
พ.ต.อ. วทัญญู วิทยผโลทัย นายตำรวจผู้อารักขา ยิ่งลักษณ์ ที่ตระกูลชินวัตรให้ความไว้วางใจ
ชื่อของ พ.ต.อ. วทัญญู วิทยผโลทัย ถูกพูดถึงอย่างหูในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากมีกระแสข่าวแสดงความเลือบแคลงสงสัยว่า เป็นการเหมาะสมแล้วหรือไม่ที่ พ.ต.อ. วทัญญู ยังคงติดตามอารักขา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุกฝีก้าวเยี่ยงเงาตามตัว แม้ว่าเจ้าตัวจะพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ไปแล้ว (อ่านข่าว โฆษก สตช. เฉลยปมสารวัตรหนุ่ย อารักขายิ่งลักษณ์ 1 ปี ไม่ผิดกฎ) ลองมาติดตามกันสิว่นายตำรวจยศพันเอกรายนี้ มีบทบาทต่อนางสาวยิ่งลักษณ์อย่างไร และมีความเป็นมาอย่างไรจึงได้กลายเป็นนายตำรวจคนสนิทในตำแหน่งผู้อารักขาคู่ใจของอดีตนายกหญิง
บทบาทในหน้าที่ผู้อารักขาดุจเงา
ดังจะเห็นได้ว่า พ.ต.อ. วทัญญู มักปรากฎอย่ในฉากหลังของแทบทุกรูปที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสมัยยังดำรงตำแหน่งนายกฯ หรือจนกระทั่งตอนนี้ โดยบทบาทของ พ.ต.อ. วทัญญู คือหน้าที่อารักขาดูแลความปลอดภัยแบบติดตามตัวทุกฝีก้าว เป็นผู้จัดระบบการรักษาความปลอดภัย ประสานกับทีมรักษาความปลอดภัยท้องถิ่นที่นางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางไป ตลอดจนเป็นช่างภาพส่วนตัว ถ่ายรูปนายกหญิงส่งทีมงานเพื่อจัดการส่งต่อไปยังสื่อมวลชนอีกทอด และยังคอยประสานกับสื่อมวลชนในการกำหนดจุดยืนให้สัมภาษณ์ ไปจนกระทั่งเป็นผู้ตัดบทเมื่อเห็นว่าการสัมภาษณ์เริ่มยืดเยื้อหรือมีภารกิจอื่นรอคอยให้ต้องไปทำต่อด้วย
เส้นทางความเป็นมา
สำหรับความเป็นมาของ พ.ต.อ. วทัญญู หรือ "สารวัตรหนุ่ย" หรือ อีกชื่อหนึ่งที่เพื่อน ๆ ตำรวจเรียกกันว่า "สารวัตรเทวดา" นั้น ดูจะอิงอยู่กับเส้นทางการเมืองภายใต้เงาตระกูลชินวัตรอยู่ไม่น้อย นับตั้งแต่สมัยอดีตนายกฯ ทักษิณ ไล่เรียงมาถึงนายสมชาย วงสวัสดิ์ กระทั่งนางสาวยิ่งลักษณ์
พ.ต.อ. วทัญญู เริ่มต้นชีวิตราชการหลังจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 49 ได้รับการบรรจุครั้งแรกที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งทำให้ได้รู้จักกับ พล.ต.ต. อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผู้ดำรงตำแหน่งในกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน จนกระทั่ง พล.ต.ต. อรรถกฤษณ์ ได้รับการโยกย้ายมาเป็น รองผบก.ส.3 ทำหน้าที่ดูแลการอารักขาบุคคลสำคัญ และเป็นหัวหน้าทีมอารักขา ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ ในขณะนั้น จึงได้ดีงตัวสารวัตรหนุ่ยเข้ามาเป็นลูกทีมด้วย
กระทั่งในปี 2551 ที่เกิดการรัฐประหาร พล.ต.อ. เสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ในขณะนั้น ได้เซ็นย้าย พ.ต.อ. วทัญญู ไปประจำที่ยะลา แต่ก็ได้ท่านรองผบ.ตร. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ ยื่นคำร้องขอตัวสารวัตรหนุ่ยมาทำงานในสำนักงานรองผบ.ตร. แทน จนกระทั่งถึงคราวที่พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง สารวัตรหนุ่ยก็ได้กลับเข้ามาทำดูแลความปลอดภัยที่บ้านจันทร์ส่องหล้า
ในปี 2555 ชื่อของ พ.ต.อ.วทัญญู ก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ครึกโครมขึ้นมา เมื่อ พล.ต.อ. เพรียวพันธ์ ซึ่งดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ขณะนั้น เซ็นอนุมัติแต่งตั้งนอกวาระให้สารวัตรหนุ่ยขยับเป็น รอง ผกก. ในตำแหน่งผู้ช่วยนายเวรของ พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. ทั้งที่อีกเพียงเดือนกว่า ๆ ก็จะถึงรอบการแต่งตั้งโยกย้ายปกติประจำปีแล้วก็ตาม แต่อย่างไรก็ดีในทางทางปฏิบัติ สารวัติหนุ่ยก็ยังคงทำหน้าที่อารักขานายกอยู่เช่นเดิม
ส่วนการแต่งตั้งครั้งล่าสุดนั้น เกิดขึ้นในปี 2556 สมัย พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว นั่งเก้าอี้ผบ.ตร. ได้เซ็นให้ พ.ต.อ. วทัญญู ขึ้นเป็นผู้ช่วยนายเวร (สบ.4) ผบ.ตร. และยังเป็นการแต่งตั้งแบบยกเว้นกฎ ก.ตร. เพราะสารวัตรหนุ่ยยังอยู่ในตำแหน่งรองผกก.ไม่ครบ 2 ปี อีกด้วย
จนเมื่อไม่กี่วันมานี้ ชื่อของสารวัตรหนุ่ยก็กลับมาเป็นที่พูดอีกครั้ง หลังข่าวขบวนรถนางสาวยิ่งลักษณ์ที่เดินทางกลับไปไหว้บรรพบุรุษที่จังหวัดเชียงใหม่ ถูกหยุดตรวจระหว่างทางที่ด่านตรวจทหาร ถูกเผยแพร่ออกไปพร้อมภาพข่าวเป็นสารวัตรหนุ่ยนั่งอยู่ด้านหน้าของรถตู้ โดยมีนางสาวยิ่งลักษณ์โดยสารอยู่ด้านหลัง เกิดการตั้งคำถามว่าเหตุใดนายตำรวจยศพันเอกถึงยังต้องคอยอารักขา "อดีตนักการเมือง" และตอนนี้ยังรับเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชนอยู่หรือไม่
จนได้มีการชี้แจงแล้วว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ. วทัญญู นั้น เป็นไปอย่างถูกต้องตามหนังสือร้องขอผู้ดูแลความปลอดภัย ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ขณะดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้ระบุขอแบบเจาะจงตัว เพื่อทำหน้าที่อารักขา "บุคคลสำคัญ" ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2557 - เดือนสิงหาคม 2558 และแม้ว่านางสาวยิ่งลักษณ์จะพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ก็ยังคงอารักขาต่อไปไม่ผิดกฎเพราะยังคงฐานะเป็นบุคคลสำคัญอยู่ และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาตามคำร้องในหนังสือขอยืมตัวเมื่อไร พ.ต.อ. วทัญญู ก็จะกลับมาทำงานในตำแหน่งเดิม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Chulcherm Yugala







