
น้ำมันรั่วเชียงใหม่ ทำไฟลุกไหม้คลอง
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้
สนามบินเชียงใหม่ น้ำมันเชื้อเพลิงเติมเครื่องบินรั่ว กว่า 1 หมื่นลิตร ก่อนไหลลงคลองระบายน้ำ ชาวบ้านบ่นอุบ หวั่น เพลิงลุกไหม้ - ปตท.เร่งแก้ไข ล่าสุด ปตท. ขออภัย พร้อมแจงเหตุน้ำมันรั่วที่สนามบินเชียงใหม่
วันนี้ (9 พฤศจิกายน 2557) เมื่อช่วงเวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ เกิดเหตุน้ำมันเชื้อเพลิงเติมเครื่องบินของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รั่วที่ท่อเมนหลุม 19 สนามบินเชียงใหม่ พุ่งขึ้นสูงจากพื้น ประมาณ 2-3 เมตร ปริมาณกว่า 10,000 ลิตร ห่างจากอาคารผู้โดยสารประมาณ 400 เมตร
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ ปตท. ได้ปิดวาล์วแล้ว แต่น้ำมันรั่วลงคลองระบายน้ำไปบางส่วน ส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ สนามบิน ต้องอพยพย้ายที่อยู่ชั่วคราว เนื่องจากกลิ่นน้ำมันเหม็นรุนแรง ประกอบกับกลัวไฟลุกไหม้ ทำให้นอนไม่หลับ
แต่ต่อมา ชาวบ้านก็เผยว่า ที่คลองร้องเรือนคำ ต.ป่าแดด อ.เมือง เกิดเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ในคลองอย่างรุนแรง ขนาดเปลงไฟสูงเท่ากับตึก 3 ชั้น เนื่องจากน้ำในคลองมีน้ำมันเจือปนอยู่มาก แทบจะเคลือบกับผิวน้ำมาเลย ส่งผลให้เพลิงลุกโหมลามไปติดต้นไม้ริมคลองจนไหม้เกรียมจำนวนมาก ขณะที่ชาวบ้านที่พักอยู่ตามริมคลองก็ต้องรีบอพยพหนีเพื่อความปลอดภัย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เร่งต่อสายฉีดระดมกำลังกันยับยั้งเพลิง กระทั่งผ่านไป 1 ชม. จึงสามารถควบคุมไว้ได้ ถ้าหากแจ้งช้ากว่านี้อาจจะไหม้บ้านเรือนประชาชนก็เป็นได้
อย่างไรก็ดี ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายกิตติกร สุขหวาน ผู้จัดการส่วนคลังน้ำมันเชียงใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุน้ำมัน Jet A1 รั่วไหล บริเวณท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งมีน้ำมันบางส่วนรั่วไหลปะปนลงลำรางสาธารณะ และติดไฟที่ต้นไม้สาธารณะของเมื่อวานนี้ เวลา 23.15 น. นั้น เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนชุมชน 2 หลัง โดยมีกระจกแตก และสายไฟไหม้เสียหาย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้า สามารถจ่ายน้ำมันได้ตามปกติ ขณะเจ้าหน้าที่ ปตท. ได้ลงพื้นที่ทันทีเพื่อสำรวจชุมชนที่อาจได้รับความเสียหาย พร้อมยืนยันจะให้ความช่วยเหลืออย่างดี
นอกจากนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ ปตท. ได้ประสานงานกับองค์การบริหารส่วนตำบลป่าแดด เพื่อดูแลชุมชน และประสานงานการท่าอากาศยาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรีบดำเนินการซ่อมแซมส่วนที่เสียหายให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด และขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมย้ำว่า ปตท. ให้ความสำคัญต่อนโยบายด้านความปลอดภัยที่ยึดถือปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง มีการซ้อมแผนฉุกเฉินอย่างสม่ำเสมอทุกปี เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์ได้อย่างเรียบร้อยภายในเวลาอันรวดเร็ว







