
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก สายตรงภาคสนาม
ศิษย์เก่าสวนกุหลาบ แจง แก้วสรร อติโพธิ สวมชุดนักเรียนพูดหน้าเสาธง เป็นกิจกรรมให้ศิษย์เก่านำแถวน้องใหม่เคารพธงชาติวันเปิดเทอม จัดมา 3 ปีแล้ว ไม่ได้ชวนเด็กออกมากู้ชาติอย่างที่เข้าใจกัน วอน ทิ้งเรื่องการเมืองไว้นอกรั้วโรงเรียน ไม่อยากเห็นประเพณีที่อบอุ่นเสียหาย
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 แฟนเพจ สายตรงภาคสนาม ได้โพสต์ภาพ นายแก้วสรร อติโพธิ อดีต ส.ว.กรุงเทพมหานคร สวมชุดนักเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ถือโทรโข่งขึ้นพูดหน้าเสาธงโรงเรียน ระบุว่า นายแก้วสรรเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบได้ขึ้นปราศรัยขอให้ศิษย์ปัจจุบันออกมารวมพลังกู้ชาติจากระบอบทักษิณและร่วมปฏิรูปประเทศไทย จนสร้างความฮือฮาไปทั่วโลกไซเบอร์นั้น
ในวันเดียวกัน เฟซบุ๊ก Ruechagorn Jon ซึ่งระบุว่าตนเองเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบและอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย ได้ออกมาชี้แจงถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า การที่นายแก้วสรรและศิษย์เก่าคนอื่น ๆ สวมชุดนักเรียนขึ้นพูดหน้าเสาธงนั้น เป็นกิจกรรมของโรงเรียนที่จัดมา 3 ปีแล้ว เพื่อให้ศิษย์เก่านำแถวน้อง ๆ เคารพธงชาติ สวดมนต์ พร้อมกล่าวต้อนรับน้องใหม่ซึ่งเป็นลูกหลานในวันแรกของการเปิดเทอม ซึ่งกิจกรรมนี้สร้างความประทับใจให้กับชาวสวนกุหลาบเป็นอย่างมาก
ศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบ ยังระบุด้วยว่า รู้สึกไม่สบายใจที่ภาพดังกล่าวกลับถูกโยงไปเป็นประเด็นทางการเมือง เขียนคำบรรยายใต้ภาพในเชิงเสียหาย ซึ่งตนไม่ได้ยินว่านายแก้วสรรพูดเช่นนั้น จึงอยากขอความกรุณาเหล่าเลือดชมพู-ฟ้า อย่าให้ประเพณีใหม่นี้เสียไป โดยไม่ได้ตั้งใจ หากใครเจ็บแค้นชิงชังฝ่ายไหนก็ขอให้เก็บเรื่องนั้นไว้นอกรั้วโรงเรียน เพราะไม่อยากให้นำเรื่องนั้นมาเป็นอุปสรรคระหว่างพี่น้องในบรรยากาศแสนอบอุ่นนี้
ดังข้อความต่อไปนี้
"กิจกรรมของศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัยที่กำเนิดเป็นลูกสวนฯ เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ต้องหวนคืนมาสวมเครื่องแบบนักเรียนอีกครั้งหนึ่งเพื่อนำแถวน้อง ๆ เคารพธงชาติ สวดมนต์พร้อมกล่าวต้อนรับน้องใหม่วัยลูกหลานในวันแรกของการเปิดเทอม
เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นติดต่อกันมา ปีนี้เป็นปีที่ 3 ซึ่งเริ่มต้นโดยศิษย์สวนกุหลาบฯ รุ่นที่ 81 ภายใต้การนำของ พล.ต.ท.ณัฐพงษ์ วัฒนสุคนธ์ ประธานรุ่น ส.ก.81 เมื่อ พ.ศ. 2555
กิจกรรมนี้ได้รับการกล่าวขาน ยินดีปรีดาเป็นอย่างยิ่งสำหรับบรรดาศิษย์สวนฯ ตัวน้อย ๆ วัยจิ๋ว ๆ ผู้มาใหม่ และสร้างทั้งความประทับใจ ประหลาดใจ ไปยังบรรดาผู้ปกครองใหม่ ๆ ในวันนั้นเป็นอย่างยิ่งยากที่ลืมเลือน
คำถามเกิดขึ้นในใจหลายคนว่า เพราะอะไร เหล่าสวนฯ ใหญ่ สวนฯ น้อย ต่างวัย ต่างยุค ทำไมเขาถึงรักกันได้นักหนา
หลาย ๆ ท่านผ่านการเป็นผู้บริหาร ผู้ยิ่งใหญ่ มากด้วยลาภ ยศ บารมี ฯลฯ สุดจะพรรณาในหลากหลายอาชีพ ต่างสลัดคราบนั้นทิ้งและพร้อมใจกันมาสวมเครื่องแบบนักเรียนหลวงสวนกุหลาบ ที่สุดแสนจะภูมิใจเพื่อสานต่อกิจกรรมเช่นนี้จากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่ง
ณ วันนี้ 15 พฤษภาคม 2557 เป็นหน้าที่ของศิษย์สวนกุหลาบฯ รุ่น 83 ที่มีพี่ ๆ หลายท่านกรุณาสละเวลามา ผมขออนุญาตไม่เอ่ยนามแต่ละท่านเพราะเกรงว่าจะบรรยายได้ไม่หมด
กิจกรรมทุกอย่างดำเนินไปโดยไม่มีสิ่งใดติดขัดตั้งแต่ต้นจนจบ ราบรื่นอย่างดี แม้พิธีการจะนานสักนิด แต่จะร้อนไปหน่อย (มาก) แต่ก็สร้างความประทับใจมิรู้ลืมเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา
อุปสรรคเล็ก ๆ ที่ไม่คาดคิดมีอย่างเดียวคือไฟดับ ในช่วงหลังอันเป็นช่วงที่พี่ ๆ รุ่น 83 กล่าวทักทายและให้โอวาทน้อง ๆ ทำให้เสียงพูดขาดหายไป แต่ก็แก้ปัญหาโดยใช้โทรโข่งแทน
ผมอยู่ด้านหลังครับ อยู่ที่ระเบียงตึกยาว ได้ยินเสียงบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง แต่จับใจความได้ว่า พี่กำลังสอนน้อง สอนความเป็นสวนกุหลาบฯ ไม่มีอะไรที่เกินเลยไปกว่านี้
ทุกอย่างมันควรจะจารึกไว้ด้วยดี
แต่แล้วผมจำเป็นต้องมาบันทึกไว้เป็นสักขีพยานในที่นี้ก็เพราะเห็นว่ามีท่านใดไม่ปรากฏ เจตนาใดไม่ทราบชัด ได้โพสต์ภาพที่มีการ copy ต่อ ๆ กันมา เป็นภาพพี่รุ่นอาวุโสกำลังถือโทรโข่งคุยกับน้อง พร้อมกับมีคำบรรยายภาพในทางที่เสียหาย นำประเด็นขัดแย้งภายนอกในขณะนี้เข้ามาอธิบายประกอบภาพ

ผมจึงสรุปเอาว่า ท่านต้องการอะไรหรือครับ โปรดอย่านำความเกลียดชังมาสู่กันในหมู่พวกเรา คนไทยเราแตกแยก บอบช้ำกันมามากแล้ว ใครผิดใครถูกผมไม่วิจารณ์
ผมท้าวความถึงพิธีการในเรื่องนี้มาแต่ต้นเพื่อปูพื้นให้ทุกคนทราบ เพราะผมได้มีโอกาสมาร่วมงานนี้ทุกปี จึงจำต้องเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อขอความกรุณามายังเหล่าเลือดชมพูฟ้าทุกท่าน
อย่าให้ประเพณีใหม่นี้เสียไปเถอะครับ ท่านอาจไม่ได้ตั้งใจ
ในส่วนลึกท่านอาจเคียดแค้นชิงชังต่อเหตุการณ์หรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าฝ่ายใดก็ตามในเรื่องการเมืองในปัจจุบัน และผมเองก็เป็นหนึ่งในตัวละครในเหตุการณ์ของความขัดแย้งในปัจจุบันนี้ ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ และก็มีความรู้สึกในใจคล้าย ๆ กับหลาย ๆ ท่านในฐานะคนไทยคนหนึ่งเหมือนกัน
แต่ผมเห็นว่า เก็บเอาเรื่องเหล่านี้ไว้ข้างนอกรั้วโรงเรียนเถอะครับ ผมเคารพสิทธิทุกท่าน อย่าเอาเรื่องเหล่านั้นมาให้เป็นอุปสรรคระหว่างพี่น้อง ในบรรยากาศอันแสนอบอุ่นนี้
หากบทความนี้กระเทือนใจใคร ทำให้ผู้หนึ่งผู้ใดเคืองขุ่น ผมต้องกราบขอโทษ แต่ผมจะทนนิ่งดูดาย เฉยเมยไม่ได้ ถ้ามีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จะทำให้เราแตกความสามัคคีกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในรั้วโรงเรียน เพราะผมรักสวนกุหลาบครับ"






