
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thaiairways.com
การบินไทยนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินที่บาหลี หลังพบกระจกห้องนักบินแตกกลางอากาศ ด้านการบินไทยแจงปฏิบัติดังกล่าวให้ความสำคัญสูงสุดในด้านความปลอดภัยของผู้โดยสารตามมาตรฐานสากล
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2557 เว็บไซต์นิวส์ของออสเตรเลีย รายงานว่า เครื่องบินของการบินไทย ที่บินจากซิดนีย์ สู่กรุงเทพฯ นำเครื่องบินลงจอดฉุกเฉินที่บาหลี หลังจากที่กระจกห้องนักบินแตก แต่ไม่มีใครบาดเจ็บ เพราะลงจอดได้อย่างปลอดภัย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา เครื่องบินโบอิ้ง 747 ของการบินไทย เที่ยวบิน TG476 ที่บินจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย มายังกรุงเทพมหานคร ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารมากว่า 272 ชีวิต ได้นำเครื่องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินงูระห์ไรในบาหลี เมื่อเวลา 16.52 น. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากนักบินพบว่ากระจกภายในห้องนักบินแตก ทำให้ความดันอากาศในห้องโดยสารลดลง
อย่างไรก็ดี นักบินสามารถลงจอดฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย โดยไม่เกิดอันตรายใด ๆ กับผู้โดยสาร แต่ผู้โดยสารก็ต้องพักอยู่ในโรงแรมที่บาหลี 1 คืน ก่อนจะเดินทางสู่กรุงเทพฯ ในวันนี้ (13 สิงหาคม 2557)
ด้าน นาวาอากาศตรีพงศภีระ ไพศาลกุลวงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคง และมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงเหตุนำเครื่องบินจอดฉุกเฉินว่า กัปตันพบกระจกด้านขวาในห้องนักบินมีรอยร้าว จึงติดต่อกับหน่วยงานภาคพื้นดิน เพื่อขอนำเครื่องลงจอดที่ท่าอากาศยานเดนปาซาร์ บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นท่าอากาศยานที่ใกล้ที่สุด โดยการปฏิบัติดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด และให้ความสำคัญสูงสุดในด้านความปลอดภัยของผู้โดยสารตามมาตรฐานสากล และได้นำผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวเข้าพักที่โรงแรมในบาหลีเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ทีมนักบินและช่างอากาศยานการบินไทย ได้เดินทางไปที่ท่าอากาศยานเดนปาซาร์เพื่อร่วมตรวจสอบและควบคุมดูแลการปรับเปลี่ยนกระจกของเครื่องบินลำดังกล่าวแล้ว และการบินไทยต้องขออภัยในความล่าช้าที่เกิดขึ้นในเที่ยวบินดังกล่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
หมายเหตุ: แก้ไขข้อมูลล่าสุด วันที่ 14 สิงหาคม 2557 เวลา 07.22 น.






