
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์
พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรีถึงแก่อสัญกรรม ไม่จริง แค่ข่าวลือ โดยล่าสุด ทำเนียบองคมนตรี ปัดข่าว พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ถึงแก่อสัญกรรม ยืนยันรักษาตัวอยู่ รพ.พระมงกุฎ
วันนี้ (1 เมษายน 2557) เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ได้เกิดกระแสข่าวลือว่อนโลกโซเชียลว่า พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรีถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคมะเร็งปอด ณ รพ.รามาธิบดี หลังจากนั้น ไม่นาน นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปี ผอ.รพ.รามาธิบดี ได้ออกมาชี้แจงว่า ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง พร้อมระบุ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ไม่เคยเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.รามาธิบดี ในฐานะคนไข้ประจำหรือคนไข้ฉุกเฉินใด ๆ ทั้งสิ้น
ล่าสุด ทำเนียบองคมนตรี ได้ออกมาปฏิเสธข่าวการถึงแก่อสัญกรรมของ "พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์" องคมนตรี และชี้แจงว่า ปัจจุบัน พล.อ.พิจิตร ยังพักรักษาตัวด้วยอาการเหนื่อย ที่ห้องซีซียู รพ.พระมงกุฎ พร้อมเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในกรณีที่ข่าวองคมนตรีถึงแก่อสัญกรรม ทางทำเนียบองคมนตรี จะเป็นผู้แจ้งให้ทราบเอง
ประวัติ บิ๊กเสือ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์
สำหรับประวัติ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ หรือ บิ๊กเสือ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งองคมนตรี โดย พล.อ.พิจิตร เกิดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2475 บุตรคนโตในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 7 คนของนายจวน กุลละวณิชย์ มีบ้านเดิมอยู่แปดริ้ว ฉะเชิงเทรา เมื่อ พล.อ.พิจิตร สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ก็ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 2 (จปร. 2) และขณะที่ พล.อ.พิจิตร ศึกษาอยู่ปีที่ 2 ก็ได้คัดเลือกให้ไปศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยเวสต์ปอยต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่อจบการศึกษา พล.อ.พิจิตร ได้เริ่มรับราชการครั้งแรก ด้วยการเป็น "ครู" ในแผนกวิชาการรบพิเศษและส่งทางอากาศ โรงเรียนทหารราบศูนย์การทหารราบลพบุรี และระหว่างที่ พล.อ.พิจิตร ทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนนายทหารและนายสิบในหลักสูตรจู่โจมและโดดร่มหลายรุ่น ในการสอนนักเรียนจู่โจม ระหว่างการฝึกเข้าตี แทงดาบ หรือ เลิกแถว จะกำหนดให้นักเรียนทหาร ร้องคำว่า "เอี้ย" เป็นสัญลักษณ์การคำรามของเสือก่อนการจู่โจม ทำให้ พล.อ.พิจิตร ได้รับสมญานามว่า "เสือใหญ่" เช่นเดียวกับสัญลักษณ์ของหน่วยจู่โจม มาตั้งแต่นั้น จึงทำให้ในปัจจุบันสื่อมวลชนจึงนิยมเรียกชื่อพล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ว่า "บิ๊กเสือ"
ตำแหน่งสูงสุดในการรับราชการของ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ คือ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก 2529-2533, รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด 2533-2535, รองปลัดกระทรวงกลาโหม 2534-2535 ซึ่งขณะนั้นมี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี และหลังเกษียณราชการ ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นองคมนตรี เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2536
นอกจาก พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ยังดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหารมูลนิธิอานันทมหิดล, ที่ปรึกษาพิเศษขององค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์, นายกสภาวิทยาลัยสันตพลอุดรธานี, นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร และนายกสภามหาวิทยาลัยเกริก อีกด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







