
โรงงานผลิตยางรถยนต์ถูกไฟไหม้ ประกาศหยุดงาน 2 วัน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
โรงงานผลิตยางรถยนต์ จ.ระยอง ที่เกิดไฟไหม้เมื่อคืนนี้ ประกาศหยุดงานเป็นเวลา 2 วัน เพื่อทำความสะอาด แต่ยังคงใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเพื่อไม่ให้เกิดเปลวเพลิงขึ้นอีก เผยไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บแน่นอน
วันนี้ (2 กุมภาพันธ์ 2558) รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 ได้รายงานข่าวความคืบหน้าเหตุไฟไหม้ บริษัท แอลแอลไอที (ประเทศไทย) จํากัด ซึ่งประกอบกิจการผลิตยางรถยนต์ (Radial Tyre) จำนวนพื้นที่โรงงาน 333 ไร่ เงินลงทุน 2,700 ล้านบาท จำนวนคนงาน 619 คน ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บริเวณคลังเก็บผลิตภัณฑ์ (ยางรถยนต์) และลุกลามไปยังอาคารเก็บผลิตภัณฑ์ข้างเคียง รวมทั้งหมด 6 อาคาร ทั้งนี้ไม่กระทบต่ออาคารการผลิต
ล่าสุดทางโรงงานได้ประกาศห้ามคนนอกเข้าพื้นที่และให้คนหยุดงานไว้ก่อน เป็นเวลา 2 วันแล้ว คือในวันที่ 2 และ 3 กุมภาพันธ์ 2558 แม้เพลิงจะสงบแล้วแต่ยังคงมีควันคุกรุ่นในบางจุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องคอยฉีดน้ำหล่อเลี้ยง เพื่อไม่ให้เกิดเปลวเพลิงขึ้นอีก เนื่องจากยังมีเศษยางที่ยังเผาไหม้ไม่หมดทับถมกันอยู่ ซึ่งหลังจากไม่มีความร้อนแล้ว เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงจะเข้าตรวจสอบถึงสาเหตุและความเสียหายอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สำหรับค่าเสียหายจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้คิดเป็นมูลค่าหลายร้อยล้านบาท เนื่องจากยางรถยนต์ที่ถูกเพลิงไหม้นั้นเป็นยางที่เตรียมจัดจำหน่ายออกนอกประเทศทั้งสิ้น
ด้าน นางสาวกิติวาสน์ เจริญวัฒนชัย เจ้าหน้าที่การตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท แอลแอลไอที (ประเทศไทย) จํากัด ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางโรงงานได้ควบคุมเพลิงได้หมดแล้วตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ตอนนี้ความเสียหายอยู่ที่ 4 โกดังเท่านั้น แต่ที่ยังเห็นว่ามีควันไฟออกมาจากโรงงานอยู่นั้นเป็นเพราะว่าเป็นโรงงานผลิดยางรถยนต์ ซึ่งเป็นตัวนำเชื้อเพลิงอย่างดี อาจจะต้องใช้เวลา 1-2 วัน ถึงจะควบคุมไว้ทั้งหมด แต่ตอนนี้สถานการณ์ข้างในปกติแล้ว ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้คงต้องรอทางผู้บริหารเข้ามาดู และในเบื้องต้นขอยืนยันว่าได้ตรวจสอบแล้วจากเหตุที่เกิดขึ้นไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บแน่นอน
ทั้งนี้ทางบริษัทยังเผยถึงผลจากการตรวจวัดคุณภาพอากาศ (สถานีเหมราชฯ) พบว่าค่าเฝ้าระวังหลัก ฝุ่น/ SO2, NO2 สูงขึ้น แต่ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน นอกจากนี้ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยยังได้จัดส่งรถ Mobile Unit สำหรับตรวจวัดคุณภาพอากาศ จากนิคมฯ มาบตาพุด จังหวัดระยอง ไปยังพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบ เฝ้าระวัง คุณภาพอากาศ และช่วยสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนที่อยู่โดยรอบโรงงานดังกล่าวแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







