
ช่อง 7 ฟ้อง 3 กสท. กรณีให้ช่อง 3 ออกอากาศคู่ขนาน
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ช่อง 7 ยื่นฟ้อง 3 กรรมการ กสท. หลังให้ช่อง 3 อนาล็อกไปออกอากาศบนช่อง 33 HD แบบคู่ขนาน 100% ชี้ไม่เป็นธรรม ต้องเป็นนิติบุคคลที่ได้รับใบอนุญาตทั้งทีวีอนาล็อกและดิจิตอลรายเดียวกันแบบช่อง 7 และ ช่อง 9 เท่านั้น
จากกรณีที่กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) 3 ราย ประกอบด้วย นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และพลโท พีระพงษ์ มานะกิจ มีมติให้บริษัท BEC Multimedia จำกัด หรือช่อง 33 HD นำผังรายการช่อง 3 อนาล็อกของ บริษัท บางกอกเอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด ไปออกอากาศบนช่อง 33HD แบบคู่ขนาน 100% เช่นเดียวกับกรณีของช่อง 7 และช่อง 9 โดยให้เหตุผลว่า เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐและ กสท. ในการเปลี่ยนผ่านการออกอากาศโทรทัศน์จากระบบอนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตอล และให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติต่อผู้ประกอบการทีวีอนาล็อกทุกรายนั้น
ล่าสุด วันนี้ (4 ธันวาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท กรุงเทพวิทยุและโทรทัศน์ หรือ ช่อง 7 ได้ยื่นฟ้องกรรมการ กสท. ทั้ง 3 คน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีอนุญาตให้ช่อง 3 อนาล็อกออกอากาศคู่ขนานในระบบทีวีดิจิตอล ในข้อหาจงใจฝ่าฝืนต่อกฎหมายและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งทาง ป.ป.ช. ก็ได้รับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว
ทั้งนี้การยื่นฟ้องดังกล่าว เนื่องจากทางช่อง 7 เห็นว่า การกระทำของกรรมการ กสท. ทั้ง 3 คน มีการจงใจฝ่าฝืนกฎหมายและเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้รัฐขาดรายได้จากค่าธรรมเนียมการประมูลกว่า 3,000 ล้านบาท และยังเป็นการทำให้ผู้ประกอบการโทรทัศน์ดิจิตอลรายอื่น ๆ ได้รับความเสียหายด้วย
นอกจากนี้ พ.ร.บ.การประกอบการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตรา 9 ได้บัญญัติไว้ว่า
"ใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ เป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้ได้รับอนุญาต จะโอนให้แก่กันมิได้ ผู้ได้รับอนุญาตฯ จะต้องประกอบกิจการด้วยตัวเอง การแบ่งเวลาให้ผู้อื่นดำเนินรายการ กระทำได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่คณะกรรมการ ตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้กำหนด"
ส่วน พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ พ.ศ. 2553 มาตรา 43 ได้ระบุว่า
"ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ เป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้ได้รับอนุญาต จะโดนให้แก่กันมิได้ ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องประกอบกิจการด้วยตัวเอง จะมอบการบริหารจัดการทั้งหมด หรือบางส่วน หรือยินยอมให้บุคคลอื่น เป็นผู้มีอำนาจประกอบกิจการแทนมิได้ แต่การให้บุคคลอื่นเช่าเวลาดำเนินรายการ บางช่วงเวลา อาจกระทำได้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข ที่ กสทช. กำหนด"
ดังนั้นการที่ กสท. ทั้ง 3 คนอนุญาตให้ช่อง 33 HD นำผังรายการของ 3 อนาล็อกไปออกอากาศแบบคู่ขนาน จะต้องเป็นกรณีที่เป็นนิติบุคคลที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการทั้งทีวีอนาล็อกและดิจิตอลรายเดียวกันแบบช่อง 7 และ ช่อง 9 เท่านั้น แต่ช่อง 3 อนาล็อก และช่อง 33 HD นั้นถือว่าเป็นคนละนิติบุคคลกัน เท่ากับว่า กสท. อนุญาตให้ ช่อง 3 อนาล็อกซึ่งไม่มีใบอนุญาตถือครองคลื่นความถี่และประกอบกิจการในระบบดิจิตอลโดยไม่มีการเข้าร่วมประมูลแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ช่อง 7 ยังระบุอีกว่า กสท. ทั้ง 3 คน ไม่มีอำนาจในการทำเรื่องดังกล่าว และการกระทำของกรรมการ กสท. ทั้ง 3 คนเป็นการขัดต่อกฎหมาย ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมและผูกขาดในการแข่งขันกิจการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ดังนั้นทางช่อง 7 จึงถือว่าเป็นผู้เสียหายโดยตรงจากการกระทำของ กสท. ทั้ง 3 คน จึงได้ยื่นร้องทุกข์ต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินคดีกับ กสท. ทั้ง 3 คน ดังกล่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก






