบุญให้แม่ อยากให้แม่ได้บุญ แม่จะได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์" ประกอบกับทางพระอาจารย์ที่เป็นพระพี่เลี้ยงได้ขอให้ทางครอบครัวอนุโมทนาบุญให้อภิรักษ์ เพื่อว่าชาติหน้าเขาจะได้เกิดมาดีกว่านี้ ทางครอบครัวจึงอนุโมทนาบุญให้กับความตั้งใจอย่างแรงกล้าในครั้งนี้
เมื่อทางครอบครัวอนุญาต อภิรักษ์ก็สามารถบวชเป็นสามเณรได้ ซึ่งก็ทำให้ คุณแม่เช้ยม่วย แซ่ฮ้อ รู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นผ้าเหลืองของลูกชาย ขณะที่คนในละแวกบ้านก็รู้สึกชื่นชมที่แม้สามเณรอภิรักษ์จะเกิดมาเป็นเช่นนี้ แต่เขายังมีความคิดที่จะบวชให้แม่ และยังดีกว่าอีกหลาย ๆ คนที่เป็นคนปกติเสียด้วย
สามเณรอภิรักษ์ พูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า เป็นสามเณรต้องถือศีล 10 ข้อ พร้อมกับแจกแจงให้ฟังว่าใน 10 ข้อมีอะไรบ้าง ขณะที่พระครูพิศาลก็เสริมว่า กิจวัตรประจำวันของสามเณรก็คล้าย ๆ กับพระ คือทุกวันจะต้องตื่นตี 4 มาสวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำวัตรเหมือนกับพระทั้งหลาย ซึ่งสามเณรอภิรักษ์ก็ปฏิบัติได้ดี
แต่ถึงจะครองตนด้วยผ้าเหลืองแล้ว สามเณรอภิรักษ์ก็ยังไม่ทิ้งหน้าที่การเก็บขวดที่เคยทำมานานหลายสิบปี บ่อยครั้งที่สามเณรจะเก็บขวดในวัดสะสมไว้ แล้วให้แม่นำไปขายเพื่อนำเงินที่ได้มาทำบุญให้กับทางวัด ถือเป็นการกระทำที่แสดงให้เห็นว่า สามเณรอภิรักษ์มีจิตใจที่สูงส่งมาก
สามเณรอภิรักษ์ บอกว่า ตัวเองชอบฟังเทศน์ ฟังธรรม เพราะฟังแล้วทำให้คิดได้ ส่วนการสวดมนต์ก็พอสวดได้ แม้จะสวดได้ช้า อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวตั้งใจจะบวช 1 พรรษา (3 เดือน) ซึ่งตอนนี้บวชมาได้ 1 เดือนแล้ว และมั่นใจว่าจะบวชได้ครบ 3 เดือนแน่นอน ก่อนจะให้พรว่า "อายุ วัณโณ สุขัง พลัง" พร้อมกับฝากถึงลูกผู้ชายทุกคนว่า
"ผมมีสมองน้อยนิด ยังอยากจะบวชให้แม่ ขอให้ผู้ชายทั้งโลกมาบวชให้แม่..." สามเณรอภิรักษ์ ทิ้งท้ายด้วยความคิดที่น่านับถือเป็นอย่างยิ่ง