
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ โพสต์โดย คุณ ThaiTV19 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
เลขาธิการสภาทนายความ ชี้ ลูกฆ่าพ่อแม่ หมดสิทธิ์ได้มรดก ตามมาตรา 1606 วรรค 1 เหตุเป็นผู้ไม่สมควร ส่วนใครจะได้รับต้องดูก่อนว่ามีการทำพินัยกรรมไว้หรือไม่
ในช่วงนี้คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญคนไทยที่สุดคงหนีไม่พ้น ฆ่ายกครัวตระกูลหอมชง ซึ่งเป็นคดีที่บุตรชายคนเล็กในตระกูล คือ นายกิตตินันท์ หอมชง วัย 22 ปี จ้างมือปืนเพื่อฆ่า พ.อ.วินัย หอมชง บิดา, นางวนิดา หอมชง มารดา และ ร.ต.ท.ธรรมณัฐ หอมชง พี่ชาย โดยมีการสันนิษฐานว่ามูลเหตุในการลงมือครั้งนี้ก็เพื่อหวังฮุบมรดกที่ดินของบิดา ซึ่งมีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทางนายกิตตินันท์ ได้กลับคำให้การในคดีนี้ว่าไม่ได้เป็นคนจ้างวานฆ่าแล้ว
ด้านนายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับมรดกจากคดีดังกล่าวในวันนี้ (8 เมษายน 2557) ว่า ตามกฎหมายแพ่ง มาตรา 1599, 1600 ระบุว่า เมื่อบิดามารดาตาย กองมรดกจะตกอยู่กับทายาทโดยตรง ตามมาตรา 1629 อย่างไรก็ตาม ปัญหาคดีนี้คือ ผู้รับมรดกเป็นผู้จ้างวานให้ฆ่าบิดามารดาเสียเอง ด้วยเหตุนี้ มาตรา 1606 วรรค 1 จึงไม่ให้บุตรชายรับมรดก เนื่องจากเป็นผู้ไม่สมควร
เมื่อบุตรชายไม่มีโอกาสรับมรดกแล้ว มาตรา 1629 จึงได้จัดลำดับทายาทกองมรดกไว้ 6 ลำดับ ได้แก่
1. ผู้สืบสันดาน
2. บิดามารดา
3. พี่น้องร่วมบิดามารดา
4. พี่น้องร่วมบิดาหรือมารดา
5. ปู่ ย่า ตา ยาย
6. ลุง ป้า น้า อาดังนั้น หากใครมีชีวิตอยู่ก็จะได้รับมรดกตามลำดับดังกล่าว ทว่า มาตรา 1603 ก็ระบุไว้ว่า หากผู้ตายได้ทำพินัยกรรมให้ใครไว้ก็ตาม คน ๆ นั้นก็จะได้รับมรดก ด้วยเหตุนี้จึงต้องสืบดูว่า ผู้ตายทำพินัยกรรมเอาไว้หรือไม่ แต่สุดท้าย หากไม่มีใครรับมรดก หรือไม่อยากได้รับมรดก มาตรา 1753 ก็ระบุว่าให้ตกเป็นของแผ่นดิน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







